1-2-3 เมษายนที่ผ่านมาผมได้รับเชิญจากบริษัท LG Electronics สำนักงานใหญ่ให้ไปร่วมงานที่พวกเขาตั้งใจจัดมาก ๆ ในกรุงโซล เกาหลีใต้ งานนี้ถูกตั้งชื่อว่า LG InnoFest 2014 : ASIA โชว์นวัตกรรมจากผลิตภัณฑ์ LG ที่จำหน่ายนอกประเทศเกาหลีทั้งหมด (International Model) โดยรวมทุกด้านที่ LG ทำไว้ ไม่ว่าจะโทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า ลามปามไปถึงเครื่องดูดฝุ่นและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่าง “คอมพิวเตอร์สวมใส่”
การจัดงานนี้ถือว่าใหญ่,ตั้งใจจัดและนำเสนอออกมาได้ดี LG เชิญสื่อมวลชนทั่วเอเชียไปซาบซึ้งในผลงานที่ทุ่มเทพัฒนามา และยังยิงนกตัวที่สองด้วยกระสุนนัดเดียวโดยการนำ”ดีลเลอร์” หรือผู้ประกอบการร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้า LG ไปดูงานด้วยในช่วงบ่าย เพื่อหมายมั่นจะปักธงบอกทุกๆคนว่า “ปีนี้ LG เอาจริง”
…จริงๆแล้วที่ผ่านมา LG ก็เอาจริงมาตลอดแหละครับ แต่ด้วยการเปล่งแสงรัศมีอันแรงกล้าของ SAMSUNG แบรนด์เทคโนโลยีร่วมชาติเดียวกันที่ดูเหมือนตีปี๊บแล้วจะเสียงดังกว่าเสมอๆ ในสังเวียนโลกซัมซุงก็ถูกจับไปเปรียบกับ Apple ยักษ์วงการคอมพิวเตอร์ตลอด ทำให้ LG อาจดูเป็นแบรนด์เกาหลีที่ด้อยกว่าในสายตาคนทั่วไป ยิ่งประเทศไทยด้วยแล้วที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับตรงๆว่าการทุ่มเทด้านการตลาดของ LG ก็ยังไม่โดนกลางกบาลใจคนไทยได้เท่าที่ SAMSUNG เค้าทำได้
…ให้วิเคราะห์ง่าย ๆ คือจ่ายหนักไม่พอและในเม็ดเงินที่น้อยกว่านั้นก็ยังไม่สามารถ “พูดให้ตรงจุดของสินค้า” ได้ .. ปลายปีก่อนผมได้ LG G2 มาใช้ ผมก็ซาบซึ้งนะว่ามันดี ได้มีโอกาสแผ่อิทธิพลไปให้คนรอบๆด้วยเปลี่ยนมาใช้ G2 อยู่หลายคน ก็ชมเปาะกันไม่ขาดปาก ..แต่หนังโฆษณาที่สื่อสารออกมาก็ยังไม่สามารถเล่าเรื่องได้ว่ามันเจ๋งจริงนะเฟร้ย ..ผมเชื่อว่า Blogger สายเทคโนโลยีก็เห็นพ้องต้องกันว่า G2 เป็นโปรดักส์ออฟเดอะเยียร์ของทั้ง LG เองและเหนือกว่าหลายๆแบรนด์ที่โฆษณากันโครมๆ
งานในครั้งนี้จัดในกรุงโซล ย่านกังนัมสไตล์ แถมพ่วงด้วยการพาเยี่ยมชมโรงงาน LG Display ที่ผลิตจอภาพป้อนสู่โลก (ยี่ห้ออื่นก็ใช้จอ LG กันรึ่มรั่มนะ) ทำให้ผมได้เห็นโลกอนาคตที่กองอยู่แล้วตรงหน้าครับ ผมจะเล่าให้ท่านผู้อ่านรู้และอย่าตำหนิผมที่ไม่ได้ลงภาพสิ่งเหล่านั้นนะครับ มันยังไม่ได้ออกสู่ตลาดเขาก็เลยห้ามถ่าย (แต่ให้นักข่าวไปดู ..หงุดหงิดชะมัด) เริ่มกันที่ TV กันก่อนครับ “ไซส์จอที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ตอนนี้คือ 105”(นิ้ว) ผลิตด้วยเทคโนโลยี LCD เดิมครับมันถึงใหญ่ได้ขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นจอเทคนิคใหม่อย่าง OLED (จอที่บางซะจนโค้งได้) ตอนนี้ทำไซส์ใหญ่สุดได้แค่ 77” แน่นอน.. LG เป็นเจ้าของสถิติใหญ่สุด ณ เวลานี้ (ซึ่งอีกไม่นานเจ้าอื่นก็ตามทันแน่ครับ)
แต่ความ “เหนือ” ที่เจ้าอื่นยังตามไม่ทันในระยะใกล้ๆนี้ มี 3 อย่างคือ “จอภาพ 3D ของ LG ใช้แว่นไม่ต้องง้อถ่าน” ครับ เป็นเทคนิคที่ผมเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆแล้วพบกว่าดีจริง สบายตากว่า, เบาศรีษะมากกว่า และแว่นมีราคาถูก เหมาะแก่การพัฒนาเป็นแว่นแฟชั่น (เค้าว่าอย่างนั้น แต่ใครจะบ้าใส่แว่น 3D ออกจากบ้านฟร๊ะครับ) เทคนิคนี้มันสำคัญที่จอนะครับ ไม่ใช่ที่แว่น ซึ่ง LG ยังคงเก็บความลับการผลิตไว้ได้ทำให้จอ 3D เจ้าอื่นๆยังคงต้องใช้ถ่านถอดรหัสทะลุมิติกันอยู่ ประการที่ 2 คือ LG มีสิทธิบัตรการผลิตรีโมทแบบปาดมือในอากาศที่เรียกว่า “Magic Remote” เหมาะสมกับการใช้ควบคุมทีวีเมนูอันซับซ้อนแบบ Smart TV ในทุกวันนี้ครับ (ทุกค่ายแข่งกันพัฒนาเมนูมาก ๆ แต่ไม่มีใครพัฒนารีโมทเหมือน LG บ้างเลย.. กด ขึ้นขึ้น ลงลง ซ้ายขวาซ้ายขวา เอบี ซีเล็ค สตาร์ทเนี่ยมันไม่สนุกนะรู้ไหม? ) และท่าไม้ได้สุดท้ายที่เปิดตัวไปในงานนี้ก็คือ SmartTV ของ LG ที่จะจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ใช้ระบบปฏิบัติการ WebOS มาควบคุมครับ ชื่อคุ้น ๆ ใช่ไหมครับ WebOS มันคือระบบปฏิบัติการที่ HP ซื้อต่อมาจาก Palm Inc. และหมายมั่นจะเป็น OS แห่งโลกยุค Cloud (หมายมั่นมากขนาดที่ HP ประกาศจะหยุดผลิต PC และทำแต่ WebOS น่ะครับคิดดู..)
…ถือว่า “ลงตัวมากๆ”ครับ ที่ WebOS มาอยู่บน SmartTV แอลจี เพราะที่ผ่านมา SmartTV ที่ขายกันโครมๆไม่เคยมี OS ที่ทำงานได้เร็วเลย.. กดแล้วเจื่อน กดแล้ว ”ช้าโชว์” ตัลหลอด! กับ WebOS ตัวนี้ผมทดลองแล้วว่ามัน “เร็วจริง” และ “หน้าตาดีมาก” ครับ เชื่อเลยว่า LG จะกลายเป็นผู้นำ SmartTV โลกได้หลังจากนี้ เพราะที่ผ่านมา รีโมทก็ดีกว่าคนอื่น แว่น3มิติก็ไม่ต้องใช้ถ่าน แถมราคาก็แข่งขันได้ (เกาหลีทั้ง 2ค่ายทำ Sony ขายทีวีขาดทุนมา 8ปีแล้วครับคิดดู!) ขออย่างเดียวคือ LG อย่างสะดุดยอดหญ้าหรือขาตัวเองในด้านการโปรโมท และสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจก็แล้วกันนะครับ
…ในขณะที่ผมโพสต์เรื่องนี้ใน IG มีผู้ใช้ LG หลายคนที่อยากได้รับการอัพเกรด WebOS ใส่เครื่องรุ่นของตัวเองด้วย (ที่ยังไม่เก่ามาก) ผมสนองให้แล้วด้วยการบอกคน LG ให้ไปหาหนทางครับ เพราะงานนี้หากเขาอัพเกรดให้ได้ ก็เป็นการจับจองหน้าจอให้ “คลังภาพยนตร์” ที่ LG ตั้งใจจะเปิดบริการด้วยครับ (โลกยุคต่อไป แผ่นสูญพันธ์แน่นอนจ่ะ)
ส่วน Smart Phone ก็มีการอัพเดทเล็กน้อย ที่ว่าเล็กน้อยก็เพราะไม่มีการพูดถึง G3 มือถือเรือธงรุ่นต่อจาก G2 แต่มีการ”แสดงเหตุผลว่า LG GFlex จะโค้งเพื่อออออออ… ??? (อันนี้ผมต้องเน้นเสียง เพราะใครเห็นก็งงครับว่ามือถือจะโค้งทำไม?) เขาแสดงผลความพอใจของผู้คนที่มีต่อระบบ Knock On หรือ “เคาะน็อค ๆ เปิดหน้าจอเครื่อง) ของเขาว่าได้รับเสียงตอบรับดีมากจากคนทั่วโลก อันนี้ผมเห็นด้วยครับว่ามันเวิร์คมาก ๆ ไอ้เคาะ ๆ หน้าจอมืด ๆ แล้วจอเปิดขึ้นมาให้ใช้เนี่ย ใครใช้เป็นต้องติดใจและเผลอไผลไปเคาะน็อค ๆ ใส่ iPhone บ้าง Samsung บ้าง… (ฮ่าๆ) LG พัฒนา Knock On ต่อเป็น Knock Code เคาะตามตำแหน่งที่ตั้งไว้เพื่อเป็น Password กำหนดได้ตั้งแต่ 2-8จุด โดย Password ลักษณะนี้จะมีความเสี่ยงเพียง 1ใน 80,000แบบอันสุดแต่จินตนาการคุณครับ ซึ่ง LG ประกาศว่าจะใส่สิ่งนี้ไว้ใน LG รุ่นต่อ ๆ ไป “ทุกรุ่น” โดยความใจกว้างของเขาคือจะไล่ ”อัพเกรด” ให้ผู้ใช้เก่าด้วยพร้อมๆกับการอัพ OS (สาวก G2 คุณจะได้รับประทาน KitKat กันในเดือนเมษายนนี้ครับ ผมถามจากปากผู้พัฒนามาแล้ว)
สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆยังมี “หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน” ที่ LG ซุ่มทำรุ่นขายในประเทศเกาหลีมาซักระยะ จนพอใจแล้วจึงทำโมเดลใหม่ขายชาวโลกให้ชื่อ HOM BOT ตกจากที่สูงได้ และวิ่งกลับไปชาร์ทได้เอง (อันนี้เหมือน iRobot Roomba แหละ) แต่เป็นจุดที่สื่อได้ว่าโลกยุค “คนใช้งานหุ่นยนต์” ใกล้เราเข้าแล้วเพราะราคามันจับต้องได้ …ส่วนคอมพิวเตอร์สวมใส่ที่ LG ตั้งชื่อว่า LIFE BAND TOUCH ผมพูดตรงๆว่ายังไม่เห็นความต่างจากกำไลไฮเทคของเจ้าอื่นเท่าไหร่ ไม่ค่อยน่าสนใจเท่า “แอร์” ครับ LG เน้นตลาดไทยเหลือเกิน (ขอบคุณดวงอาทิตย์ครับที่เผื่อแผ่คนไทยถึง38องศา) LG สร้างฟังค์ชั่นใหม่คือ “ฆ่ายุงได้” .. ออกมาเมื่อไหร่ ผมจะซื้อคนแรกครับ เห็นยุงมันกัดลูกสาวตอนนอนแล้วสงสาร (หัวอกพ่อแม่อ่ะนะ)
ส่วนอื่นๆ อย่างตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ผมไม่มีเวลาได้ศึกษามากนัก แต่ได้เห็น “ประตูตู้เย็นอนาคต” ของ LG ที่จะใช้จอใส (Transparent Display) เพื่อเห็นอาหารภายในพร้อมแสดงข้อมูลวันหมดอายุ และการ Interactive อื่นๆ ซึ่งอันนี้สุดยอดมากครับ จอใสแบบนี้จะลามปามไปถึงหน้าต่างบ้านในยุคอนาคตด้วย แถม “หน้าปัดรถยนต์ยุคหน้า” ก็จะเป็นจอสีแบบ OLED ครับ (ผมแอบถ่ายรูปมาได้) จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่นั้น ต้องรอ “พันธมิตรรายอื่นๆขานรับด้วย” ซึ่งนั่นเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างเทคโนโลยีออกสู่โลก ซึ่ง LG ได้พิสูจน์ให้ผมและสื่อมวลชนทั่วเอเชียเห็นแล้วว่า “ปีนี้เอาจริง” สู้ๆ LG!!
‘เมื่อ LG เอาจริง!!’ : คอลัมน์ “หนุ่ยรู้โลกรู้” โดย หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์
ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก