เมื่อพูดถึงโลกอนาคตเราคงจะคิดถึงโลกอยู่สองแบบ อย่างแรกคือโลกอนาคตที่เสื่อมโทรมอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายขาดแคลนอาหารจนต้องฆ่ากัน กับอีกแบบคืออนาคตที่ล้ำยุคมีหุ่นยนต์มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกินกว่าที่เราจะคิดถึง โดยเฉพาะในวิดีโอเกมที่เราเล่นนั้นเราจะสัมผัสได้ถึงความล้ำยุคเหล่านั้นได้มากกว่าการชมภาพยนตร์ เพราะหลาย ๆ อย่างที่ล้ำยุคในเกมนั้นเราต้องเดินไปสั่งงานหรือใช้งานมัน มากกว่าภาพยนตร์ที่เราทำได้เพียงแค่นั่งดู จนเราคิดไปว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ล้ำอนาคตเหล่านั้นมีแค่ในวิดีโอเกมกับภาพยนตร์อย่างเดียว สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นคงยังไม่มีในยุคของเรา ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ สิ่งต่าง ๆ ที่มีในวิดีโอเกมนั้นในยุคของเราก็มีแล้วแค่เราอาจจะไม่ทราบหรือมันยังถูกใช้งานในวงจำกัดเท่านั้น วันนี้เราเลยขอหยิบยกเทคโนโลยีล้ำอนาคตที่ในวิดีโอเกมมีในชีวิตจริงเราก็มีมานำเสนอ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
หุ่นยนต์ในสงคราม
เมื่อพูดถึงสงครามหลายคนอาจจะมองว่ามันคือเรื่องไกลตัว และยุคนี้คงจะไม่มีใครเอาปืนมายิงกันแบบในภาพยนตร์แล้ว แต่เอาเข้าจริง ๆ ทุกวันนี้หลายที่ทั่วโลกก็ยังมีการทำสงครามกันอยู่ และสิ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการสงครามนั้นคือการลดจำนวนทหารที่เสียชีวิตตอนออกไปสู้รบในสงคราม หุ่นยนต์จึงเป็นทางเลือกที่ทีมพัฒนาอาวุธเลือกใช้ และเมื่อพูดถึงหุ่นยนตร์เราคงจะคิดถึงหุ่นรูปร่างมนุษย์แบบในเกม Overwatch กับภาพของสงคราม Omnic Crisis ที่เป็นหุ่นยนต์สู้ในสงครามกับมนุษย์ หรือหุ่นยักษ์อย่าง Sahelanthropus ที่ตัวเดียวก็ทำลายได้ทั้งกองทัพอย่างในเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain ที่เอาจริง ๆ เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยากมาก ๆ เพราะถึงสร้างได้มันก็มีข้อจำกัดในการใช้งาน
แต่ก็ใช่ว่าเรื่องของหุ่นยนต์ที่ใช้ในสงครามจะไม่มี แค่ของจริงนั้นจะเป็นหุ่นยนต์แบบติดล้อตะขาบคล้ายรถถังที่ควบคุมระยะไกลหรือมีสี่ขาไปเลย เพราะหุ่นที่มีสองขาแบบมนุษย์แม้จะเคลื่อนไหวได้ดีแต่การทรงตัวก็เป็นเรื่องยาก ไหนจะเรื่องตอนล้มต้องลุกขึ้นมาอีกถ้าเอาไปสู้จริงคงจะไม่เหมาะ ต่างกับหุ่นที่มีล้อที่ไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น แถมพวกมันก็อึดถึงทนต่อกระสุนปืนและอาวุธต่าง ๆ แถมใช้งานได้ดี และเป็นแนวหน้าในสงครามดีกว่าส่งทหารที่เป็นมนุษย์ไปสู้ ซึ่งหลายประเทศที่นำโดยสหรัฐอเมริกาก็เริ่มต้นคิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์เหล่านี้ออกมาแล้วหลายรุ่น เพื่อใช้ในการต่อสู้ที่อีกไม่นานในอนาคตเราคงจะได้เห็นหุ่นยนต์สู้ในสนามรบอย่างแน่นอน
โทรศัพท์สั่งการสิ่งต่าง ๆ
เมื่อพูดถึงโทรศัพท์ที่สั่งการทุกอย่างได้เหมือนในเกม Watchdog หลายคนอาจจะคิดว่ามันไม่มีจริง ที่เราจะสามารถสั่งการจราจรหรือแอบดูข้อมูลคนอื่นได้ด้วยมือถือของเรา ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วแม้แต่ในตอนนี้เราก็ยังไม่มีเทคโนโลยีขนาดนั้น เพราะความเป็นจริงการจะเจาะข้อมูลนั้นเป็นเรื่องยาก แถมการเจาะข้อมูลเราต้องไปเจาะเป็นที่ ๆ และในบ้านเราหลายแห่งก็ยังเก็บข้อมูลเป็นเอกสารกระดาษอยู่เลย ต่างกับในเกม Watchdog ทั้งสองภาคที่ระบบอินเทอร์เน็ตทุกอย่างนั้นอยู่ในที่เดียว เมื่อเราเจาะระบบได้ก็เท่ากับเราควบคุมทุกอย่าง ซึ่งในโลกแห่งความจริงนั้นระบบทุกอย่างจะเป็นของใครของมัน จึงเป็นไปได้ยากที่เราจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนในเกม Watchdog แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แต่เป็นไปในทางที่ดีและทันสมัย เมื่อโทรศัพท์มือถือสมัยนี้ก็สามารถใช้สั่งการหรือทำอะไรหลาย ๆ อย่างคล้าย ๆ ในเกม Watchdog
ที่พอจะเห็นได้ตอนนี้ก็มีระบบ Smart Things ของทาง Samsung ที่ใช้โทรศัพท์มือถือสั่งการหลาย ๆ อย่างในบ้านผ่าน Application อย่างการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในบ้าน เพียงแค่พิมพ์ไปว่า Good Morning ไปจนถึงกลอนประตูอัจฉริยะที่จับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจะแจ้งมาทางเราทันที หรือจะสั่งเปิดปิดประตูก็ได้ผ่านกล้องอัตโนมัติที่สามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์ของเรา หรือจะเอาแบบปกติหน่อยก็มีทั้งแบบใช้โทรศัพท์มือถือแทนรีโมตทีวีเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องเสียงในบ้าน เรียกว่าใกล้เคียงกับในเกมมาก ๆ เลยทีเดียว และตอนนี้เราก็มี Google Nest Mini ที่สั่งการทุกอย่างด้วยเสียงก็มีแล้ว เรียกว่าพัฒนาไปอีกขั้นก็ว่าได้
โคลนนิ่งมนุษย์
ย้อนกลับไปในปี 1996 ในตอนนั้นมีข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลกกับการโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมได้ครั้งแรกของโลกนั่นคือเจ้าแกะ Dolly แกะเพศเมียที่ถูกโคลนนิ่งขึ้นมาจาก Somatic Cell ที่ผ่านวิธีทางวิทยาศาสตร์อย่างมากมายกว่าจะได้แกะตัวนี้ขึ้นมา จนมีคำถามกับผู้คนทั่วโลกไปว่าแล้วแบบนี้เราก็สามารถโคลนนิ่งมนุษย์มนุษย์ได้ซิ ซึ่งถ้ามองกันตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นมันสามารถทำได้แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด เพราะนับตั้งแต่ที่แกะ Dolly เป็นต้นมาเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างก็พยายามจะโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงมนุษย์ไป จนถึงสัตว์อื่นอย่างหมาแมวหมูกระต่ายวัวไปจนถึงหนูแต่ก็ไม่สามารถโคลนมันได้ และล่าสุดเพิ่งจะมีการโคลนนิ่งลิงแสมได้ในปี 2002 ดังนั้นอย่าเพิ่งมองทางด้านจริยธรรมเลย เพราะถึงยังไม่มีคนคัดค้านก็เราก็ยังโคลนนิ่งมนุษย์แบบในเกม Metal Gear Solid ไม่ได้อยู่ดี
แต่ในช่วงปี 2013 เหล่านักวิทยาศาสตร์จาก Oregon Health and Science University สามารถโคลนนิ่งเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยการนำเซลล์ผิวหนังทารกในครรภ์ไปสร้างเป็นเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ด้วยวิธีการถ่ายฝากนิวเคลียสที่คล้ายกับวิธีโคลนนิ่งแกะ Dolly โดยการการนำเซลล์ผิวหนังทารกในครรภ์มารดาที่มีพัฒนาการเต็มที่แล้วฉีดเข้าไปในนิวเคลียสของไข่ ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถทำได้จริง ๆ แต่ทางเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้คิดจะโคลนนิ่งออกมาจริง ๆ แค่เพียงศึกษาความเป็นไปได้ให้เรารู้ว่ามนุษย์สามารถโคลนนิ่งมนุษย์ได้แล้วแบบในเกม Metal Gear ที่มีการแอบโคลนนิ่งตัว BigBoss ออกมาถึง 3 คน นั่นคือ Solidus Snake ร่างโคลนที่เหมือนต้นแบบ 100% กับฝาแฝด Liquid Snake ที่มียีนส์เด่นของ BigBoss กับ Solid Snake ที่เป็นร่างโคลนที่ได้ยีนส์ด้อย เอาเป็นว่าตอนนี้เราสามารถทำได้แต่คงไม่มีใครทำมันขึ้นมาอย่างแน่นอน
หุ่นยนต์ยักษ์เดินได้
จากในหัวข้อแรกที่เราได้บอกไปว่าการสร้างหุ่นยนต์ที่เดินสองขานั้นเป็นเรื่องยาก ยิ่งหุ่นตัวใหญ่ยิ่งทำให้ยากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าทวี แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เพราะจากที่เราเห็นตอนนี้ก็มีหลายบริษัททั่วโลกที่สามารถสร้างหุ่นที่เดินสองขาแบบมนุษย์ออกมาได้ แค่มันยังไม่สามารถเอาไปใช้งานในสนามรบจริง ๆ ได้เท่านั้น แต่ถ้าทำออกมาเพื่อเดินโชว์นิด ๆ หน่อย ๆ ละก็สามารถทำได้แล้ว แถมเป็นหุ่นยักษ์แบบในเกม Titanfall หรือหุ่นยนต์ในการ์ตูน กับโครงการนำหุ่น Gundam RX 78-2 หุ่น Gundam รุ่นแรกขนาด 16 เมตรที่เท่าของจริงในการ์ตูนที่เรียกว่าขนาด 1.1 เอามาพัฒนา จากเดิมที่มันยืนเฉย ๆ คราวนี้เอามาพัฒนาต่อเพื่อให้มันเดินได้เป็นครั้งแรกของโลก
เรียกว่าเป็นการเติมเต็มความฝันของใครหลาย ๆ คน ที่อยากจะเห็นหุ่นยนต์ยักษ์เดินได้กับตาตัวเองแบบในเกมหรือในการ์ตูน ที่นับเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ที่ในอนาคตเราอาจจะเห็นหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ ที่สามารถเดินได้ดีกว่าเร็วกว่าตัวนี้ก็ได้ ในส่วนของหุ่น Gundam นั้นจะถูกจัดที่ Gundam-Dock Tower ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะเปิดขายตั๋วให้คนทั่วไปได้เข้าชมในช่วงเมษายนปีหน้า จากข้อมูลบอกว่าปู่ RX 78-2 นี้ทาง Gundam Factory Yokohama จะเปิดโชว์ให้เราดู(เดินได้) แบบนี้อยู่ 1 ปีใครที่อยากเห็นก็รีบเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวกันได้
แช่แข็งมนุษย์
เมื่อพูดถึงการแช่แข็งมนุษย์ให้หลับทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นเป็นหนึ่งในเรื่องเพ้อฝันที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในโลกแห่งความจริงการแช่แข็งมนุษย์โดยที่ยังรักษาร่างของเขาเอาไว้ได้นับเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แม้แต่ในเกมเองการแช่งแข็งมนุษย์ก็ยังมีความผิดพลาดจนทำให้ผู้ถูกแช่แข็งเสียชีวิตอย่างในเกม Fallout 4 ที่ผู้แช่แข็งคนอื่น ๆ เสียชีวิตทั้งหมด รวมถึงเกม Overwatch ในเนื้อเรื่องของ Mei ที่นักวิจัยขั้วโลกเกิดพายุหนักเพื่อเป็นการรอเวลาให้คนมาช่วยทุกคนจึงเข้าไปอยู่ในเครื่องแช่แข็งให้หลับ แต่ด้วยความผิดพลาดของระบบจึงทำให้มีเพียง Mei เท่านั้นที่รอดชีวิตเรียกว่ามีความเสี่ยงมาก ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะในยุคนี้ก็มีการคิดค้นการแช่แข็งมนุษย์สำเร็จมาแล้ว
โดยเทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์นั้นถูกเรียกว่า Cryonics โดยผู้ให้กำเนิดโครงการแช่แข็งมนุษย์นั้นคือ Professor Robert Atinker นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ผู้ริเริ่มการทดลองแช่แข็งสเปิร์มของกบสเปิร์มของวัวและสเปิร์มมนุษย์จากนั้นจึงเริ่มทดลองแช่แข็งตัวอ่อนของหนูแพะ และกระต่ายเพื่อการรักษาเซลล์ในร่างกายจนประสบความสำเร็จ และมนุษย์คนแรกที่ขอทำการแช่แข็งตัวเองชื่อ James Bedford ที่ป่วยเป็นมะเร็งไตที่ลุกลามไปที่ปอดและเสียชีวิต แต่ก่อนจะเสียชีวิต James ได้บอกทุกคนว่าอนาคตเขาอาจจะถูกปลุกขึ้นมาและตอนนั้นคงจะมีการรักษามะเร็งของเขาได้แล้ว และวันที่ 12 มกราคม 1962 คือวันแห่งการแช่แข็งมนุษย์คนแรกของโลก ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีมนุษย์ที่ยังไม่เสียชีวิตยอมมาถูกแช่งแข็ง เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าอนาคตจะมีการแช่แข็งมนุษย์อีกไหม
ชุดเพิ่มพลัง
เมื่อพูดถึงชุดเกราะเพิ่งพลังเราคงจะคิดถึงเกม Call of Duty Advance Warfare ที่เราจะได้เป็นนายทหารโลกอนาคต ที่มีชุดเสริมพลังที่ทั้งวิ่งเร็วกระโดดสูงต่อยหนัก จนกลายเป็นพวกเหนือมนุษย์หรือจะเป็นแบบในเกม Crysis ที่เป็นเจ้าแรก ๆ ที่เอาแนวคิดชุดเพิ่มพลังมาใช้ในเกม จนทำให้ตัวเกมที่จากเดิมเคยเป็นเกมเดินยิงทั่วไป เปลี่ยนเป็นเกมที่มีมุมมองการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเปลี่ยนแนวทางไปอีกแบบ ซึ่งสิ่งที่เราเห็นอยู่ในเกมนั้นมันเครื่องมือที่มีไว้ใช้ในสนามรบ ที่บางครั้งก็เป็นการนำทหารที่พิการบาดเจ็บมาต่อสู้ได้อีกครั้ง หรือเป็นการเพิ่มพลังให้ทหารปกติเพื่อไปต่อสู้ ขณะที่โลกแห่งความเป็นจริงก็มีชุดเพิ่มพลังแบบนี้เหมือนกันแต่ส่วนมากจะไม่ได้เอามาใช้ในสงคราม
และสำหรับโลกแห่งความจริงนั้นก็มีหลายบริษัททั่วโลกผลิตชุดเพิ่มพลังที่เรียกว่า Exoskeleton ขึ้นมาเพื่อคนพิการให้สามารถเดินและเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง หรือให้คนทั่วไปสามารถยกของหนัก ๆ หรือใช้งานร่างกายให้น้อยลงทำได้นานขึ้น ซึ่งถ้าใครคิดไม่ออกก็นึกถึงชุดขา Exoskeleton ในเกม Death Stranding ที่ในประเทศจีนก็เอาไอเดียนี้มาต่อยอดให้พนักงานส่งอาหารสามารถแบกของได้เยอะขึ้น อย่างล่าสุดผู้ป่วยอัมพาตชาวฝรั่งเศสสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งด้วยชุด Exoskeleton ที่สามารถสั่งการด้วยความคิดให้คนป่วยกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และแน่นอนว่าชุดเหล่านี้ก็ถูกเอามาใช้เพื่อการทหารด้วยกับการใช้มันเสริมพลังในการเดินและสู้รบ ซึ่งในตอนนี้มันยังเป็นเพียงแค่เครื่องต้นแบบ อนาคตเราอาจจะได้เห็นชุดเพิ่มพลังมีงานในตลาดและอาจจะล้ำยุคจนไปเป็นเหมือนในเกม Crysis ก็ได้ใครจะรู้
AI ที่คิดว่ามนุษย์เป็นภัย
คุณรู้จักกฎสามข้อของหุ่นยนต์ไหม ข้อที่ 1 หุ่นยนต์มิอาจกระทำการอันตรายต่อผู้ที่เป็นมนุษย์ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้ผู้ที่เป็นมนุษย์ตกอยู่ในอันตรายได้ ข้อที่ 2 หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งที่ได้รับจากผู้ที่เป็นมนุษย์ เว้นแต่คำสั่งนั้นๆ ขัดแย้งกับกฎข้อแรก และข้อที่ 3 หุ่นยนต์ต้องปกป้องสถานะความมีตัวตนของตนไว้ ตราบเท่าที่การกระทำนั้นมิได้ขัดแย้งต่อกฎข้อแรกหรือกฎข้อที่สอง นั่นคือสิ่งที่ Isaac Asimov นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังตั้งขึ้น และมันก็ถูกยึดเป็นแนวทางในการสร้างหุ่นยนต์หรือ AI ในยุคนี้ แต่ก็มีหลายครั้งที่เมื่อมนุษย์สร้าง AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมันก็มักจะคิดวิเคราะห์ประมวลผลเองจนได้คำตอบว่ามนุษย์คือสิ่งชั่วร้ายแบบที่ในเกม Horizon Zero Dawn ต้องเจอเมื่อ AI เริ่มจะครองโลกและแพร่เชื้อไวรัสจนทำให้เกิดสัตว์เครื่องจักรขึ้นมา
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น AI ที่เราคิดมันกลับตรงข้ามกัน เมื่อเหล่านักวิทยาศาสตร์อย่างคุณ Stephen Hawking นักฟิสิกส์และจักรวาลวิทยาได้ออกมาสนับสนุนเรื่องของ AI ว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ AI ไม่ใช่ภัยคุกคามแต่อย่างใด แต่ AI คือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพเหนือกว่ามนุษย์ทั้งในด้านสติปัญญาและกายภาพที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้หรือคิดได้ทัน จนเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง AI จะเหนือกว่ามนุษย์และมันจะไม่เป็นภัยกับมนุษย์ ซึ่งคุณ Elon Musk CEO ของ Tesla ก็คิดแบบเดียวกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์กับเกมนั้นคือจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้น เพราะกฎสามข้อที่กล่าวมานั่นเอง
อวัยวะเทียม
เมื่อพูดถึงอวัยวะเทียมที่เราจะเห็นได้บ่อยที่สุดในเกมตอนนี้ ก็คงจะเป็นเกม Cyberpunk 2077 ที่แทบทุกตัวละครในเกมนี้จะใช้อวัยวะเทียมหรือที่เรียกว่า Prosthesis กันแทบทุกคน และไม่ใช่แค่เกมนี้ยังมีตัวละคร BigBoss จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain ก็สวมใส่แขนเทียม หรือเกม Overwatch ที่เกือบทุกตัวละครในเกมนี้ก็ติดตั้งอวัยวะเทียมกันแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแขนเทียมขาเทียบที่ใช้ในการต่อสู้ เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครในเกมดูมีความเป็นหุ่นยนต์ผสมความเป็นมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ขณะที่บางเกมก็ใช้เป็นแกนหลักของเกมเลยก็มีอย่าง Metal Gear Rising Revengeance ที่เกือบทุกตัวละครในเกมนี้จะเป็นคนที่ถูกดัดแปลงใส่อวัยวะเทียมกันทั้งหมด
เมื่อพูดถึงอวัยวะเทียมแบบในเกมบนโลกแห่งความจริง ก็มีหลายคนได้ใช้อวัยวะเทียมแล้ว ซึ่งส่วนมากจะเป็นอวัยวะเทียมที่เป็นแขนเทียม ที่เราสามารถสั่งการให้นิ้วขยับจนสามารถจับสิ่งของต่าง ๆ ได้ ให้ผู้พิการได้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้ง อย่างในเกม Metal Gear Solid V และอวัยวะเทียมในโลกแห่งความเป็นจริงบางส่วน ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่อาจจะเป็นอวัยวะภายในอย่างหัวใจปอดตับไต ที่เป็นอวัยวะเทียมที่ในยุคนี้สามารถสร้างขึ้นมาใช้งานชั่วคราว เพื่อเป็นการรอเวลาในการหาอวัยวะจากผู้บริจาค นอกจากนี้ก็มีจมูกหูตาเทียมเพื่อที่สามารถถอดออกใส่ได้สำหรับผู้พิการที่สูญเสียอวัยวะส่วนนั้น ๆ ไปก็รวมอยู่ด้วยเช่นกัน
หุ่นยนต์ในชีวิตประจำวัน
ย้อนกลับมาที่กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์อีกครั้งที่หัวข้อที่แล้วพูดถึง AI ที่ไม่มีตัวตนแต่คราวนี้เราจะมาพูดหุ่นยนต์รับใช้ในชีวิตประจำวัน แบบในเกม Detroit Become Human ที่ตัวเกมนั้นสะท้อนมองมองความคิดของผู้เล่น ว่าเราควรมองหุ่นยนต์เหล่านั้นเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่มีชีวิตจิตใจเป็นเพื่อนเป็นคนรักเป็นพ่อแม่ได้ไหม หรือมันควรจะเป็นเครื่องเครื่องจักรเป็นสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ใช้แล้วทิ้งไม่ควรมาเป็นมนุษย์ ที่ใครซึ่งได้เล่นหรือเคยดูเกมนี้มาแล้วคงจะมีคำตอบว่าคุณจะเลือกทางไหน ซึ่งในตอนนี้เรายังไม่สามารถตอบได้เพราะในยุคของเราหุ่นยนต์รับใช้ในชีวิตประจำวันยังไม่แพร่หลาย และสามารถสร้างหุ่นแบบในเกมได้ แต่ในอนาคตคำถามนี้อาจจะถูกถามขึ้นมาก็ได้
ในส่วนของความเป็นจริงนั้นในหน่วยงานบริษัทใหญ่ ๆ ในต่างประเทศก็เริ่มใช้หุ่นยนต์ในการทำงาน ที่ถ้าเราไม่นับหุ่นยนต์ที่เป็นเครื่องจักรแต่เป็นหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างมนุษย์เลยก็มีอยู่หลายที่ เริ่มจากเจ้าหุ่นที่เดินสองขาตัวแรก ๆ ที่เปิดตัวขึ้นมาอย่าง Asimo หุ่นยนต์ Humanoid ที่เปิดตัวมาให้พวกเราได้อึ้งทึ่งกับสิ่งที่เห็น หลังจากนั้นเราก็เห็นหุ่นยนต์ที่เป็นแบบมนุษย์มากขึ้นตั้งแต่ Sophia โดยตัวของเธอนั้นมีความสามารถในการแสดงอารมณ์และจดจำใบหน้าของผู้คน แถมยังสามารถเรียนรู้จนเข้าใจคำพูดของมนุษย์ที่แสดงออกมาผ่านน้ำเสียงหรือรูปประโยค เช่นคำพูดแบบนี้คือการประชดหรือคำชม และบางบริษัทก็เอาหุ่นยนต์มาสวมใบหน้าที่สามารถแสดงสีหน้าท่าทางอารมณ์ต่าง ๆ ออกมาได้ที่ดูผ่าน ๆ แล้วจะคิดว่าเป็นมนุษย์เลยก็มี จนเราคิดว่าในอนาคตเราคงจะได้เห็นหุ่นยนต์ออกมาเดินตามถนนแบบในภาพยนตร์กับเกมอย่างแน่นอน
กล่องถ่ายติดผี
ปิดท้ายกับเทคโนโลยีล้ำอนาคตที่ดูเหมือนบ้านเราจะพบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะในรายการเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับที่เราจะมีกล้องถ่ายติดวิญญาณ ที่สามารถมองเห็นโครงร่างเต็ม ๆ ของวิญญาณตนนั้นได้อย่างชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ยังไม่นับเทคโนโลยีตรวจจับคลื่นเสียงพลังงานต่าง ๆ ที่ถูกนักล่าผีทั่วโลกสร้างขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ที่ดูจะเป็นประเด็นให้เราต้องฮือฮาที่สุดก็คือเรื่องของกล้องถ่ายวิญญาณ โดยเราจะไม่เจาะลึกหรือเข้าไปในส่วนของข่าว แต่เราจะพูดถึงแค่กล้องเท่านั้นที่ถ้ามันคือกล้องที่สามารถถ่ายเห็นโครงร่างได้จริง ๆ มันก็จะคล้ายกับซีรีส์เกม Fatal Frame ที่เราต้องใช้กล้องถ่ายรูปสู้กับผีไม่มีผิด
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักเกมซีรีส์ Fatal Frame หรือ Project Zero ในชื่อภาษาอังกฤษ เกมนี้คือเกมที่จะให้เรารับบทเป็นสาวน้อยน่ารักที่แสนบอบบางแต่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เพราะพวกเธอนั้นจะต้องลุยเดี่ยวเข้าไปในบ้านที่มีแต่ผีวิญญาณอาฆาตที่คอยจะฆ่าเธอ แต่เกมก็ไม่ใจร้ายเพราะเรายังมีกล้องถ่ายรูปที่สามารถกักวิญญาณได้ ซึ่งนั่นคือความสนุกของเกมนี้ เพราะนอกจากบรรยากาศที่มืดมนน่าขนลุกวิญญาณผีที่น่ากลัวแล้ว เนื้อเรื่องของเกมก็สนุกน่าติดตามมาก ๆ เรียกว่าน่าสนใจกว่าดูรายการผีเสียอีก
ก็จบกันไปแล้วกับ 10 เทคโนโลยีล้ำอนาคตที่เราหยิบยกมานำเสนอ ซึ่งหลาย ๆ อย่างที่เราหยิบยกมานั้นอาจจะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม หรือบางอย่างนั้นก็มีแล้วแต่เรายังไม่ทราบเราจึงหยิบยกมานำเสนอ และยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่ได้หยิบยกมาพูดถึงเอาไว้มีโอกาสเราจะมานำเสนออีก และถ้าใครมีเทคโนโลยีล้ำอนาคตอันไหนที่เกี่ยวกับในเกมอีกก็บอกกันมาได้เพื่อแลกเปลี่ยนกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส