พี่ยา อดีตผู้ผ่านการดำน้ำสกูบ้ามาไม่ต่ำกว่า 150 ไดฟ์ ก่อนจะประสบอาการจอประสาทตาเสื่อม จนต้องหยุดดำน้ำไป(เกือบ)ถาวร หลังจากอยู่กับการปรับตัวใช้ชีวิตในความมืด 12 ปี ก็ได้ตัดสินใจเปิดโอกาสให้กับกิจกรรมที่รักอีกครั้ง
คำถามที่ใครหลายคนก็คงจะสงสัย
เรามีความสุขกับการดำน้ำ ถึงแม้ว่าเราจะตาบอด
ย้อนกลับไป 12 ปีที่แล้ว กับการดำน้ำสกูบ้าเป็นครั้งสุดท้าย….ของการมองเห็นด้วยตาเพื่อเป็นการร่ำลา
แต่ทริปนั้นอะ ตาแดงทั้งทริป น้ำตาไหลตลอดเวลา คือเรารู้แล้วว่าทริปนี้เป็นทริปสุดท้ายในชีวิตของเราแล้ว ทริปนั้นร้องไห้ เข้าห้องปุ๊ป..ร้องไห้ พอออกมาเจอเพื่อนไม่ร้องนะ แต่ตามันปรับไม่ทันไง มันแดงก่ำ เพื่อนก็รู้แหละร้องไห้ แต่เพื่อนก็ไม่พูด ก็คุยกันสนุกสนานปกติ หลังจากนั้น จับฟิน…..น้ำตาไหล จับไม่ได้เลย อุปกรณ์ดำน้ำเก็บหมด
คว้าโอกาส
พี่ยาได้ยินประกาศเปิดรับสมัครผู้พิการวีลแชร์ไปเรียนดำน้ำสกูบ้า ของเพจ Wheelchair scuba Thailand
หูผึ่ง ตาผึ่ง ไฟลุกเลยนะทั้งตัว ฉันอยากไปเหลือเกิน ทำไงดีอะ เราต้องเปิดโอกาสให้ตัวเอง ส่วนเขาจะรับไม่รับก็แล้วแต่ ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ส่วนสำเร็จหรือไม่ มันไม่มีปัญหา มันสำเร็จตรงที่ฉันได้ทำนี่แหละ แล้วพี่ยาก็ส่งใบสมัคร แม้จะไม่ตรงตามเงื่อนไขที่เขาเปิดรับสมัครเฉพาะผู้พิการขาก็ตาม หลังจากการส่งใบสมัครครั้งนั้น พี่ยาก็ได้กลับมาดำน้ำสกูบ้าอีกครั้ง และอีกหลายๆ ครั้ง (น่าจะไม่ต่ำกว่า 30 ไดฟ์แล้ว)
และครั้งล่าสุดนี้ พี่ยามาดำน้ำที่ทะเลตรัง
ผม….เพื่อนร่วมทริป ได้รับรู้เรื่องพี่ยา ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการเมื่อ 3 ปีก่อน และครั้งนี้ได้มีโอกาสมาดำน้ำร่วมกันซะที ผมรู้สึกเต้นตื่น มันเป็นการออกทริปที่มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีมากมาย เราต่างเล่าเรื่องการข้ามผ่านความพิการของแต่ละคน ได้มุมมองและแรงบันดาลใจของการใช้ชีวิตหลังพิการของแต่ละคน
ผม…วีลแชร์เล็ก จุดเริ่มต้นการส่งใบสมัครดำน้ำของผมก็คล้าย ๆ กับพี่ยา คือไม่ตรงตามเงื่อนไขที่เขาเปิดรับสมัคร โครงการกำหนดคุณสมบัติว่าต้องว่ายน้ำเป็น แต่รุ่นผม เป็นรุ่นบุกเบิกของ wheelchair scuba ที่การเข้าร่วมโครงการใช้วิธีเพื่อนชวนเพื่อน ซึ่งผมได้รู้จักโครงการนี้จากเพื่อนวีลแชร์ด้วยกัน
เราก็ว่ายน้ำไม่เป็นจะได้เหรอ ?
เพื่อนบอกก็ลองดู ไม่ลองไปจะรู้ได้ไง ผมจึงตัดสินใจ…ไปก็ไป
วันฝึกดำน้ำครั้งแรกที่สระน้ำ ผู้จัดการโครงการได้ถามเพื่อรีเช็กความปลอดภัยว่า “ใครว่ายน้ำไม่เป็นบอกมาตรง ๆ” แล้วก็มีผมคนเดียวที่ยกมือจากทั้งหมด 5 คน เขาตกใจพอสมควร เพราะกำหนดเงื่อนไขชัด ๆ ว่า ต้องว่ายน้ำเป็น เขาถามผมว่า “ไม่กลัวนะ” และก็เปิดโอกาสให้ผมได้ลองทำในวันนั้น พร้อมยิงมุขว่า “เอ็งอย่าตายนะเฟ้ย!! โครงการนี้เป็นครั้งแรกนะ เดี๋ยวจะไม่ได้ไปต่อ
ปัจจุบัน ผมว่ายน้ำเป็นหลังจากจบโครงการ และได้ดำน้ำอีกเกือบ 20 ไดฟ์
หากมีใครสงสัยว่า คนพิการ…ดำน้ำยากไหม แน่นอนว่ายากกว่าคนทั่วไป แต่ไม่ได้ยากจนทำไม่ได้ ผมจึงอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องราวของผมและพี่ยา มาลองทำสิ่งต่างๆที่คุณอยากทำมันดูก่อน ปลดล็อกตัวเอง แล้วเริ่มกดปุ่ม Start ของคุณดู แลัวคุณก็จะไม่เสียใจเลยที่ได้ลองทำมัน “ส่วนสำเร็จหรือไม่ มันไม่มีปัญหา มันสำเร็จตรงที่ฉันได้ทำนี่แหละ” พี่ยาพูดไว้
ป.ล. ทริปดำน้ำทะเลตรังครั้งนี้ มีคนตาบอด 1 คน และวีลแชร์ 4 คน
บทความโดย
- ภาณุพล ธนะจินดานนท์
- อานันท์ ฉันทันต์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส