ในอดีตเรื่องราววิดีโอเกมนั้นมักจะเป็นเรื่องง่าย ๆ พื้น ๆ ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก อย่างการเดินทางไปช่วยเจ้าหญิงที่ถูกจับไม่ก็แก้แค้นให้ครอบครัวที่ถูกฆ่าหรือบุกรังสัตว์ประหลาดเพื่อช่วยโลก แต่มาในยุคนี้ที่ตัวของวิดีโอเกมมีความลึกและซับซ้อนของเรื่องราวที่มากขึ้นกว่าอดีต จนบางเกมนั้นมีเรื่องราวซับซ้อนกว่าภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่เราดูมาเสียอีก และเมื่อเป็นแบบนั้นคนเขียนบทก็ต้องพยายามสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับเนื้อหาที่สมจริงขึ้น และหนึ่งในการคิดเนื้อเรื่องคือบทของตัวร้ายที่บางครั้งสิ่งที่ตัวร้ายทำในเรื่องก็คือสิ่งขับเคลื่อนเรื่องราวในเกม ดังนั้นตัวร้ายที่ขาดมิติจึงอาจจะทำให้เนื้อเรื่องจืดไปเลยก็มี เมื่อเป็นแบบนั้นคนเขียนบทจึงสร้างตัวร้ายที่สวมหน้ากากใส่หัวโขนเพื่อหลอกตัวละครหรือคนเล่นให้เกมน่าสนใจ และนี่คือ 10 ตัวละครที่มีฉากหน้าดีแต่เบื้องหลังสุดแย่จะมีใครบ้างนั้นมาดูกันเลย
เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วนในเกม
Mario กับเบื้องหลังก่อนมีชื่อเสียง
เรื่องต้นกับตัวละครขวัญใจนักเล่นเกมทั่วโลกอย่างลุงหนวด Mario ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากคุณ Shigeru Miyamoto ที่ในตอนแรกที่ลุงหนวดเข้าวงการมาเขามีชื่อว่า Jumpman ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Donkey Kong ในปี 1981 ในฐานะตัวละครช่างไม้ที่ไปช่วยเพื่อนสาวที่ชื่อ Lady (ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Pauline) ที่ถูกลิงยักษ์จับไปกับตัวเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนทำให้ตัวละคร Jumpman เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังจนมีชื่อใหม่ในวงการว่า Mario ตามชื่อของเจ้าของโกดังที่ทาง Nintendo เช่าในอดีต จนถึงตอนนี้ Mario ก็คือพระเอกเป็นตัวละครที่หลายคนต่างรู้จักเขา
แต่ฉากหน้าของพระเอกสุดเท่ของ Mario นั้นก็เคยทำเรื่องแย่ ๆ เอาไว้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการจับแม่ลิงเอาไว้เป็นตัวประกันจนลูกลิงต้องไปช่วยในเกม Donkey Kong Jr หรือการบุกเดี่ยวไปช่วยเจ้าหญิงในเกม Super Mario ภาคต่าง ๆ ที่ระหว่างทางในทุกภาคนั้นต้องสังเวยชีวิตศัตรูไปมากมายขนาดไหนที่ถูก Mario เหยียบจนตาย นี่ยังไม่นับอิฐเห็ดดอกไม้ในเกมที่ข้อมูลบอกว่ามันคือผู้คนที่ถูกสาป แต่ Mario ก็ยังทำลายอิฐเอาเห็ดมากินหน้าตาเฉยเรียกว่าเป็นฆาตกรสุดโหดได้เลยทีเดียว ดังนั้นฉากหน้าพระเอกตัวพ่อของวงการเกมที่เรารู้จักก็มีเบื้องหลังที่ไม่น่ารักซ่อนอยู่
Joel อดีตที่หลายคนน่าจะรู้ว่าเขาเคยทำอะไรมา
อดีตมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้แต่เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้นั่นคือคำพูดของ Joel จากเกม The Last of Us ที่ใครซึ่งเคยเล่นภาคแรกมาแล้วจะรู้ว่าตัวของ Joel นั้นมีปมเรื่องการเสียชีวิตของลูกที่ตัวเองไม่สามารถปกป้องได้ จึงทำให้เขาฝังใจในการมองโลกใบนี้เสียใหม่ จากชายที่แสนดีเป็นพ่อผู้น่ารักแต่เมื่อโลกล่มสลายสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจก็ตายไป สิ่งที่ Joel ทำคือการมีชีวิตรอดในโลกที่โหดร้ายใบนี้ ซึ่งเขานั้นสามารถทำได้ทุกอย่างทั้งปล้นจี้ฆ่าหรือแม้แต่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้เพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดในโลกใบนี้ และนั่นก็คือสิ่งที่เกมบอกกับเรา
ซึ่งตลอดทั้งเกม The Last of Us ภาคแรกนั้นเราจะรู้ว่า Joel นั้นค้าอาวุธเถื่อนฆ่าคนที่โกงสินค้าเขา(และลูกน้องที่ปกป้องหัวหน้า) เคยดักปล้นเดินทางด้วยการแกล้งบาดเจ็บ เคยขโมยของฆ่าทหารและอีกมายมายที่เกมไม่ได้บอกเรา จนมาถึงช่วงท้ายของเกมที่ Joel เลือกที่จะหักหลังคนทั้งโลกเพื่อช่วยจิตใจตัวเองไม่ให้แตกสลายโดยอ้างว่าเขาต้องการช่วย Ellie ทั้งที่ความจริงแล้วเขาทำเพื่อตัวเอง และใน The Last of Us 2 ตัวของ Joel ก็ได้รับการยอมรับชื่นชมจากผู้คนถึงการเป็นคนดีน่ารักโดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอดีตนั้นเขาคยทำอะไรมาบ้าง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นใน The Last of Us 2 ก็มาจากผลที่เกิดจากการกระทำของเขาที่ต้องรับผล จนแม้แต่ Ellie ที่ต้องการแก้แค้นก็ยังลังเลเลยว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกรึไม่
Blackwatch ทีมเบื้องหลังที่ตรงข้ามกับฉากหน้าที่สังคมควรรู้
มาที่กลุ่มองค์กรกันบ้างในเกม Overwatch ที่ถ้าใครติดตามเรื่องราวของเกมนี้มาตลอดจะทราบดีว่าตัวเกม Overwatch นั้นจะมีเรื่องราวที่โหดดิบและรุนแรงที่ฉากหน้าของเกมนั้นจะเป็นภาพการ์ตูนสีสันสดใสแต่เนื้อหากลับมืดมนมาก ๆ โดยเรื่องราวหลัก ๆ ของเกมนี้จะเล่าถึงกลุ่มผู้มีพลังพิเศษที่เรียกว่า Overwatch ที่คอยดูแลช่วยเหลือผู้คนจากภัยสงครามต่าง ๆ และยังเป็นหัวหอกในการต่อสู้ในสงคราม Omnic Crisis จนชนะ ทางกลุ่ม Overwatch จึงเป็นกลุ่มฮีโร่ที่ทุกประเทศต่างยอมรับว่าคือกลุ่มฮีโร่ที่มีคุณธรรมผู้คนต่างหลงรัก ขณะที่เบื้องหลัง Overwatch นั้นก็มีการทำเรื่องแย่ ๆ อยู่เยอะจนสุดท้ายก็ทำให้กลุ่มฮีโรกู้โลกก็ต้องวงแตกถูกสื่อเอาแฉถึงสิ่งที่ Overwatch ทำเป็นคนดีที่สวมหน้ากากจนเป็นเรื่องราวในเกม Overwatch ภาคแรกนั่นเอง
โดยเรื่องราวด้านมือที่ถูกเปิดเผยออกมานั้นคือเบื้องหลังขององค์กรนี้ที่มีกลุ่มที่เรียกว่า Blackwatch ที่เกิดจากความคิดของ Gérard Lacroix ที่ต้องการกลุ่มคนที่ทำอะไรลับ ๆ ไม่เปิดเผยออกไปสู่สาธารณชนเพราะมันอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของ Overwatch เสียหาย ซึ่งสิ่งที่ Blackwatch ทำก็คือการฆ่าจับตัวบุคคลมาเค้นความลับหรือขโมยข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องไม่ค่อยสะอาดและดูไม่ใช่สิ่งที่ฮีโร่ควรทำ จนเมื่อเรื่องราวของ Blackwatch ถูกเปิดเผยทั่วโลกต่างก็รุมต่อต้านจนสุดท้ายองค์กรฮีโรปกป้องโลกก็กลายเป็นอดีตเพราะสิ่งที่ตัวเองทำ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน Overwatch 2 จะเป็นการกู้ชื่อเสียของ Overwatch ให้กลับมาอีกครั้งกับภัยคุกคามใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถ้าเทียบกับความเป็นจริง Overwatch ก็เหมือนสิ่งที่เราเห็นในสังคมตอนนี้เลย
Sephiroth กับการเป็นคนดีด้วยการโปรโมตทางการตลาด
มาที่ตัวละครสุดหล่ออย่าง Sephiroth ในเกม Final Fantasy VII Remake กันบ้างที่ใครซึ่งได้เล่นเกม Final Fantasy VII ทั้งฉบับเก่าและ Remake แถมด้วยภาค Crisis Core มาก่อนจะทราบดีว่าตัวของ Sephiroth นั้นเป็นดาราที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในโลกของ Final Fantasy VII เลยเพราะการโฆษณาชวนเชื่อในความเก่งระดับเทพที่ทางบริษัท Shinra สร้างภาพมา จนทำให้เด็กหนุ่มหลายคนอยากสมัครมาเป็น SOLDIER เพื่อวันหนึ่งจะได้ยืนเคียงข้าง Sephiroth SOLDIER ในตำนานซึ่งตัวของ Cloud ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อนี้เขาจึงออกจากหมู่บ้านเพื่อไปสมัครเป็น SOLDIER จนเกิดเป็นเรื่องราวในเกมที่เราได้เล่น
ซึ่งสิ่งที่ถูกทางบริษัท Shinra สร้างภาพนั้นดูเหมือนจะเป็นจริงแค่ช่วงแรก ๆ เพราะเมื่อ Sephiroth เริ่มสับสนกับชาติกำเนิดตัวเองจนเอาเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Jenova มาปนกันกับชาติกำเนิดตัวเองจนคิดว่าตัวเองเป็นลูกของสิ่งที่ควรปกครองโลก เมื่อเป็นแบบนั้น Sephiroth ก็เริ่มดำเนินแผนการเพื่อจะคืนชีพให้ Jenova และทำเรื่องชั่วช้ามากมายซึ่งจนแล้วจนรอดก็คนในโลก Final Fantasy VII ก็ยังไม่รู้ว่า Sephiroth นั้นคือคนไม่ดีเพราะเขามีแฟนคลับที่ชื่อว่า Silver Elite คอยสนับสนุนส่งข้อมูลดี ๆ ให้คนที่ติดตามยังคิดว่า Sephiroth คือคนดีแต่ทางบริษัท Shinra ก็ได้เลิกสร้างภาพหลังจากที่ Sephiroth ตายเรียกว่าเป็นการสร้างภาพใส่หน้ากากที่ตัว Sephiroth เองก็ไม่สนใจมันอีกด้วย เพราะหลายครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้ Sephiroth จะเฉย ๆ ไม่สนใจและเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีเหมือนชื่อเสียงนั้นไม่ได้คำคัญสำหรับเขาเลย
Cabinet of the United States เบื้องหลังที่เน่าเหม็นเกินจะรับ
ต้องอธิบายก่อนว่าสิ่งที่ถูกเขียนในบทความนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกม Metal Gear Solid 3 Snake Eater เท่านั้น ซึ่งต้องย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 1964 หรือ 31 ปีก่อนเหตุการณ์ในเกม Metal Gear ภาคแรกที่จะเล่าถึงทหารหน่วยพิเศษของอเมริกาที่ชื่อหน่วย FOX กับทหารมือหนึ่งในตอนนั้นที่มีรหัสว่า Naked Snake ถูกส่งไปในภารกิจช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์จรวดรัสเซียชื่อ Nikolai Stepanovich Sokolov ซึ่งตัวของ Sokolov นั้นได้ส่งขอความช่วยเหลือเพื่อจะหนีไปอยู่อเมริกาทางสหรัฐจึงส่งสายลับไปรับตัวมา เพราะสิ่งที่ Sokolov รู้จะช่วยให้สงครามเย็นที่ตึงเครียดในตอนนั้นทำให้ฝ่ายสหรัฐได้เปรียบ แต่แล้วการช่วยตัวประกันก็ผิดพลาดเมื่อสุดยอดทหารอย่าง The Boss ที่อยู่ฝ่ายสหรัฐดันย้ายข้างไปอยู่ฝ่ายรัสเซียแถมยังยิงจรวดนิวเคลียร์เพื่อปกปิดการขโมยของ Shagohod รถถังติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ที่อาจจะก่อสงครามโลกครั้งที่สาม
ซึ่งประเด็นที่เกี่ยวกับ Cabinet of the United States หรือคณะรัฐมนตรีสหรัฐอยู่ตรงนี้ โดยต้องเล่าตั้งแต่ตัว The Boss ที่แท้จริงแล้วเธอคือคนที่คณะรัฐมนตรีสหรัฐส่งไปเป็นสายลับให้รัฐบาลซึ่งการซื้อใจฝ่ายรัสเซียนั้นจำเป็นต้องเอาจรวดนิวเคลียร์เพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อจนสามารถเข้าเป็นพวกได้ แต่แล้วแผนที่วางมาก็ต้องพังเพราะ Colonel Volgin เอาจรวดนิวเคลียร์มายิงฐานที่เราได้อธิบายไป เมื่อเป็นแบบนั้นทางคณะรัฐมนตรีสหรัฐที่รู้ว่าแผนตัวเองแตกก็ตัดหางปล่อยวัด The Boss ทันทีแถมยังส่ง Naked Snake ที่เป็นลูกศิษย์ของ The Boss เพื่อมาฆ่าเธอเพื่อปกปิดหลักฐาน ซึ่งสุดท้ายตัว The Boss ที่รู้ว่าอะไรจะตามมาเธอก็พร้อมจะตายด้วยน้ำมือลูกศิษย์ตัวเองขณะที่คณะรัฐมนตรีสหรัฐก็ยกย่องเชิดชู Snake เป็นฮีโรแถมตั้งฉายาให้ว่า Big Boss เพื่อกลบความชั่วร้ายของตนที่ทำ เรียกว่าสวมหน้ากากคนดีซะมิดชิดจริง ๆ และสิ่งนี้ก็คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวต่อมาในเกมซีรีส์ Metal Gear ทุกภาค
Amelie เบื้องหลังการทำลายโลกโดยการอ้างการช่วยโลก
อีกหนึ่งตัวละครที่มีเนื้อหาตรงกับบทความที่สุดตัวหนึ่ง นั่นคือ Amelie จากเกม Death Stranding ที่ใครซึ่งเคยเล่นเกมนี้น่าจะทราบเรื่องราวทั้งหมดดีอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่รู้จักเกมนี้ Death Stranding และคิดว่ามันคือเกมส่งของเดินไปเดินมาคุณกำลังคิดผิด เพราะเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตามกับเนื้อหาที่หนักหน่วงซ่อนอยู่ โดยเกมจะให้เรารับบทเป็น Samuel Porter Bridges หรือที่ในเกมเรียกว่า Sam ที่ต้องเดินทางไปทั่วอเมริกาที่นอกจากส่งของเป็นงานรอง(ย้ำว่างานรอง) แล้วเขามีหน้าที่ในการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมเครือค่ายตามจุดหลบภัยต่าง ๆ เพื่อรวมอเมริกาให้กลับมาอีกครั้งรวมถึงการช่วยเหลือ Amelie พี่สาวต่างแม่ที่ถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไป
และด้วยความที่ตัวเธอเป็นลูกสาวของ Bridget Strand ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เมื่อคนแม่เสียชีวิต Amelie จึงต้องรับสืบทอดตำแหน่งต่อแต่เธอกลับถูกจับอยู่ และตัวของ Amelie ก็ต้องการเชื่อมต่อให้อเมริกากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ซึ่งนั่นเป็นแค่ฉากหน้าการสวมหน้ากากเป็นคนดีของเธอ เพราะความจริงแล้วสิ่งที่ Amelie ต้องการคือการหลอกใช้ Sam เพื่อเชื่อมต่อเครือค่ายเพื่อการทำลายโลกให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ รวมถึงพวกผู้ก่อการร้ายก็มี Amelie เป็นคนให้พลังและการสนับสนุนเงินทุน และตัวของเธอนั้นก็คือ Bridget Strand ในอีกตัวตนหนึ่งไม่ใช่ลูกสาวของเธอแต่อย่างใด ซึ่งตลอดมา Bridget Strand กับ Amelie ต่างพยายามสร้างตัวตนหลอก ๆ ขึ้นมาเพื่อจะหาทางทำลายโลกและเธอยังเป็นต้นเหตุของฝนเร่งเวลากับพวกผี B.T ที่ออกมาฆ่าคนอีกด้วย และเราที่เป็นผู้เล่นเกมก็ถูกเธอหลอกไปกับหน้ากากคนดีที่แผงความชั่วร้ายที่ตรงกับเนื้อหาบทความเต็ม ๆ
Seymour Guado เอาศาสนามาบังหน้าเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตนเอง
อีกหนึ่งตัวร้ายสุดหล่อที่แฟน ๆ เกม Final Fantasy X จดจำได้เป็นอย่างดีกับ Seymour Guado ที่เมื่อแรกเห็นเราก็รู้เลยว่าเขาคือคนไม่ดี แต่ด้วยหน้ากากที่เขาสวมในฐานะที่เป็น Maester ในพระวิหารของ Yevon จึงทำให้คนทั้ง Spira หลงรักและเชื่อฟังสิ่งที่เขาสอน โดยในอดีตนั้น Seymour เป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์กับเผ่า Guado ที่เป็นกึ่งมนุษย์ผสมต้นไม้และด้วยความที่เขาเป็นลูกครึ่งจึงไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากเผ่า Guado ที่คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่ามนุษย์และพวกลูกครึ่งแบบเขา แต่ Seymour ก็พยายามทำทุกทางทั้งหักหลังฆ่าคนที่เห็นต่างเพื่อดันตัวเองจนมาอยู่จุดสูงสุดซึ่งเขานั้นไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มี และเมื่อเห็นโอกาสที่ตนเองจะยิ่งใหญ่ขึ้น Seymour ก็พร้อมจะวิ่งไปหาทันทีโดยไม่สนใจว่าจะต้องทำร้ายหรือทำใครเดือดร้อน
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังและคนทั้ง Spira ก็ไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้นอกจากพวก Yuna ที่พยายามจะเปิดโปงเรื่องชั่วร้ายของเขา แต่ด้วยความเก่งกาจของ Seymour ที่เตรียมพร้อมเก็บหลักฐานและทำทุกอย่างแบบรัดกุมจึงยากจะเปิดโปงเขา ซึ่งสิ่งที่ Seymour ทำเพื่อการไต่เต้ามาจนถึงจุดสูงสุดนั้นต้องแลกกับวิญญาณของแม่ Seymour ที่ยอมเสียสละตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนตัวเองเป็นสัตว์อสูร Anima เพื่อให้ลูกชายมีพลังในการต่อสู้และการยอมรับเข้าเผ่า หลังจากนั้น Seymour ก็ได้เข้าร่วมลักธิ Yevon เขาได้ฆ่าคนที่จะได้ตำแหน่งสูง ๆ ทุกคนอย่างแนบเนียลและทำแบบนี้มาเรื่อย ๆ จนสามารถขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ซึ่งแม้แต่พ่อของตนเอง Seymour ก็สามารถฆ่าได้ลงคอ จนแม่ของ Seymour ที่เป็นสัตว์อสูร Anima ก็ยอมให้พลังกับ Yuna เพื่อกำจัดความทะเยอทะยานของลูกชายตน จนแม้แต่ Seymour เสียชีวิตไปแล้วก็ยังมีคนเชื่อและศรัทธาในคำสอนหน้ากากปลอม ๆ ของเขานับเป็นตัวร้ายที่ฉลาดและเก่งตัวหนึ่งในซีรีส์ที่แฟน ๆ จดจำไม่ลืม
Umbrella Corporation ฉากหน้าองค์กรการกุศลที่มีเบื้องหลังสุดฉาว
เมื่อพูดถึง Umbrella Corporation เรา ๆ ที่เป็นนักเล่นเกมต่างก็ทราบกันดีว่าองค์กรบริษัทนี้นั้นฉาวโฉส่งกลิ่นความชั่วร้ายต่าง ๆ มากมายขนาดไหน แต่เรื่องราวในวิดีโอเกมซีรีส์ Resident Evil ก่อนเกิดเรื่องราวในภาคแรกบริษัท Umbrella Corporation คือบริษัทมหาชนที่ทำงานการกุศลต่าง ๆ บังหน้ามากมายไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งหน่วย Umbrella Biohazard Countermeasure Service (U.B.C.S.) ที่เป็นหน่วยทหารฝีมือดีที่ไปช่วยประเทศต่าง ๆ ที่เกิดภัยจากสงครามชีวภาพ แถมยังเป็นผู้ก่อตั้ง Biological Weapons Convention (อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพ) ในปี 1972 เพื่อช่วยเหลือโลกจากภัยคุกคามทางชีวภาพ แถมยังเป็นองค์กรการกุศลที่บริจากเงินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเด็กยากไร้และสิ่งต่าง ๆ จนคนทั้งโลกหลงรักและเชื่อว่า Umbrella Corporation คือบริษัทพ่อพระที่หายากบนโลก
ซึ่งแน่นอนว่าเบื้องหลังของ Umbrella Corporation เราคงไม่ต้องอธิบายกันมากว่าบริษัทนี้ทำอะไรไว้บ้าง แต่สำหรับคนไม่รู้เราก็จะไล่เลี่ยงแบบย่อ ๆ ให้ได้เข้าใจกันเพราะถ้าให้เราเล่าแบบละเอียดคงต้องใช้ทั้งบทความนี้ในการเล่า ดังนั้นจึงขอเอาหลัก ๆ ใหญ่ ๆ เลยก็มีการแอบสร้างเชื้อไวรัสสัตว์ประหลาดเพื่อขายในตลาดทั่วโลก แถมการจัดตั้งหน่วย U.B.C.S. ก็เพื่อการบังหน้าให้ตัวเองดูเป็นพระเอกแต่จริง ๆ แล้วเขาพยายามจะตัดคู่แข่งทางการตลาดที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว และยังมีเบื้องหลังหน่วยลับเพื่อแอบไปขโมยข้อมูลหรือทำลายหลักฐานในกรณีที่ไวรัสตัวเองรั่วไหล นี่ยังไม่นับการเอาคนมาทดลองแบบลับ ๆ การโกงค่าแรงและหักหลังคนที่สร้างผลงานและเอามาเป็นของตัวเองเรียกว่าเยอะมาก ๆ จนสุดท้ายเรื่องราวถูกแฉออกมาจนทำให้ Umbrella Corporation ล่มสลายในที่สุด
Ellie ลึก ๆ ก็รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังทำ
อันนี้ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนและดูเป็นมุมมองสองด้านอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องราวของ Ellie ในเกม The Last of Us Part II ที่ถ้าใครได้เล่นเกมก็คงจะทราบดีว่าตัวของ Ellie นั้นเดินทางเพื่อมาแก้แค้นให้ Joel ที่ถูกฆ่าตาย และแน่นอนว่าเราที่ได้เล่นเกมนี้ต่างก็คงจะรู้สึกสงสารและเป็นห่วงความรู้สึกของ Ellie ที่สูญเสียคนที่รักเหมือนพ่อไปจากกลุ่มคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งในภายหลังเราที่ได้เล่นเกมในอีกมุมมองหนึ่งของ Abby ที่เป็นคนฆ่า Joel เราจึงได้ทราบว่าตัวของ Joel นั้นก็ไม่ใช่คนดีอย่างที่เราได้อธิบายไปในขั้นต้น ซึ่งก่อนจะมาถึงตรงนั้นก็มีแฟน ๆ หลายคนที่ไม่เห็นด้วยที่เราจะต้องเล่นเป็น Abby เพราะเราควรเล่นเป็น Ellie คนเดียวเพื่อแก้แค้นไม่ใช่ให้เรามารู้สึกสงสารศัตรูที่ฆ่า Joel แถมต้องเล่นเป็นตัวละครตัวนั้นอีก
ซึ่งถ้าใครที่ได้เล่นแล้วเปิดใจอย่าเอาอคติมาร่วมแล้วมาเล่นเป็น Abby เราก็จะทราบดีว่าตัวของ Abby ก็ต้องเจอแบบเดียวกันกับที่ Ellie และเธอก็เลือกที่จะไว้ชีวิต Ellie หลายต่อหลายครั้งที่ได้เจอกันเพราะ Ellie ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันฝ่าย Ellie ต่างหากที่เดินหน้าฆ่าแหลกไม่รู้ว่าใครเป็นใครไม่ถามไม่สนฉันมาเพื่อแก้แค้น ขณะเดียวกันฝ่าย Abby กลับตั้งสติถามและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนลงมือ จนแม้แต่วินาทีสุดท้ายที่ทั้งคู่เจอกัน Abby ก็ยังห่วงคนอื่นมากกว่าตนเอง แถมตัวของ Ellie ลึก ๆ ก็รู้ว่า Joel ได้ทำอะไรลงไปบ้างและสมควรได้รับสิ่งนั้นแต่ Ellie เลือกจะไม่ปล่อยวางเพราะใจที่รักและคิดถึงบวกกับภาพอดีตที่หลอกหลอนจึงทำให้ Ellie สับสนจนมาแก้แค้นอีกครั้งเหมือนที่คนเล่นเกมหลายคนต้องการ ก่อนที่สุดท้ายแล้วผลของการแก้แค้นก็คือความว่างเปล่า แต่คนเล่นหลายคนไม่ปล่อยวางและเข้าข้างเอลลี่และด่า Abby ทั้งที่คนที่น่าสงสารจริง ๆ คือ Abby และคนที่เราควรเกลียดคือ Ellie มากกว่า(ความเห็นของคนบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด)
Hunter อาศัยความชอบยธรรมบุกรุกป่าทำร้ายสัตว์
ปิดท้ายด้วยองค์กรนักล่าที่เรียกตัวเองว่าเหล่า Hunter ในเกม Monster Hunter ซีรีส์ที่ใครซึ่งได้เล่นเกมนี้ต่างก็ทราบกันดีว่าเราจะได้รับบทเป็นนักล่า Monster ซึ่งหลายส่วนของเนื้อเรื่องที่มามักจะเป็นการล่าเพื่อช่วยคนกับการปกป้องตัวเองเพราะถูกเหล่า Monster มาทำร้ายชุมชนที่ตนเองอยู่ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เรามนุษยชาติพึงต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องและขยายดินแดนไปสู่พื้นที่ใหม่ในโลกอันกว้างใหญ่ที่เหมือนในโลกแห่งความเป็นจริง
แต่หลายครั้งตัวเกม Monster Hunter ก็ให้เราล่าเพื่อเอาชิ้นส่วนเนื้อหนังเล็บเขี้ยวของ Monster เหล่านั้นมาสร้างเป็นอาวุธชุดเกราะและล่าแบบไม่มีเหตุผลเพื่อความต้องการส่วนตัว และสิ่งที่เราเหล่ามนุษยชาติทำมันก็คือการรุกรานธรรมชาติไปแย่งที่อยู่ที่หาอาหารของพวก Monster บางครั้งก็ไปขโมยไข่และฆ่าคู่ตัวผู้ตัวเมียของมัน จนสุดท้ายการล่าของเหล่า Hunter ก็คือการทำลายสมดุลของธรรมชาติโดยที่เรากลับมองว่าสิ่งที่ Hunter ทำคือการปกป้องตัวเองและสร้างอารยธรรม ซึ่งถ้าเทียบกับความเป็นจริงเราก็ทำแบบเดียวกับในเกม Monster Hunter ทำอยู่ ซึ่งมันคือหน้ากากความถูกผิดที่เป็นเส้นบาง ๆ ขั้นระหว่างการปกป้องตนเองกับการทำลายธรรมชาติแล้วแต่คุณจะมองว่าจะเลือกแบบไหน เพราะถ้าเราย้อนมาดูความเป็นจริงมันก็เหมือนในสิ่งที่เกมนี้ทำไม่มีผิด
ก็จบกันไปแล้วกับ 10 ตัวละครหรือองค์กรที่มีฉากหน้าสวยงามแต่ความจริงซ่อนเรื่องราวที่เน่าเหม็นหรือไม่ดีเอาไว้ ซึ่งบางเรื่องนั้นในตัวเกมก็บอกเราตรง ๆ ถึงสิ่งที่ตัวละครหรือองค์กรนั้น ๆ ทำ แต่บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่เกมไม่บอกเราแต่ก็อาศัยการมองในแบบความเป็นจริงหรือสิ่งที่ควรจะเป็นที่เกมไม่ได้บอกเรามานำเสนอ ซึ่งทุกอย่างนั้นเป็นเพียงเรื่องราวของเกมเท่านั้นอย่าไปอ้างอิงความเป็นจริงหรือเกี่ยวกับองค์กรใด ๆ ที่มีอยู่จริง อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรติดตามกันได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส