หลังจากที่ Nokia แผนกมือถือที่บริหารงานโดย HMD Global เปิดตัวมือถือใหม่ โดยมี Smartphone 3 รุ่นอย่าง Nokia 3, Nokia 5, Nokia 6 และมีสิ่งที่ต่างจากมือถือรุ่นอื่นๆ ด้วย นั่นก็คือ “Nokia 3310” ฟีเจอร์โฟนในตำนานที่นำมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยนี้
ทีมงานแบไต๋วิเคราะห์
หลังจากที่ได้เห็นสเปคและรายละเอียดของ Nokia 3310 ตัวใหม่แล้ว และได้ยินเสียงวิจารณ์ตาม Social Media ทั้งด้านบวกและด้านลบมาพอสมควร ทางทีมงานจึงขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ทีมงานเห็นว่า “Nokia 3310” ที่จะผลิตขายใหม่นั้น คิดว่าน่าจะยังพอขายได้ เพราะทั้งบ้านเราและในบางประเทศ กลุ่มคนที่ต้องการใช้ฟีเจอร์โฟน ใช้แค่โทรออกรับสาย ต้องการแบตทนๆ ชาร์จครั้งนึงอยู่ได้นานหลายสัปดาห์ แม้กระทั่งบางคนที่ใช้ Smartphone อยู่แล้ว ยังอยากมีพกไว้สักเครื่องไว้โทรออกรับสาย บางคนอาจจะเหมาะด้วยเพราะต้องโทรคุยกับลูกค้า คุยงานบ่อยๆ ก็จะแยกเครื่องจาก Smartphone ไปเลย
แต่เมื่อดูราคาเทียบกับสเปค
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ €49 เมื่อคิดเป็นเงินไทยโดยไม่บวกภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท และเมื่อพิจารณาสเปค ทางทีมงานคิดว่าทุกอย่างดีหมด
- หน้าจอสี QVGA 2.4 นิ้ว
- แบตเตอรี่ 1200 mAh สนทนาได้สูงสุด 22.1 ชั่วโมง สแตนบายได้สูงสุด 31 วัน ฟังเพลง MP3 ได้สูงสุด 51 ชั่วโมง ฟังวิทยุ FM ได้สูงสุด 39 ชั่วโมง
- มีให้เลือก 4 สี
- รองรับ MicroSD สูงสุด 32 GB
- มี Bluetooth และต่อสาย MicroUSB ถ่ายโอนข้อมูล
- กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลซ LED
- แต่รองรับแค่ 2G 900/1800 ไม่รองรับ 3G
ตกไม้ตายตรง “ไม่รองรับ 3G”
แม้ว่าจะเป็นฟีเจอร์โฟน แต่ก่อนหน้านี้ Nokia ก็เคยออกฟีเจอร์โฟนที่รองรับ 3G อย่าง Nokia 301, Nokia 208 มาแล้ว (ผู้เขียนเคยใช้ Nokia 301 รองรับ 3G ก็เปิดเครื่องสแตนบายได้ถึง 1-2 สัปดาห์) แม้ว่าในหลายประเทศอาจยังไม่ยกเลิก 2G รวมถึงไทยเราที่ AIS, True ประกาศทำ 2G ต่อโดยใช้คลื่นที่ประมูลมาแบ่งทำ แต่ทางผู้เขียนและคนไทยส่วนใหญ่ยังเห็นว่าควรทำให้รองรับ 3G เพราะว่าโทรเสียงดังฟังชัดกว่าและอนาคตทางผู้ให้บริการอย่าง True, AIS ก็เคยบอกไว้ว่าอาจจะต้องปิด 2G เพื่อนำคลื่นมาขยายบริการ 3G 4G ที่เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ระยะยาวอาจจะใช้ 3310 ต่อไม่ได้
และเมื่อเทียบกับราคา ก็ไม่ต่างกับ Nokia ปุ่มกดที่รองรับ 3G ที่เคยทำออกมาเลย เผลอๆ รุ่นพวกนั้นตอนออกใหม่ๆ ยังอาจจะถูกกว่าด้วย
Nokia 208 ฟีเจอร์โฟน Nokia ที่รองรับ 3G ที่เคยทำออกมา
Nokia 301 ฟีเจอร์โฟน Nokia ที่รองรับ 3G ที่เคยทำออกมา
กลายเป็นว่า คนทั่วไปในไทยเข้าใจว่า Nokia ออกแต่ “3310”
ทีมงานได้ลองดู Feedback จากหลายๆ เว็บไซต์ในไทยและตาม Social Media พบว่ามีคนไทยหลายคนยังวิจารณ์ในแง่ลบเพราะเข้าใจว่า Nokia ออกแต่ 3310 แทนที่จะทำ Smartphone มาแข่งขันในตลาด ทั้งที่ทาง Nokia ก็เปิดตัว Smartphone มาด้วยถึง 3 รุ่น นอกจากนี้สื่อที่ไม่ใช่สื่อด้านไอทีหรือ Gadget โดยตรง มักจะนำเสนอแต่ข่าว Nokia 3310 เป็นประเด็นใหญ่ด้วย ทำให้หลายคนมองข้าม Smartphone ที่ Nokia เปิดตัวด้วย
และจะขายใครได้
ผมว่าถ้าไม่นับพวกที่ต้องการฟีเจอร์โฟนจริงๆ ก็คงมีพวกที่อยากระลึกความหลังหรือนักสะสม หรือแม้แต่คนธรรมดาที่อยากซื้อมาเก็บไว้ ทางทีมงานวิเคราะห์ว่า ทาง Nokia ต้องการสร้างกระแสให้การเปิดตัวนั้นไม่ได้เหมือนเจ้าอื่นๆ ที่มาแต่ Smartphone และจากการที่ Nokia 3310 ตัวเดิมนั้นเป็นตำนานขึ้นชื่อของ Nokia ใครๆ ก็จำได้ ยิ่งสร้างกระแสเข้าไปใหญ่ (แม้จะทำให้กลบสินค้าตัวอื่นที่เปิดตัวพร้อมกันแต่อาจจะเฉพาะในไทย)
อีกทั้งช่วงนี้ตลาดสินค้าแนวนี้ก็กำลังมาแรง ดูได้จากการที่ก่อนหน้านี้ Nintendo เคยเอา Famicom มาทำใหม่ขาย ในชื่อ “NES Classic Edition” และ “Famicom Mini” ก็สร้างยอดขายได้ดีพอสมควรในต่างประเทศ
และระยะยาวคิดว่า Nokia จะทำตลาด 3310 อย่างไร
ผู้เขียนคิดว่า 3310 รุ่นใหม่เป็นแค่กิมมิกในตลาดเพื่อให้รู้ว่า Nokia กลับมาแล้ว และนำของที่เป็นตำนานกลับมาขายใหม่ให้คนตะลึง แต่ว่าน่าเสียดายเพราะไม่ได้ทำ 3310 ให้สุดๆ ไปเลย ออกมาเหมือนเป็นของเล่นมากว่า ถ้าจะทำฟีเจอร์โฟนจริงๆ แม้ว่าอยากทำหน้าตาให้เหมือน 3310 แต่ต้องยอมรับว่าฟีเจอร์โฟนตอนนี้ขายได้ค่อยข้างยาก แม้มีคนยังต้องการก็ตาม อีกทั้งมีของจีนหรือ House Brand จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทำตลาดอยู่แล้ว แม้คุณภาพอาจสู้ Nokia ไม่ได้ แต่ของพวกนั้นไม่กั๊กแบบที่ 3310 ตัวใหม่ทำ ถ้า Nokia ยังกั๊กก็ยิ่งขายได้ยากขึ้นเข้าไปอีก
แต่ทั้งนี้ต้องบอกด้วยว่า Nokia ที่กลับมาใหม่ไม่ใช่ Nokia แผนกมือถือเดิม 100% เพราะอันนั้นขายให้ Microsoft ไปแล้ว ตอนนี้แบรนด์ Nokia คือบริษัท HMD Global ของฟินแลนด์ได้สิทธิในการผลิตมือถือแบรนด์ Nokia (แม้ว่าจะ HMD ซื้อแผนกและสิทธิฟีเจอร์โฟนจาก Microsoft กลับมาก็ตาม) ดังนั้นมือถือ Nokia ยุคใหม่ ไม่ได้มาจากการบริหารของ Nokia 100% เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
