LG เริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม IT มากขึ้นนะครับ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 หมวดหลักคือ LG Gram โน้ตบุ๊กระดับกลาง-สูง ที่เน้นเรื่องความเบาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มี LG UltraGear จอสำหรับเกมเมอร์ และ LG MyView Smart Monitor หน้าจออัจฉริยะที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง ลงแอปฯ ได้ หรือจะเสียบกับคอมพิวเตอร์เป็นหน้าจอคอมฯ ก็ได้ โดยในปี 2567 มีรุ่นใหม่ดังนี้

โน้ตบุ๊กสุดเบา LG Gram

สำหรับปีนี้ LG gram และ LG gram Pro มาใน 5 รุ่น ขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว โดยตัวท็อป LG gram Pro 17 นิ้วรุ่นใหม่ มาพร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX™ 3050 4GB ในน้ำหนักเครื่องที่เบาเพียง 1.37 กก. ซึ่งนับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ที่มาพร้อมการ์ดจอแยกและยังมีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาด โดย LG เคลมว่าโน้ตบุ๊กรุ่นนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ได้ยาวกว่า 1 วัน

แม้ว่า LG Gram รุ่นปีนี้ยังไม่ได้มีปุ่ม Co-Pilot เลยยังไม่ได้แปะตราว่าเป็น AI PC เต็มตัว แต่ก็ขับเคลื่อนด้วย Intel® Core™ Ultra 7 และ Ultra 5 พร้อมหน้าจอแบบ IPS ให้สีสันภาพที่แม่นยำสมจริง มุมมองภาพกว้าง อัตราส่วนหน้าจอ 16:10

ในส่วนของความทนทาน ตัวเครื่องที่หนักไม่ถึง 1.4 กก. นี้ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบา จนนำไปผลิตเครื่องบิน และยังผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานและความน่าเชื่อถือตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H

ในส่วนของฟีเจอร์ ยังได้อัปเกรด LG gram link ให้ยืดหยุ่นขึ้น เช่น สามารถถ่ายโอนไฟล์ต่าง ๆ ระหว่างอุปกรณ์มือถือ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊กได้อย่างง่าย หรือใช้การเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตเพื่อเพิ่มจำนวนหน้าจอใช้งานให้มากขึ้น ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งกับ iOS และ Android

โน้ตบุ๊กระดับพรีเมียม LG gram และ LG gram Pro ทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 46,020 – 73,090 บาท

เกมมิงมอนิเตอร์ LG UltraGear

รุ่นแผงหน้าจอ OLED

LG UltraGear 45GS95QE

ปีนี้ LG UltraGear ออกรุ่นใหม่มาทั้งหมด 8 รุ่น โดยเป็นรุ่นที่ใช้แผงหน้าจอ OLED 5 รุ่นที่รองรับรีเฟรชเรต 240Hz และเวลาตอบสนอง 0.03ms (GtG) โดยแบ่งเป็นรุ่นจอธรรมดาคือ 32GS95UE, 27GS95QE และรุ่นจอโค้งระดับ 800R อีก 3 ตัวคือ 45GS95QE, 39GS95QE, 34GS95QE ในขนาดหน้าจอ 32, 27 และ 45, 39, 34 ตามลำดับ โดยเมื่อใช้แผงหน้าจอเป็น OLED ก็จะให้สีดำได้ดำสนิท ให้คอนทราสต์ 1,500,000:1

LG UltraGear 32GS95UE ยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างคือ เป็นเกมมิงมอนิเตอร์รุ่นแรกของโลกที่มีคุณสมบัติ Dual-HZ OLED ให้ผู้ใช้สามารถสลับใช้อัตรารีเฟรชเรตระหว่าง OLED ที่ 4K 240Hz หรือ Full HD ที่ 480Hz ทำให้เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการความลื่นไหลยิ่งกว่าที่จอทั่วไปทำได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Micro Lens Array (MLA) ลดการสูญเสียแสง ป้องกันการสะท้อน จึงมองเห็นความสว่างสูงขึ้น 60% และมุมมองที่กว้าง 30% เมื่อเทียบกับจอแสดงผล OLED รุ่นเก่า

ซึ่งจอมอนิเตอร์ที่เป็นแบบ OLED นี้ยังมีระบบเสียง CSO (Cinematic Sound OLED) จากลำโพงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังแผง OLED ทำให้เสียงเหมือนออกมาจากหน้าจอ และยังแสดงรายละเอียดเสียงขั้นสูงระดับพิกเซลด้วยลำโพงวูฟเฟอร์ และ DTS® Virtual:X™ ด้วย

โดย LG UltraGear รุ่นพาเนล OLED 5 รุ่น 32GS95UE, 45GS95QE, 39GS95QE, 34GS95QE, และ 27GS95QE ราคาเริ่มต้นที่ 33,700 – 58,500 บาท

รุ่นแผงหน้าจอ Nano IPS

LG UltraGear 27GS60F

2 รุ่นแรกคือ LG UltraGear รุ่น 32GS85Q ขนาดหน้าจอ 32 นิ้ว มาพร้อมอัตรารีเฟรชภาพ 180Hz และรุ่น 27GS85Q ขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว มีอัตรารีเฟรช O/C ไปได้ถึง 200Hz ให้ความคมชัดระดับ QHD (2560×1440) รองรับขอบเขตสี DCI-P3 98% พร้อมความหน่วงต่ำ 0.01ms (GtG) รองรับ VESA Adaptivesync, NVIDIA® G-SYNC® และ AMD FreeSync™ ทำให้รองรับการปรับจำนวนเฟรมหลายรูปแบบ

สุดท้ายรุ่นเริ่มต้นคือ LG UltraGear 27GS60F ที่เป็นพาเนล Full HD IPS ขนาดจอ 27 นิ้ว รองรับ NVIDIA® G-SYNC® ให้ความหน่วง 1ms (GtG) พร้อมรีเฟรชเรต 180Hz รองรับสี sRGB 99% พร้อมรองรับ HDR10 ในรูปแบบจอที่ถูกออกแบบให้เป็นจอไร้ขอบทั้งสามด้าน

LG UltraGear รุ่นพาเนล Nano IPS 2 รุ่น ได้แก่ 32GS85Q และ 27GS85Q ราคา 14,500 บาท และ 11,300 บาท ตามลำดับ และรุ่นพาเนล Full HD IPS ได้แก่ 27GS60F ราคา 5,350 บาท

LG MyView Smart Monitor

LG MyView 32SR85U

เปิดตัวมา 3 รุ่นย่อยคือ รุ่นจอ 32 นิ้ว 32SR85U (4K) และ 32SR50F (Full HD) กับหน้าจอ 27 นิ้ว 27SR50F (Full HD) มาพร้อมระบบปฏิบัติการ webOS 23 เช่นเดียวกับสมาร์ตทีวีของแอลจีที่รองรับสตรีมมิงแอปพลิเคชันด้านความบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Prime Video, Disney+, YouTube และ Apple TV รวมถึงแอปพลิเคชันเกมและกีฬาที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถจัดการแอปพลิเคชันบนหน้าจอได้ตามความชอบส่วนตัว สะดวกสบายด้วยฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับพีซีจากระยะไกลด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ ช่วยให้สามารถเปลี่ยนบ้านเป็นโฮมออฟฟิศได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม LG MyView ไม่ได้การันตีอัปเดต webOS ข้ามรุ่นให้เหมือนทีวีที่เป็น webOS 24 นะครับ

จอสมาร์ตมอนิเตอร์ LG MyView Smart Monitor 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 32SR85U, รุ่น 32SR50F และ รุ่น 27SR50F ราคาเริ่มต้นที่ 6,500 – 17,000 บาท

นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีของแอลจีในปี 2567 ว่า “สำหรับการเปิดตัวไลน์อัปสินค้าไอทีใหม่ล่าสุดในปีนี้ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก จอเกมมิงมอนิเตอร์ และจอสมาร์ตมอนิเตอร์ เน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์ไอทีระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย ประสิทธิภาพการใช้งานขั้นสูง และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มุ่งเน้นการใช้งานที่สะดวกและง่ายดายเป็นสำคัญ และคาดว่าการเปิดตัวไลน์อัปสินค้าไอทีที่หลากหลายจะมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตด้านยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีของแอลจีให้เพิ่มขึ้นถึง 30% สอดคล้องกับภาพรวมตลาดสินค้าไอทีที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด