คำเตือน: บทความนี้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเพศ ความรุนแรง และการฆ่าตัวตาย


แม้ว่าปี 2021 จะเป็นปีที่เป็นขาขึ้นของ อาร์มี แฮมเมอร์ (Armie Hammer) นักแสดงหนุ่มวัย 37 ปี ในอาชีพการแสดง เขามีบทบาทในหนังดัง ๆ หลายเรื่อง ตั้งแต่การรับบทเป็นพี่น้องวิงเคิลวอสส์ (Winklevoss) ใน ‘The Social Network’ (2010), ‘The Man from U.N.C.L.E.’ (2015) และรับบทเป็นโอลิเวอร์ แฟนหนุ่มของเอลิโอ ใน ‘Call Me By Your Name’ (2017) ซึ่งส่งให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฮอลลีวูดมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ปีเดียวกันนั้นก็ยังเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของจุดจบในอาชีพนักแสดงของเขาด้วย หลังจากต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาจากแฟนเก่าของเขาหลายคนที่ต่างออกมาแฉว่าเขามีรสนิยมทางเพศที่รุนแรง ทั้งการข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ ใช้กำลังและวาจาข่มขู่ รวมทั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศแบบ BDSM (Bondage, Discipline, Sadism, Masochism) และรสนิยมชอบกินเนื้อมนุษย์ (Cannibalism)

หลังจากที่เขาห่างหายจากฮอลลีวูดและเก็บตัวเงียบมานาน แฮมเมอร์ ที่เวลานี้กลายเป็นอดีตนักแสดง ได้มีโอกาสเปิดใจเกี่ยวกับการเผชิญกับข่าวฉาวในพอดแคสต์ Painful Lessons ที่เขาได้มีโอกาสบอกเล่าถึงความรู้สึกของการถูกคว่ำบาตรจากทั้งจากฮอลลีวูด และถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นมนุษย์กินคน

“ณ ตอนนี้ ผมสามารถมองสิ่งเหล่านั้นด้วยระยะและความรู้สึกที่กว้างขึ้น ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่า ‘มันเป็นอะไรที่ตลกมาก ๆ’ ต่อบรรดาผู้คนที่เรียกผมว่าเป็นมนุษย์กินคน และทุกคนต่างก็เชื่อ พวกเขาจะบอกกันว่า ‘ใช่เลย ผู้ชายคนนี้ชอบกินคนแหง ๆ’ ผมก็จะคิดแบบว่า ‘อะไรนะ ? คุณพูดถึงเรื่องอะไรวะ ? คุณรู้หรือเปล่าว่าต้องทำอะไรบ้างถึงจะกลายเป็นมนุษย์กินคนจริง ๆ น่ะ ? นั่นก็คือคุณต้องกินเนื้อคนจริง ๆ ไง ! แล้วผมจะเป็นมนุษย์กินคนได้ยังไง ?’ มันเป็นอะไรที่ประหลาดมากจริง ๆ ครับ”

เขาจำกัดความถึงความตกต่ำของตัวเขาเองที่เกิดขึ้นหลังจากข่าวฉาวว่า “มันเป็นการตายของอัตตา เป็นความตายของอาชีพการงาน มันเป็นเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ที่ระเบิดขึ้นในชีวิตผม มันฆ่าตัวผม มันฆ่าอัตตาของผม มันฆ่าผู้คนรอบ ๆ ตัวผม ทั้งที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนและที่ไม่ใช่เพื่อน ทุกคนจากไปในพริบตา แต่อาคารอะไรต่าง ๆ ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ผมยังอยู่ และผมยังสุขภาพแข็งแรงดี…”

12 มกราคม 2021 บัญชี Instagram ลึกลับที่ใช้ชื่อว่า @houseofeffie ได้โพสต์ภาพแชตข้อความนับร้อยภาพที่ถูกอ้างว่าเป็นข้อความที่แฮมเมอร์คุยกับแฟนเก่า ในหลาย ๆ ข้อความแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมทางเพศของนักแสดงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ทั้งการข่มขืน รวมทั้งรสนิยมทางเพศแบบ BDSM

ส่วนหนึ่งของข้อความ แฮมเมอร์ใช้คำพูดในแชตในเชิงส่อถึงรสนิยมแบบ Cannibalism และความสัมพันธ์แบบนายบังคับทาส ทั้งการพูดจาว่าอยากกัด ถลกหนัง หักกระดูก ตัดหัวใจ อวัยวะ และเอาเลือดมากินทั้งเป็น ๆ และขู่บังคับไม่ให้เธอบอกเรื่องนี้กับภรรยาของเขา

Armie Hammer

หลังมีข่าวออกมา ผู้หญิงอีกหลายคนที่อ้างว่าเป็นแฟนเก่าของแฮมเมอร์ ต่างออกมาร่วมแฉพฤติกรรมและรสนิยมทางเพศของแฮมเมอร์ คนแรกที่ออกมาร่วมแฉก็คือ เอฟฟี แองเจโลวา (Effie Angelova) อดีตแฟนสาวของเขาที่อยู่เบื้องหลังบัญชี Instagram ได้ออกมาเปิดเผยว่า นักแสดงเคยก่อเหตุข่มขืนโดยใช้ความรุนแรง และล่วงละเมิดทางจิตใจ อารมณ์ และทางเพศ เมื่อตอนที่เธออายุได้ 20 ปี

รวมทั้งมีแฟนเก่าของแฮมเมอร์บางคนออกมาแฉพฤติกรรมอีกมากมาย ทั้งการปฏิบัติตัวราวกับนายและทาส การถือมีดไปด้วยระหว่างมีเพศสัมพันธ์และข่มขู่ว่าจะฆ่าและกินเธอ ผู้หญิงรายหนึ่งเล่าว่าเธอถูกเขาจับมัด และบอกกับเธอว่าต้องการจะเอาซี่โครงของเธอมาทำบาร์บีคิวแล้วกิน แฟนเก่าบางคนเล่าว่าเคยถูกเขาใช้มีดกรีดรูปตัว A ใกล้ ๆ อวัยวะเพศของเธอ นอกจากนี้ยังมีแชตที่ปล่อยออกมา ซึ่งมีข้อความที่แฮมเมอร์บอกกับเธอว่าตัวเขาเอง “เป็นมนุษย์กินคน 100%” (“I am 100% a cannibal.”)

ในครั้งนั้น แฮมเมอร์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาผ่านทนายว่าไม่เคยเกิดขึ้น และการมีความสัมพันธ์ทุกครั้งของเขาล้วนเกิดจากการยินยอมโดยสมัครใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วแม้ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ เพราะยังไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอ แต่ข่าวฉาวนี้ก็ร้ายแรงมากพอจนส่งผลทำให้แฮมเมอร์ถูกปลดออกจากการแสดงหลายต่อหลายเรื่อง ตั้งแต่หนังแอ็กชันโรแมนติกคอเมดี ‘Shotgun Wedding’ (2022) ที่แสดงร่วมกับเจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez) ถูกปลดจากโปรเจกต์ซีรีส์ ‘The Offer’ ของ Paramount+ ที่บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ ‘The Godfather’

รวมทั้งยังถูกปลดจากการเป็นนักแสดงในละครบรอดเวย์ ‘The Minutes’ และยังถูก Publicist ผู้รับหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ รวมทั้งบริษัทต้นสังกัด WME (William Morris Endeavor) ยกเลิกสัญญาการทำงานร่วมกับเขาด้วย แฮมเมอร์มีผลงานสุดท้ายในฮอลลีวูดคือการรับบทในหนังทริลเลอร์สืบสวนสอบสวน ‘Death on the Nile’ (2022) ก่อนจะหายไปจากฮอลลีวูดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นอกจากนี้ ข่าวฉาวดังกล่าวยังส่งผลให้เขาถูกภรรยา อลิซาเบธ แชมเบอร์ส (Elizabeth Chambers) ที่แต่งงานกันมานับ 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คนฟ้องหย่า มีรายงานข่าวออกมาว่า มีคนพบเห็นแฮมเมอร์ รวมทั้งอดีตภรรยาและลูก ๆ เดินทางไปใช้ชีวิต และทำงานเป็นคนขายไทม์แชร์ (Timeshare) อยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน (Cayman Islands) โดยมีโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบำบัดยาเสพติดและทางจิตใจ สถานะการเงินของเขาฝืดเคืองจนถึงขั้นค้างชำระบัตรเครดิตจำนวนกว่า 60,000 เหรียญ

ปี 2023 แฮมเมอร์ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Air Mail เป็นครั้งแรกหลังจากกระแสข่าวฉาว ซึ่งเขาได้เล่าถึงที่มาของรสนิยม BDSM ของตัวเอง อันมีที่มาจากการถูกบาทหลวงหนุ่มทารุณกรรมทางเพศ เมื่อตอนที่เขามีอายุเพียง 13 ปี และเปิดเผยว่าชื่อเสียงของเขาทำให้หญิงสาววัย 20 ที่คบหากับเขายอมทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เขาต้องการ เขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวที่หลอกใช้คนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองมีความสุข

Armie Hammer

แฮมเมอร์เล่าถึงช่วงเวลาที่เขาลี้ภัยโรคระบาด ฮอลลีวูด และกระแสข่าวมาใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ที่ครั้งหนึ่งเกือบทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการถูกตราหน้าจากสังคมอีกต่อไป

“มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมคิดว่าผมคงทำสิ่งนี้ไม่ได้อีกต่อไป ผมได้รับความเกลียดชัง แล้วมันก็ดิ่งลึกเข้าไปในใจของผม…แล้วมีครั้งหนึ่ง ผมยืนอยู่ที่ชายฝั่ง ผมว่ายน้ำออกไปไกลมาก แล้วก็นอนลอยตัวอยู่ตรงนั้น…เป็นความพยายามจะฆ่าตัวตายแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ผมคิดว่าผมทำแบบนั้นกับลูก ๆ ของผมไม่ได้”

แม้เหตุการณ์นี้จะผลักดาวที่กำลังจะมีแววรุ่งให้พุ่งดิ่งลงเหมือนดาวตก แต่เขาก็พยายามจะวางแผนเขียนบทหนังสักเรื่อง เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แฮมเมอร์ยังเล่าว่า แม้ข่าวฉาวจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ “ไม่มีที่ยืน” ในฮอลลีวูด แต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณในเหตุการณ์ร้ายแรง ที่ส่งให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป

“ไม่ว่าผู้คนเขาจะพูดอะไรกัน หรือจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่ตัวผมเองรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่ผมรู้สึกขอบคุณกับสิ่งนี้จริง ๆ เพราะก่อนที่ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นกับตัวผม ผมไม่เคยรู้สึกดีกับตัวเองเลย”

“ผมไม่เคยรู้สึกพึงพอใจกับตัวเอง ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีเพียงพอ ผมไม่เคยอยู่ในที่ที่ผมจะสามารถมีความสุขกับตัวเอง หรือมีความเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตัวเอง ผมไม่เคยรู้วิธีที่จะให้ความรักกับตัวเอง ผมไม่เคยเรียนรู้วิธีที่ผมจะตรวจสอบตัวเอง แต่ผมมีสิ่งนี้ที่ผมได้รับมันจากผู้คนมากมาย จนทำให้ผมไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้วิธีที่จะมอบสิ่งนี้ให้กับตัวเอง”