Nothing ได้เปิดตัว CMF by Nothing Phone 1 สมาร์ตโฟนรุ่นแรกของแบรนด์อย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมเข้าตลาดไทยด้วยการวางขายทุกอย่างที่เปิดตัวในประเทศไทย !

CMF Phone 1

โดย CMF Phone 1 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของค่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการสปอยล์ด้วยการตลาดแหวกแนว โชว์การประกอบสมาร์ตโฟนทั้งเครื่อง มาตลอด 8 วัน และทาง Nothing ก็ได้เปิดตัว CMF Phone 1 อย่างเป็นทางการในวันนี้

โดย CMF Phone 1 มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลังที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ด้วยการขันนอตของตัวเครื่องจำนวน 4 ตัว (หัวแบน) และหัว Knob ด้านล่างขวาของตัวเครื่อง และสามารถเปลี่ยนฝาหลังตัวเครื่องได้ทั้งหมด 4 สี คือ ดำ, ส้ม, น้ำเงิน และมินต์ โดยยังสามารถเพิ่ม Accessories อื่น ๆ เข้าไปเสริมด้านหลังของเครื่องได้อีกด้วย โดย Nothing บอกว่าเป็นการนำเอาจุดแข็งของ Nothing มาผสมผสานเข้ากับความเข้าถึงได้ด้วย

โดย Accessories ที่มีให้ได้เปลี่ยนในตอนนี้ประกอบไปด้วย Kickstand, สายคล้องคอ (Lanyard) และเคสใส่การ์ด (Card Case) ที่สามารถติดเคสใส่การ์ดด้วยแม่เหล็กเพิ่มเติมได้ด้วย

นอกจากนั้น สเปกภายในเครื่องของ CMF Phone 1 ยังมาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 7300, แรมขนาด 8GB, รอมขนาด 128GB และ 256GB (เพิ่ม MicroSD Card ได้), หน้าจอ sAMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว 120Hz ที่ความสว่างสูงสุด 2,000 nits, แบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ และชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็ว 33W ผ่านมาตรฐาน PD, และกล้องหลังเซนเซอร์ Sony IMX882 และเซนเซอร์ถ่ายภาพบุคคล และกล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล

นอกจากนั้น CMF Phone 1 มาพร้อมกับซอฟต์แวร์รูปแบบเดียวกับสมาร์ตโฟน Nothing รุ่นอื่น ๆ ด้วย NothingOS 2.6 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ Nothing ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมเอง และยังทำให้สามารถใช้งานได้ดีเหมือนกับสมาร์ตโฟน Nothing อีกด้วย โดย Nothing บอกว่า จะให้การอัปเดตซอฟต์แวร์ 2 รุ่น พร้อมกับอัปเดตแพตช์การรักษาความปลอดภัย 3 ปีด้วย

CMF Watch Pro 2

CMF Watch Pro 2 เป็นสมาร์ตวอตช์ภาคต่อของ CMF Watch Pro ที่มีการพัฒนาจากรุ่นแรกค่อนข้างมาก โดยมาพร้อมกับการออกแบบของกรอบที่สามารถเปลี่ยนได้ โดยมีจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.32 นิ้ว สามารถเปิด Always On Display ได้แล้ว และสามารถเปลี่ยนหน้าปัดของนาฬิกาได้มากกว่า 100 แบบ และยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ในแบบฉบับของ Nothing เองอีกด้วย

โดยตัวเรือนยังรองรับโหมดกีฬามากกว่า 120 โหมด และการจดจำกีฬา 5 ชนิดโดยอัตโนมัติ โดยยังมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO₂) และระดับความเครียดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

และนี่คือครั้งแรกของ Nothing ที่สมาร์ตวอตช์ สามารถโทรเข้าและออกผ่านบลูทูทได้ด้วยไมโครโฟนและลำโพงที่ติดอยู่ที่ตัวเรือน และยังใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้เหมือนเดิม ทั้งการควบคุมเพลง, รับแจ้งเตือน ควบคุมกล้องจากระยะไกล และตรวจสอบสภาพอากาศ แถมยังผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP68 และเคลมว่ามีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ถึง 11 วันด้วย

CMF Buds Pro 2

CMF Buds Pro 2 เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS รุ่นใหม่ที่ Nothing เปิดตัวมาพร้อมกัน โดยเป็นหูฟังที่มาพร้อมกับ Smart Dial ซึ่งเป็นปุ่มหมุนได้ที่อยู่บนเคส โดยสามารถกดที่ตัว Dial เพื่อตั้งค่าหูฟังเพิ่มเติมได้ผ่านปุ่มเดียวกันนี้

นอกจากตัวเคสแล้ว ตัวหูฟังเองก็ยังมาพร้อมกับไดรเวอร์คู่ ด้วยไดรเวอร์เบสขนาด 11 มม. และทวีตเตอร์ขนาด 6 มม. และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Codec LDAC™ ที่ผ่านการรับรอง Hi-Res Audio Wireless และ Dirac Opteo™ กล่าวคือสามารถเล่นเพลงได้แบบ Hi-Fi ได้ผ่านบลูทูทนั่นเอง รวมไปถึงยังสามารถตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active Noise Cancellation สูงสุด 50 เดซิเบล และช่วงความถี่ที่กว้าง 5000 Hz

ส่วนไมโครโฟนมาพร้อมไมค์ HD 6 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Clear Voice 2.0 และ Wind-Noise Reduction 2.0 เพื่อให้การโทรสนทนาชัดมากขึ้น และยังรองรับฟีเจอร์ Spatial Audio Effect เพื่อให้เล่นเสียงได้แบบ 3 มิติอีกด้วย และแบตเตอรี่ที่ Nothing เคลมว่าสามารถใช้ได้นานถึง 43 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพียง 10 นาที เพื่อใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมงอีกด้วย

การเข้าตลาดประเทศไทยครั้งแรกของ CMF by Nothing

ทาง BT beartai ได้มีการพูดคุยกับทาง Nothing เรื่องการเข้ามาทำการตลาดของ CMF by Nothing ในประเทศไทยแล้ว โดย Nothing ได้ตัดสินใจนำเอาสินค้าในแบรนด์ CMF by Nothing เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจาก CMF Phone 1, CMF Watch Pro 2 และ CMF Buds Pro 2 เลย โดยได้ตัดสินใจนำเอาทุกอย่างที่เปิดตัวในวันนี้ (8 กรกฎาคม)​ มาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย โดยคาดว่านี่จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะระดับวัยรุ่นที่เพิ่งมีสมาร์ตโฟนเครื่องแรก หรือใครที่อยากได้ Secondary Phone หรือสมาร์ตโฟนเครื่องสำรองไว้ใช้ก็ได้เช่นเดียวกัน

โดยราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยของ CMF Phone 1, CMF Watch Pro 2 และ CMF Buds Pro 2 นั้นจะประกอบไปด้วย

CMF Phone 1 จะมีให้เลือกซื้ออยู่ 2 ความจุด้วยกัน:

  • รุ่นแรม 8GB และรอม 128GB ราคา 9,499 บาท
  • รุ่นแรม 8GB และรอม 256GB ราคา 10,699 บาท

โดย CMF Phone 1 มีอุปกรณ์เสริมที่มาคู่กับมือถือที่วางจำหน่ายทั้งหมด ประกอบไปด้วย

  • เคส (ดำ, ส้ม, เขียวอ่อน, น้ำเงิน) ราคา 990 บาท
  • ขาตั้งมือถือ (Kickstand) ราคา 890 บาท
  • สายคล้องมือถือ (Lanyard) ราคา 890 บาท
  • เคสใส่บัตร (Card Case) ราคา 890 บาท

และ IoT อื่น ๆ ประกอบไปด้วย

  • CMF Watch Pro 2 ราคา 2,699 บาท
  • CMF Buds Pro 2 ราคา 2,399 บาท

โดยทุก ๆ อย่างนั้นจะวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มหาซื้อได้ที่ Jaymart เป็นที่แรก ก่อนจะวางจำหน่ายที่หน้าร้าน dotlife ต่อไป รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ Jaymart Website (เป็นที่แรก), Nothing Shopee Official Store และ Dotlife Website อีกด้วย

แกะกล่องเครื่องจริง CMF Phone 1, CMF Watch Pro 2 และ CMF Buds Pro 2 !

ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรีวิวของทั้ง CMF Phone 1, CMF Watch Pro 2 และ CMF Buds Pro 2 ได้ผ่าน BT Beartai ได้เร็ว ๆ นี้