หากยังจำกันได้ ในอดีต ตัวละครเทพเจ้าสายฟ้า ธอร์ (Thor) ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในหนัง Standalone เรื่องแรกของเตัวเองอย่าง ‘Thor’ (2011) ผลงานการกำกับของ เคนเนธ บรานาห์ (Kenneth Branagh) นั้นดูจะไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับซูเปอร์ฮีโรคนอื่น ๆ ของ Marvel Studios

จนกระทั่ง ไทกา ไวทีที (Taika Waititi) ผู้กำกับสายฮาชาวนิวซีแลนด์ ที่เข้ามาพลิกโฉมเรื่องราวของเจ้าชายแห่งแอสการ์ดใน ‘Thor: Ragnarok’ (2017) และ ‘Thor: Love and Thunder’ (2022) ที่แม้จะทำรายได้ค่อนข้างดี แต่ก็ได้คำวิจารณ์เสียงแตก โดยเฉพาะอารมณ์ขันที่หลายคนมองว่าภาคนี้ดูจะล้นขอบไปหน่อย

คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) พ่อหมีเจ้าของบทธอร์ ที่ปีนี้กำลังจะมีผลงานทั้งการพากย์เสียงเป็น ออเรียน แพ็กซ์ (Orion Pax) หรือ ออปติมัส ไพรม์ (Optimus Prime) ในหนังแอนิเมชัน ‘Transformers One’ และการรับบทเป็น ดีเมนทัส (Dementus) ในหนังสปินออฟ ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ ได้ให้สัมภาษณ์และขึ้นปกนิตยสาร Vanity Fair ฉบับล่าสุด

ที่เขาได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการแสดงในบทธอร์ของเขา โดยเฉพาะการพยายามนำเอาความตลกขบขันมาใส่ให้กับคาแรกเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังรู้สึกผิดหวัง และยังหลอกหลอนเขามาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้

“ตอนนี้ผมเหมือนยังติดความหมกมุ่นกับการด้นสด และต้องทำอะไรประหลาด ๆ ออกมา แล้วผมก็กลายเป็นคนที่ต้องคอยล้อเลียนตัวเองอีกทีหนึ่ง ซึ่งผมเองไม่ได้ทำสำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้เลย”

Chris Hemsworth in Thor Love and Thunder

ไม่ใช่เพียงความรู้สีกไม่พอใจต่อการแสดงของเขาเองเท่านั้น เพราะแม้เขาจะรู้ว่าบทบาทนี้ส่งให้เขากลายเป็นนักแสดงแถวหน้า แต่เฮมส์เวิร์ธก็ได้สะท้อนถึงความรู้สึกหงุดหงิดต่อคาแรกเตอร์ธอร์ที่เขารับบทในหนังเดี่ยว 4 เรื่อง และหนังครอสโอเวอร์ ‘Avengers’ อีก 4 ภาค และปรากฏตัวเป็น Cameo ในหนังเรื่องอื่น ๆ ของ MCU

“คือบางครั้ง ผมเองก็รู้สึกเหมือนกับเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทีม Avengers นะ เวลาที่ผมอ่านบทของคนอื่น ผมมักจะคิดว่า ‘เรื่องราวของพวกเขามันเจ๋งกว่าเยอะเลย เรื่องของพวกเขาสนุกขึ้นกว่าเดิมด้วย แล้วตัวละครของผมกำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย ? ‘”

“มันเป็นเรื่องของการที่ผมต้องมาคอยใส่วิก มีกล้ามโต ๆ มีชุดเท่ ๆ แล้วก็แสงอยู่ตรงไหน ? คือมันก็จริงอยู่แหละ ที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ๋นี้ แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่ง ก็อาจจะมีคนอื่นมาแทนที่ผมได้เหมือนกันนะครับ”

หลังจากประสบความล้มเหลวทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์จาก ‘Thor’ 2 ภาคแรกที่มืดหม่นจนเกินไป ไวทีทีที่เข้ามากำกับ ‘Thor: Ragnarok’ ได้เข้ามาพลิกโฉมเรื่องราวของเจ้าชายแห่งแอสการ์ดให้มีสีสัน เพิ่มกลิ่นอายความตลกในแบบฉบับของไวทีทีมากขึ้น ส่วนเฮมส์เวิร์ธเองก็ปรับเปลี่ยนบทบาทธอร์ ให้มีความเป็นเจ้าชายที่มีทั้งความเท่บึกบึน ผสมกับทางตลกแบบธรรมชาติ

ซึ่งการปรับปรุงโทนหนังใน 2 ภาคหลังก็ส่งให้ตัวหนังทำรายได้ Box office ทั่วโลกได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างหลากหลายด้วยเช่นกัน บ้างมองว่าเป็นสีสันที่เป็นเอกลักษณ์จากหนังซูเปอร์ฮีโรของ MCU เรื่องอื่น ๆ ในขณะที่ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่ามันตลกจนเกินไป

จนขนาดที่เฮมส์เวิร์ธเองยังเคยเปิดเผยกับ GQ ว่า พวกเขาดูจะมันมือกับการสาดมุกตลกมากเกินไป “ผมคิดว่าพวกเราสนุกกันเกินไป สุดท้ายตัวหนังก็เลยออกมางี่เง่าแบบนั้น มันเลยยากที่เราจะนำเสนอแก่นเรื่องราวและแนวคิดของตัวหนังที่แท้จริงออกมา ผมเองชอบตอนถ่ายทำนะครับ ผมสนุกมาก แต่คุณก็คงไม่รู้หรอกว่าผู้ชมจะตอบสนองยังไงกับหนัง”

Chris Hemsworth Taika Wititi in Thor Love and Thunder

จนตอนนี้ก็ยากที่จะเดาว่า หนังเดี่ยว Thor ภาค 5 นั้นจะยังคงได้เฮมส์เวิร์ธกลับมาแสดงด้วยหรือไม่ เพราะหลังจากที่ในปี 2022 เขาประกาศว่าพบยีนที่ทำให้เขามีแนวโน้มว่าอาจจะมีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์มากกว่าผู้ป่วยทั่วไป 8-10 เท่า เขาก็ตัดสินใจหยุดรับงานแสดง หันไปดูแลตัวเองและอยู่กับครอบครัวอยู่พักใหญ่

รวมทั้งไวทีทีเองที่ออกมายืนยันว่าคงไม่ได้กลับมากำกับในภาค 5 อีก เนื่องจากเขากำลังมุ่งมั่นกับโปรเจ็กต์หนังเรื่องอื่น ๆ ที่เขาเซ็นสัญญากำกับไว้แล้ว จากนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่า ‘Thor 5’ จะออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน และเฮมส์เวิร์ธจะยังอยากกลับมาแก้มือกับบทบาทเดิมในภาคใหม่หรือไม่

แม้เจ้าตัวจะไม่ชอบการแสดงของตัวเอง แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย นั่นก็คือ นักแสดงเจ้าของบทบาท โทนี สตาร์ก หรือ ‘Iron Man’ อย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ที่ได้กล่าวถึงการแสดงของเขาในบทสัมภาษณ์เดียวกันว่า ธอร์นั้นเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด

“อย่างแรกก็คือ ในฐานะตัวละคร ธอร์เป็นตัวละครที่ปรับเปลี่ยนอะไรได้ยากมากนะครับ เพราะว่ามีข้อจำกัดเยอะแยะ แต่เขากับบรานาห์ ค้นพบวิธีที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดนั้น และทำให้เขามีความเป็นเหมือนพระเจ้า แต่ก็ยังเข้าถึงได้ ในความเห็นผมนะ”

“ผมว่าเฮมส์เวิร์ธเป็นนักแสดงที่มีจิตใจที่ซับซ้อนที่สุดในหมู่พวกเราชาว Avengers แล้วล่ะ เขาเป็นคนที่มีไหวพริบ มีความน่าเคารพ แต่ก็ยังเป็นคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ รวมทั้งยังมีความกระตือรือร้น และความอ่อนโยนอีกด้วย”