เมื่อพูดถึงเกม JRPG รุ่นปู่ที่มีอายุยาวนานในวงการเกมมากว่า 34 ที่ถ้าไม่พูดถึงเกมซีรีส์ Final Fantasy ที่อายุยังน้อยกว่า เราก็คงจะคิดถึงเกมซีรีส์ Dragon Quest เกมที่มีการพัฒนาตัวเองไปในทุกภาค ทั้งกราฟิกระบบการเล่นแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนไม่มีขาดตก จนวันเวลาล่วงเลยมาเกมซีรีส์นี้ก็มีภาคหลักออกมาแล้วถึง 11 ภาค ที่ครั้งนี้เรื่องราวของเกมได้กลับมาใช้เรื่องราวของตำนานผู้กล้า Roto ที่แฟนเกมยุคแรกชื่นชอบและจดจำกันมาอย่างยาวนาน มาวันนี้เราเลยหยิบเรื่องราวของตำนานผู้กล้า Roto มาบอกเล่าให้ได้อ่านกัน เพื่อเป็นการต้อนรับเกม Dragon Quest XI S Echoes of an Elusive Age Definitive Edition ที่กำลังจะวางจำหน่ายบน PlayStation 4, Xbox One, และ PC (ใครรอไม่ไหวก็ไปเล่นบน Nintendo Switch ได้เลยตอนนี้) โดยเราจะเล่าเรียงตามลำดับช่วงเวลาตั้งแต่จุดกำเนิดจะได้ไม่งงกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรหยิบดาบพร้อมโล่เตรียมยาสมุนไพรให้พร้อมแล้วมาดูกันเลย
คำเตือนและหมายเหตุ. เนื้อหาภายในบทความจะเปิดเผยเนื้อเรื่องในเกม ส่วนชื่อบุคคลสถานที่จะอ้างอิงฉบับภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
Dragon Quest lll จุดเริ่มต้นของตำนานผู้กล้า
กาลครั้งหนึ่งบนโลกอันสงบสุขจู่ ๆ ก็มีการรุกรานของราชาปีศาจนามว่า Baramos มันส่งกองทัพปีศาจมาบุกไปยังดินแดนต่าง ๆ สร้างความวุ่นวายให้โลก เป้าหมายของราชาปีศาจคือครอบครองโลกให้ตกอยู่ในความมืด จนมนุษย์ต้องลุกขึ้นสู้กับความมืดครั้งนี้ หนึ่งในนั้นก็คือนักรบผู้กล้าแห่ง Aliahan นามว่า Ortega ได้อาสาออกเดินทางปราบปีศาจไปทั่วโลก และครั้งสุดท้ายที่ผู้คนพบเห็นผู้กล้า Ortega คือการต่อสู้อันดุเดือดที่ภูเขาไฟ Necogondo นับจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นเขาอีก มนุษย์ตกอยู่ในความสิ้นหวังเป็นอันสิ้นสุดตำนานผู้กล้า
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปีเด็กน้อยผู้กล้า(ตัวละครในภาคหลักจะไม่มีชื่อเราจะขอเรียกว่าผู้กล้า) อายุครบ 16 ปี พระราชาจึงให้ยอมให้เราออกเดินทางเพื่อไปปราบราชาปีศาจ แบบเดียวกับพี่พ่อของเราทำ โดยเกมจะให้เราสามารถเลือกเพศผู้กล้าได้ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ก่อนจะเริ่มต้นเกมในเช้าวันหนึ่งแม่ของเราเดินมาปลุกจากเตียงนอน(จำฉากนี้เอาไว้เพราะเดี๋ยวช่วงท้ายบทความมันจะมีความหมาย) ให้ไปเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อรับมองคำอวยพร พร้อมกับคำแนะนำให้เราไปเลือกคนที่จะร่วมเดินทางที่ร้านเหล้า Ruida เพื่อรับคนที่อยากอาสาไปปราบปีศาจด้วยกัน ซึ่งเราสามารถเลือกเพศชื่ออาชีพต่าง ๆ ได้ตามต้องการ เมื่อเลือกเพื่อนได้ครบเราก็พร้อมออกเดินทาง
ผู้กล้าทั้ง 4 ผ่านการเดินทางอย่างยาวนานไปยังดินแดนต่าง ๆ ตามเส้นทางที่พ่อของเขาเคยไป ซึ่งตลอดทางเราจะได้รับรู้ถึงคุณงามความดีและความเก่งกาจของ Ortega ว่าได้ช่วยเหลือผู้คนเอาไว้มากมาย พร้อมกับภาระอันยิ่งใหญ่ที่เราต้องแบกต่อจากพ่อ ผู้กล้าที่ฝึกฝนตนเองมาตลอดแต่เด็กก็ได้เรียนรู้เรื่องราวมากมายในการเดินทาง จนทราบว่าการไปหาราชาปีศาจ Baramos นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้กล้าจำเป็นต้องหาลูกแก้ววิเศษทั้ง 6 ลูกที่อยู่ตามดินแดนต่าง ๆ เพื่อชุบชีวิตนกในตำนาน Ramia ให้พาพวกเขาไป เหล่าผู้กล้าต้องพบเรื่องราวมากมาย ทั้งการค้นหาขลุ่ยเสียงสะท้อนอุปกรณ์ที่ใช้ตามหาลูกแก้ว ไปค้นหาสมบัติโจรสลัด กำจัดงูยักษ์ในตำนาน ใช้กระจกแห่งราเปิดโปงพระราชาที่ปีศาจปลอมและช่วยเหลือตัวจริงที่ถูกจับ จนสามารถรวบรวมได้ครบ 6 ลูก
ผู้กล้าและเหล่าผู้ติดตามฝ่าฟันกองทัพปีศาจมาถึงราชาปีศาจ Baramos จนสามารถปราบมันลงได้ โลกกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง เหล่านักรบได้กลับบ้านผู้กล้าเดินทางแจ้งเรื่องราวการตายของราชาปีศาจตามเมืองต่าง ๆ ก่อนจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพระราชา แต่ความสงบสุขนั้นก็แค่ชั่วคราว เมื่อราชาปีศาจ Zoma ที่ปกครองโลกใต้พิภพได้มาประกาศจะยึดโลกเบื้องบน แถมยังบอกอีกว่า Baramos นั้นเป็นเพียงหนึ่งลูกน้องไร้ค่าของเขาเท่านั้น เหล่าผู้กล้าจึงต้องรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อออกเดินทางไปปราบความมืดที่แท้จริง แต่ผู้กล้าไม่รู้ว่าราชาปีศาจ Zoma มันอยู่ที่ไหนของโลก ผู้กล้าจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากราชินีมังกร ที่สืบเชื้อสายมาจากราชามังกรในตำนาน ที่นั่นราชินีมังกรที่กำลังตั้งท้องและกำลังจะตาย นางได้บอกถึงที่อยู่ของราชาปีศาจว่าอยู่ในดินแดนใต้พิภพที่อยู่เบื้องล่าง พร้อมทั้งมอบลูกแก้วแห่งแสงให้กับผู้กล้าเพื่อใช้ในการเดินทาง
เมื่อได้ลูกแก้วและหนทางไปหาราชาปีศาจผู้กล้าก็เดินทางไปยังโลกใต้พิภพทันที ซึ่งเมื่อไปถึงที่นั่นก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ประชาชนต่างหวาดกลัวสิ้นหวังเพราะราชาปีศาจ Zoma ปกครองมนุษย์ด้วยความหวาดกลัว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่มันต้องการ ที่แม้แต่ Ortega นักรบผู้กล้าจากโลกเบื้องบนยังต้องสิ้นชีพให้กับมัน พระราชา Lamatom บอกเล่าเรื่องราวความกล้าของพ่อเราให้ฟัง และบอกถึงหนทางแก่การชนะราชาปีศาจ นั่นคือการไปตีอาวุธชุดเกราะที่แข็งแกร่งจากเหล็ก Oriharukon เมื่อได้อาวุธชุดเกราะในตำนานมาครบ ที่เหลือก็คือการไปยังปราสาท Zoma
ซึ่งการเดินทางธรรมดาไปไม่ได้ต้องรวบรวมไม้เท้าเมฆฝนกับหินแสงอาทิตย์ เพื่อใช้สร้างสะพานสายรุ้งในการข้ามไปยังปราสาทราชาปีศาจ และหนึ่งในการเดินทางนั้นผู้กล้าได้ปลดปล่อยเทพผู้สร้างนามว่าเทพเจ้า Rubis จากผนึกในรูปปั้นที่ราชาปีศาจ Zoma กักเอาไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทนสิ่งที่ผู้กล้าทำ เทพเจ้า Rubis ได้มอบเครื่องรางแห่ง Rubis ให้เราเพื่อปกป้องเราจากอันตราย
เหล่าผู้กล้าบุกไปยังปราสาทราชาปีศาจ Zoma จนไปถึงที่อยู่ของ King Hydra ที่นั่นผู้กล้าได้พบกับ Ortega ที่ยังไม่ตาย เขาต่อสู้กับ King Hydra ก่อนจะพลาดท่าถูกปีศาจทำร้ายยาดเจ็บสาหัส และในวินาทีสุดท้ายของชีวิต Ortega ได้สั่งเสียและฝากความหวังให้กับเรา(Ortega ไม่รู้ว่าเราคือลูกแต่เรารู้) และฝากเราไปบอกลูกเขาด้วยว่าพ่อรักลูกมากขนาดไหน ก่อนจะสิ้นใจในอ้อมกอดลูกชาย
ท่ามกลางความเสียใจผู้กล้าปราบ King Hydra ลงได้ จนมาถึงราชาปีศาจ Zoma ที่นั่งรอเราอยู่ ราชาปีศาจชื่นชมเราที่เป็นเพียงมนุษย์ต่ำต้อยแต่ก็สามารถมาถึงที่นี่ได้ เราที่เตรียมตัวมาดีก็ใช้ลูกแก้วแห่งแสงทำลายเกราะความมืดมันลงได้ ท่ามกลางความตกใจของราชาปีศาจ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับราชาปีศาจจึงเริ่มต้นขึ้น แม้ราชาปีศาจจะเก่งและร้ายกาจขนาดไหนก็สู้ผู้กล้าไม่ได้ จนเราสามารถเอาชนะราชาปีศาจลงได้ โลกทั้งหมดกลับมาสงบสุข แต่ก่อนที่ Zoma จะตายมันได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า จงฟังข้า ตราบเท่าที่ยังมีแสงสว่างก็ยังมีความมืด จะมีคนเช่นข้าปรากฏตัวอีกในอนาคต แต่กว่าจะถึงเวลานั้นเจ้าก็คงจะตายไปแล้ว คำพูดสุดท้ายของราชาปีศาจ ทำให้เหล่าผู้กล้าได้เตรียมพร้อมทุกอย่าง เพื่อสืบทอดสายเลือดและสิ่งต่าง ๆ ให้ลูกหลานใช้ในอนาคต
ภายหลังจากชนะราชาปีศาจลงได้ ชาวโลกทั้งเบื้องบนและใต้พิภพต่างเรียกเหล่าผู้กล้าว่า ผู้กล้าแห่ง Roto ในเวลาต่อมาอุปกรณ์ทุกอย่างของผู้กล้าก็ถูกเก็บไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งเครื่องรางแห่ง Rubis ดาบโล่ชุดเกราะที่ผู้กล้ามสวมใส่ก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอุปกรณ์แห่งผู้กล้า Roto เพื่อให้ลูกหลานได้ใช้ในอนาคต นี่คือเรื่องราวของเกม Dragon Quest lll ที่เป็นภาคจุดกำเนิดผู้กล้า Roto ในเวลาต่อมา
Dragon Quest l ลูกหลานข้าเจ้าจงออกเดินทาง
นับจากเหตุการณ์ในตอนนั้นก็ผ่านล่วงเลยมาหลายร้อยปี ลูกหลานสายเลือด Rota ก็สืบทอดกันเรื่อยมา จนวันหนึ่งราชามังกร(ลูกของราชินีมังกรในภาค 3) ที่เติบโตได้มีความคิดชั่วร้ายที่จะปกครองโลกใต้พิภพตามคำทำนายของราชาปีศาจ Zoma ราชามังกรกับเหล่าปีศาจได้มาขโมยลูกแก้วแห่งแสงและลักพาตัวเจ้าหญิงแห่ง Lamatom ไป ร้อนถึงลูกหลานผู้สืบสายเลือด Roto ที่ต้องออกเดินทางปราบราชามังกร
ตัวเกมเริ่มต้นมาด้วยเรื่องราวง่าย ๆ ที่บอกว่าตัวเรานั้นคือลูกหลานของผู้กล้า Roto และให้เราออกเดินทางไปปราบราชามังกรเพื่อช่วยเจ้าหญิง ที่แม้ปราสาทราชามังกรจะอยู่ฝั่งตรงข้ามที่มีแค่แม่น้ำกั้น แต่การเดินทางไปที่นั่นไม่สามารถทำได้เพียงแค่นั่งเรือไป ผู้กล้าจึงต้องไปค้นหาวิธีเพื่อจะไปยังปราสาทราชามังกร โดยเริ่มจากการตามรอยของบรรพบุรุษ ที่ทิ้งข้อความเอาไว้บนศิลาที่บันทึกเกี่ยวกับสะพานสายรุ้ง ที่ต้องใช้ไม้เท้าเมฆฝนกับหินแสงอาทิตย์ ที่ผู้กล้าได้เก็บเอาไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ รอคอยลูกหลานไปเอามันมาใช้ การเดินทางรวบรวมของวิเศษจึงเริ่มต้นขึ้น
ผู้กล้าออกเดินทางตามหาของวิเศษตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งการค้นหาขลุ่ยนางฟ้าเพื่อเล่นเพลงกล่อมยักษ์หน้าประตูเมืองให้หลับเพื่อไปค้นหาของวิเศษ และระหว่างรวบรวมของวิเศษผู้กล้าก็ทราบถึงที่ขังของเจ้าหญิง จนสามารถช่วยเจ้าหญิงที่ถูกจับออกมาได้ และเพื่อเป็นการตอบแทนเจ้าหญิงได้ให้เครื่องรางแทนใจ(หัวใจเจ้าหญิง) ให้ผู้กล้าเดินทางได้ปลอดภัย(ในเกมมีไว้เพื่อเช็กค่าประสบการณ์ว่าต้องสู้อีกแค่ไหนถึงจะ Level up) จนสามารถรวบรวมไอเทมครบจนสามารถเรียกสะพานสายรุ้งมาได้
แต่ก่อนจะเข้าไปหาราชามังกรผู้กล้าต้องได้รับการทดสอบก่อนเขาว่าเหมาะสมกับสายเลือดแห่ง Roto หรือไม่ ด้วยการไปหาเครื่องรางแห่ง Roto ที่หายไปคืนมา เมื่อได้มาเราก็จะได้รับการยอมรับว่าคือลูกหลานผู้กล้า จนเข้าไปในปราสาทราชามังกรซึ่งที่นั่นก็มีชุดเกราะและโล่ในตำนานที่สามารถกันเปลวไฟจากมังกรได้ รวมถึงดาบแห่ง Roto ที่สามารถฟันเกล็ดมังกรเข้าถูกซ่อนอยู่ในนั้น เมื่อได้ครบการต่อสู้จึงเริ่มต้นขึ้น
ผู้กล้าต่อสู้กับเหล่าสมุนราชามังกรจนมาถึงตัวราชามังกรที่รออยู่ ราชามังกรยื่นข้อเสนอให้ผู้กล้าว่า ถ้าเจ้ายอมเป็นพวกข้าจะแบ่งโลกให้เจ้าครึ่งหนึ่งปกครอง(ถ้าเราตอบตกลงก็ไปหาเกม Dragon Quest Builders มาเล่น) ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ตอบตกลการต่อสู้จึงเริ่มต้นขึ้น แม้ราชามังกรจะเก่งกาจแต่เราที่มีสายเลือดผู้กล้า กับอาวุธในตำนานที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจึงสามารถเอาชนะราชามังกรลงได้ เมื่อชนะเราก็จะได้ลูกแก้วแห่งแสงคืนมาพร้อมความสงบสุข พระราชาที่ชื่นชมในสิ่งที่ผู้กล้าทำได้ยื่นข้อเสนอให้ผู้กล้าปกครองประเทศต้น แต่ผู้กล้าไม่รับ เขาขอออกเดินทางสร้างอาณาจักรของตนเอง เป็นอันจบเรื่องราว Dragon Quest l
Kenshin Dragon Quest Yomigaerishi Densetsu no Ken การเดินทางครั้งใหม่ของผู้กล้า
มาต่อกันที่เกม Kenshin Dragon Quest Yomigaerishi Densetsu no Ken ที่เป็นกึ่งของเล่นผสมเกมที่มีรูปแบบคล้ายเครื่อง Nintendo Wii (Kenshin Dragon Quest นี้วางจำหน่ายก่อนเครื่อง Wii) ที่เราจะได้รับบทเป็นผู้กล้าจาก Dragon Quest l หลังจากปราบราชามังกรได้แล้วแต่ความช่วยร้ายก็ยังไม่หายไป ราชามังกรยังไม่ตาย และกำลังรวบรวมกำลังพลเพื่อมาฆ่าผู้กล้า แถมยังจับเจ้าหญิงไปอีกครั้ง เราจึงต้องออกเดินทางไปปราบเพื่อนำความสงบสุขคืนยัง Alefgard
และในการเดินทางครั้งนี้ผู้กล้าต้องไปเอาไม้เท้าเมฆฝนกับหินแสงอาทิตย์ เพื่อไปยังปราสาทราชามังกรแบบที่เคยทำ แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายเพราะราชามังกรพยายามขัดขวางไม่ให้ผู้กล้าเดินทางไปช่วยเจ้าหญิง และเอาไม้เท้าเมฆฝนกับหินแสงอาทิตย์ได้เหมือนคราวก่อน แต่เราก็สามารถฝ่าฟันจนเอาชนะลูกน้องราชามังกรจนช่วยเจ้าหญิงและสร้างสะพานสายรุ้งเพื่อไปปราบราชามังกรจนช่วยโลกเอาไว้ได้อีกครั้ง
ตัวเกม Kenshin Dragon Quest Yomigaerishi Densetsu no Ken นั้นถ้าใครคิดถึงตัวเกมไม่ออกให้ลองไปหาเกม Dragon Quest Swords The Masked Queen and the Tower of Mirrors บนเครื่อง Wii มาเล่น เพราะนั่นคือภาคต่อของรูปแบบการเล่นจากเกมนี้ ที่ให้อารมณ์การเล่นที่ดีกว่าสนุกกว่าของ Kenshin Dragon Quest Yomigaerishi Densetsu no Ken ที่เล่นยากควรแก่การเอามาสะสมมากกว่าจะเอามาเล่น
Dragon Quest ll ลูกหลานข้าพวกเจ้าจงคืนแสงสว่างให้กับดินแดน
วันเวลาผ่านเลยมาจาก Dragon Quest l มาอีก 100 ปี ลูกหลานของผู้กล้า Roto ภาคแรกต่างก็แยกย้ายกันไปตั้งอาณาจักรเป็นของตนเองในชื่อ Rhodesian, Samatoria และ Moonbrook ซึ่งความสงบสุขที่มีอย่างยาวนานก็ได้จบลงเมื่อนักบวชปีศาจ Hargon ได้ยกกองทัพมาบุกอาณาจักร Moonbrook ฆ่าผู้คนจนหมดแม้แต่ลูกหลาน Roto อย่างเจ้าหญิงแห่ง Moonbrook ที่อยู่ในเมืองก็ถูกฆ่า ทหารผู้รอดชีวิตเดินทางมาแจ้งข่าวกับพระราชาก่อนจะสิ้นใจตาย เราที่เป็นลูกหลายสายเลือด Roto จากอาณาจักร Rhodesian จึงต้องออกเดินทางเพื่อไปปราบนักบวชปีศาจ Hargon
เมื่อเริ่มต้นเดินทางเราได้รับคำแนะนำจากพระราชา(พ่อเรา) ให้ไปตามลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเจ้าอาณาจักร Samatoria มาร่วมต่อสู้ด้วย จนเมื่อได้เพื่อนร่วมทางมาเราก็ออกเดินทางไปยังอาณาจักร Moonbrook ที่นั่นเราพบดวงวิญญาณชาวบ้านที่ยังไม่ไปเกิด เพราะคำสาปของนักบวชปีศาจที่กักขังวิญญาณชาวเมืองเอาไว้ ที่นั่นเราได้พบกับวิญญาณพระราชาที่บอกเราว่าลูกพี่ลูกน้องเราเจ้าหญิงแห่ง Moonbrook ยังไม่ตาย แต่ถูกสาปเป็นสุนัขเราจึงต้องไปหากระจกแห่งรามาช่วยแก้คำสาป จนได้ครบทีมสามสายเลือดผู้กล้าแห่ง Roto
ทั้ง 3 ออกเดินทางไปยังหอคอยคู่โดยใช้ผ้าคลุมแห่งสายลมพาข้ามมายังดินแดน Alefgard โดยสถานที่แรกที่ทั้ง 3 ไปนั้นคืออาณาจักร Lamatom สถานที่เริ่มต้นของผู้กล้าใน Dragon Quest ภาคแรก ที่ตอนนี้เป็นเพียงแค่ซากเมืองที่ไร้ผู้คน ก่อนจะเดินทางไปยังปราสาทราชามังกรที่ตอนนี้มีทายาทของราชามังกรผู้รักสงบอาศัยอยู่ ที่นั่นทั้ง 3 ผู้กล้าได้รับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีปราบนักบวชปีศาจ ว่าการไปต่อกรกับนักบวชปีศาจมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถเอาชนะมันลงได้ เราจำเป็นต้องได้รับพลังจากเทพเจ้า Rubis ด้วยการรวบรวมตราสัญลักษณ์ทั้ง 5 มาให้ได้
ผู้กล้าทั้ง 3 ออกค้นหาขลุ่ยเสียงสะท้อน ไอเทมที่จะตอบรับตราสัญลักษณ์ทั้ง 5 พวกเขาต้องไปยังคุกใต้ดิน ลุยเขาวงกตที่สุดแสนซับซ้อน เข้าไปในหอคอยร้างที่เต็มไปด้วยปีศาจ เข้าต่อสู้ในลานประลองของพระราชา ลงไปกู้สมบัติใต้ท้องทะเล จนสามารถรวบรวมตราสัญลักษณ์แห่งดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, ดวงดาว, วารี และชีวิตมาได้เพื่อปลุกเทพ Rubis ที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา เทพ Rubis ได้ให้พรแก่ลูกหลาน Roto ที่เคยช่วยเธอเอาไว้เมื่อครั้งอดีต พร้อมกับมอบตราแห่ง Rubis ที่สามารถกำจัดความชั่วร้ายและลดพลังของนักบวชปีศาจลงได้
และหนึ่งในคำแนะนำของเทพเจ้า Rubis คือการรวบรวมอาวุธชุดเกราะของ Roto ที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยใช้ในการปราบราชาปีศาจ ที่ตอนนี้หายสาบสูญกระจายอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงอาวุธชุดเกราะที่ทรงพลังอย่างเสื้อคลุมนางฟ้าและดาบสายฟ้า ทั้งสามออกเดินทางจนสามารถรวบรวมชุดเกราะ Roto มาได้ เมื่อทุกอย่างครบทั้ง 3 จึงเดินทางไปปราบนักบวชปีศาจ Hargon
ทั้งสามใช้เครื่องรางตราแห่ง Rubis ลดพลังนักบวชปีศาจได้ แต่มันก็ยังแข็งแกร่งแต่ทั้ง 3 ก็สามารถปราบมันลงได้ แต่ก่อนที่มันจะตายพิธีสุดท้ายของนักบวชปีศาจก็สำเร็จ มันสามารถอัญเชิญเทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง Shido ออกมาก่อนจะสิ้นใจ ทั้ง 3 จึงต่อสู้ศึกที่ 2 อย่างต่อเนื่องจนสามารถเอาชนะเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างลงได้ โลกจึงกลับมาสู่ความสงบสุขนับมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เป็นอันจบเรื่องราวของตำนาน Roto
Dragon Quest Monsters Caravan Heart การเดินทางครั้งใหม่ของลูกหลาน Roto
มาต่อกันที่ข้อมูลเสริมที่แฟน ๆ ซีรีส์ Dragon Quest ต่างคาดเดากันไปว่าเจ้าชาย Kiefer ตัวละครในเกม Dragon Quest Vll นั้นอาจจะเป็นลูกหลานสายเลือด Roto เพราะจากเนื้อเรื่องเกม Dragon Quest Monsters Caravan Heart นั้นเราจะได้รับบทเป็นเจ้าชาย Kiefer ที่ได้เดินทางข้ามมิติด้วยการชักนำของเทพเจ้า The Master of the Illusions Magarugi เพื่อค้นหา Orbs of Roto โดยฉากที่เราจะได้ไปนั้นคือดินแดนในเกม Dragon Quest ll
เมื่อ Kiefer มาถึงเขาก็ได้พบกับกองคาราวานของ Luin ที่ออกเดินทางเพื่อค้นหา Orbs ในการรักษาพ่อของตนที่ป่วย แต่ด้วยความอ่อนแอของ Luin จึงทำให้กองคาราวานอ่อนแอ Kiefer จึงอาสานำขบวนกองคาราวานครั้งนี้เอง ทั้งกองคาราวานผ่านการเดินทางมากมายเพื่อรวบรวม Orbs of Roto ตามสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกับผู้คนและมอนสเตอร์ที่อาสามาร่วมกองคาราวานด้วยจนกลายเป็นขบวนขนาดใหญ่
จนมาถึงปลายทาง Kiefer ก็รู้ว่า The Master of the Illusions Magarugi นั้นหลอก Kiefer มายังดินแดนนี้เพราะต้องการกลืนกินผู้มีสายเลือด Roto เพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง แต่ด้วยความสามารถของ Kiefer กับสายเลือดแห่ง Roto ที่อยู่ในสายเลือดพร้อมกับพวกพ้องในกองคาราวาน จึงสามารถเอาชนะเทพเจ้าแห่งการหลอกลวงไปได้ ก่อนที่ Kiefer จะถูกส่งกลับบ้านทิ้งปริศนาให้แฟน ๆ เดากันไปที่ Kiefer เดินทางไปนั้นคือโลกยุคอดีตหลังหรือก่อนเหตุการณ์ในเกม Dragon Quest ll รึเปล่า และ Kiefer คือลูกหลานสายเลือด Roto รึไม่ก็ได้แค่เดากันไป
Dragon Quest Xl ตำนานมังกรที่ถูกเล่าขาน
แล้วก็มาถึง Dragon Quest Xl ตัวเกมเริ่มต้นในปราสาท Dundrasil ในค่ำคืนที่แสนสงบสุข จู่ ๆ ความมืดก็เริ่มขยายเข้ามาบุกเมือง เมื่อพวกมันรู้ว่าผู้กล้าในตำนานกำลังถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก พวกมันจึงคิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการฆ่าผู้กล้าตั้งแต่ยังเป็นทารก พวกทหารพระราชาราชินีต่างพากันปกป้องผู้กล้าน้อยจนตัวเองต้องตาย แต่ผู้กล้าน้อยก็รอดมาได้เพราะมีชายแก่นามว่า Chalky ในหมู่บ้าน Cobblestone ได้เก็บผู้กล้าน้อยมาเลี้ยงพร้อมกับจดหมายที่อยู่กับเด็กน้อยที่บอกเล่าถึงชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดเอาไว้ของเขาในอนาคต
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผู้กล้าเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านพร้อมกับการฝึกสอนและปลูกฝังถึงสิ่งที่ต้องทำ จนผู้กล้าหนุ่มพร้อมออกเดินทางเพื่อไปรับหน้าที่ผู้กล้าเพื่อต่อกรกับเหล่าปีศาจ แต่การเดินทางนั้นก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะหลังจากเหตุการณ์ที่เหล่าปีศาจบุก Dundrasil ทุกคนก็คิดว่าผู้กล้าน้อยเสียชีวิตไปแล้ว จนเขาต้องออกเดินทางเพื่อพิสูจน์ตัวตนในฐานะผู้กล้าแห่ง Luminary นักรบในตำนานที่ Yggdrasil เลือก ระหว่างทางผู้กล้าของเราได้พบเพื่อนร่วมทางมากมายไม่ว่าจะเป็น Erik หัวขโมยที่เจอในคุก โดยเขาเป็นชี้แนะเส้นทางว่าผู้กล้าต้องทำอย่างไร รวมถึงสองจอมเวทย์สาวสองพี่น้อง Veronica (สาวน้อยชุดแดง)และ Serena สองพี่น้องที่สืบสายเลือดผู้พิทักษ์ที่ในอดีต ที่บรรพบุรุษของพวกเธอเคยร่วมมือกับผู้กล้าปราบจอมมารมาแล้ว และครั้งนี้ก็ถึงตาเธอ 2 คนที่จะสานต่อ
นอกจากทั้ง 3 คนแล้วผู้กล้าได้เพื่อนร่วมทางเพิ่มมาอีก ไม่ว่าจะเป็น Sylvando ผู้ให้ความบันเทิงในการเดินทาง Rab อดีตราชาแห่ง Dundrasil และเป็นปู่ของผู้กล้า รวมถึง Jade เจ้าหญิงแห่ง Heliodor ที่ถือเป็นพี่สาวของผู้กล้า และเธอก็เป็นคนที่อุ้มพาผู้กล้าทารกหนีเมื่อตอนปีศาจบุกเมือง ทั้งหมดผ่านการผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย จนสามารถรวบรวมลูกแก้วครบทั้ง 6 ลูกเพื่อเปิดทางไปสู่ Yggdrasil ต้นไม้แห่งชีวิตที่ซึ่งเก็บดาบในตำนาน(ดาบนั่นคือดาบแห่ง Roto)
แต่การเดินทางไปเอาดาบในตำนานไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะจอมมารที่แฝงตัวในร่างพระราชา Carnelian แห่ง Heliodor ได้ทำร้ายทุกคนก่อนจะชิงดาบในตำนานมาเป็นของตน และเปลี่ยนมันเป็นดาบปีศาจ ราชาปีศาจที่ได้พลังของผู้กล้ามาก็คือจะฆ่าทุกคนทิ้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือของ Veronica ที่สละชีวิตตนเองปกป้องทุกคนผู้กล้าจึงรอดชีวิตมาได้ แต่ดาบในตำนานที่จะปราบราชาปีศาจกลับถูกราชาปีศาจชิงไปแล้ว และตอนนี้มันก็กำลังจะครองโลก
ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้นเหล่ามนุษย์ที่เหลืออยู่ก็พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ผู้กล้าที่กลับมาจากเมืองใต้บาดาลก็รวมรวมเพื่อน ๆ เพื่อตีดาบในตำนานเล่มใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง แบบเดียวกับที่ผู้กล้าในตำนานเคยทำ จนเมื่อทุกอย่างพร้อมทุกคนจึงมุ่งหน้าไปปราบราชาปีศาจ Mordegon จนสามารถเอาชนะมันลงได้ จนโลกกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้งแบบที่มันควรเป็น
แต่ความสงบสุขนั้นไม่ใช่สิ่งที่มันควรจะเป็น ยังคงมีความมืดแอบซ่อนอยู่ จนผู้กล้าต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อแก้ไขสิ่งที่ควรจะเป็นให้ถูกต้อง ตัวของผู้กล้าได้โอกาสที่ 2 ในการเดินทางข้ามเวลาย้อนกลับไปตอนที่ตนเองจะเสียท่า เพื่อแก้ไขไม่ให้ต้นไม้แห่งชีวิตถูกทำลายและ Veronica ไม่ต้องสละชีวิตตนเอง จนเราสามารถปราบราชาปีศาจ Mordegon ลงได้อย่างแท้จริง ก่อนที่เราจะรู้ว่าในอดีตนั้นผู้กล้าในตำนานถูกคนในกลุ่มหักหลังจนทำให้จอมมารไม่ถูกฆ่า
ขณะที่ความมืดที่แท้จริงก็กำลังจะตื่นขึ้นมาเพื่อครองโลก และเราก็ได้รู้ว่า Yggdragon ก็คือมังกรแห่งแสงที่พ่ายแพ้ต่อ Calasmos ในครั้งอดีต จนเมื่อทุกอย่างพร้อมเหล่าผู้กล้าก็ร่วมต่อสู้กันในศึกสุดท้ายกับความมืดที่แท้จริง จนสามารถเอาชนะมันลงได้ เป็นการปิดฉากสิ่งที่ผู้กล้าในอดีตทำไม่สำเร็จ
เมื่อเล่นจนจบหลายคนอาจจะสงสัยว่า Dragon Quest Xl มันมีเนื้อเรื่องส่วนไหนเกี่ยวกับตำนานผู้กล้า Roto เพราะขนาดการเล่าเรื่องย้อนเวลาไปในอดีตของผู้กล้ายุคก่อนก็ไม่มีส่วนไหนตรงกับตำนาน Dragon Quest เลยแม้แต่ภาคเดียว จนมาถึงช่วงท้ายเกมทุกอย่างก็ถูกเฉลยขึ้นมา เมื่อมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้กล้าหรือก็คือเรื่องราวใน Dragon Quest Xl เมื่ออ่านจนจบหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปปลุกลูกที่นอนหลับอยู่ให้ตื่น(ที่เราบอกไปในช่วงต้นบทความ) เพื่อบอกว่าวันนี้คือวันสำคัญของเขา ที่แฟน ๆ เมื่อเห็นก็ทราบทันทีว่านั่นคือผู้กล้าจาก Dragon Quest lll และนี่คือการเชื่อมต่อเรื่องราวของตำนาน Roto อย่างสมบูรณ์ที่แฟน ๆ ต่างพากันปรบมือชื่นชมกับการผูกเรื่องราวครั้งนี้ ที่จบลงได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่ทุกคนต้องการ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการสรุปเรื่องราวตำนานผู้กล้าแห่ง Roto ตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาค 11 ที่ทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว ที่เรื่องนี้ต้องชื่นชมคุณ Yuji Horii ผู้แต่งเนื้อเรื่องของซีรีส์นี้ที่เป็นการปิดตำนานผู้กล้า Roto ลงได้อย่างสมบูรณ์แบบของจริง หลังจากที่ Dragon Quest lll ทำเอาไว้เมื่อครั้งอดีต และเราจะได้รับความสนุกแบบเต็มอิ่มอีกครั้งกับ Dragon Quest XI S Echoes of an Elusive Age Definitive Edition ที่มีการเพิ่มเติมเรื่องราวและหลาย ๆ สิ่งอีกมายมายยังไงก็รอคอยกันได้ ส่วนใครที่มี Nintendo Switch ก็แซงคิวไปเล่นก่อนได้เลย และถึงคุณจะไม่รู้จักตำนาน Roto ก็สามารถสนุกกับเกมนี้ได้ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณได้กลับไปย้อนเล่นเรื่องราวตามในบทความนี้คุณจะรู้ว่าทำไมแฟน ๆ ถึงรักซีรีส์นี้มากขนาดนี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส