‘นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย’ หรือ ‘นัท เลอทาน่า’ เจ้าของโรงแรมและร้านอาหาร 24 ชั่วโมง ‘Letana Hotel & Restaurant 24 Hrs‘ ย่านบางพลี สมุทรปราการ ที่ใครหลายคนอาจคุ้นหน้าเขาจากการเป็นหนุ่มโสดในรายการหาคู่ หรือผู้เข้าแข่งขันประกวดร้องเพลง หรืออาจคุ้นหน้าเขาจากหนึ่งใน 20 กว่าเพลงที่เขาอยากทำขึ้นมาด้วยตัวเอง ทั้งหมดที่ว่ามา เป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง และทำมันด้วยตัวเอง หรือจะเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า เขาเป็นคนที่รักการ DIY (Do It Yourself) ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตของตัวเขาเอง อย่างที่เราได้เห็นผ่่านหูผ่านตาใน #beartaiDIY

เขาไม่ได้ชอบแค่การ DIY สิ่งของหรือชีวิตตัวเองแค่เพียงเท่านั้น เพราะการที่เขาเลือกที่จะ DIY ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ทางเลือกชีวิตให้กับตนเอง เป็นเพราะเขาอยากเลือกความสนุกในชีวิตให้กับตัวเอง เขาลงมือ DIY โรงแรมและร้านอาหารในฝัน และ DIY ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความสนุกอย่างไร เขาพร้อมแล้วที่จะอ่านคู่มือให้เราฟัง


ก่อนอื่น อัปเดตหน่อยว่าตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง

ตอนนี้ทำโรงแรมและร้านอาหาร 24 ชั่วโมง ‘Letana Hotel & Restaurant 24 Hrs‘ ย่านบางพลี สมุทรปราการครับ แล้วก็เป็นนักร้องด้วย ร้องอยู่ที่โรงแรมของตัวเองนี่แหละ โรงแรมตอนนี้ทำมา 5 ปีแล้วครับ ก่อนหน้านี้ก็ทำโรงงานรีไซเคิลเศษแก้ว อยู่ที่บางบ่อ สมุทรปราการเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เป็นนักร้องกลางคืนด้วย ไปหาประสบการณ์ด้วยการไปร้องเพลงที่ร้านอื่น ๆ

พอเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ก็เลยเริ่มร้องเพลงในร้านอาหาร ตอนแรกก็ร้องเพลงคนเดียวกับกีตาร์แนวโฟล์กซอง แล้วก็ค่อย ๆ ขยับขยายมีนักดนตรีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยตั้งชื่อวงดนตรีว่า ‘เลอทาน่า’ ซึ่งตอนนี้ก็ทำเพลง ทำซิงเกิลกันด้วย ตอนนี้ก็มีออกมาทั้งหมด 20 เพลงแล้วครับ (หัวเราะ) แล้วก็กำลังจะทำซีรีส์ด้วย เพราะว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาลูกค้าเข้าน้อย ก็เลยชวนเพื่อน ๆ นักดนตรีมาเล่นซีรีส์ด้วยกัน จะได้มีงานใหม่ ๆ ทำครับ

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

ได้ยินมาว่า จริง ๆ ก่อนหน้านี้ โรงแรมของคุณเคยเกือบจะกลายเป็นหอพักธรรมดา ๆ แล้ว

จริง ๆ โรงแรมนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะแม่ผมเลยครับ เพราะว่าแม่ผมมีที่อยู่ ก็เลยอยากทำอะพาร์ตเมนต์ ก็เลยคุยกันตอนแรกว่าอยากจะทำอะพาร์ตเมนต์ แต่ว่ามานั่งคิดอีกที กว่าจะคืนทุนก็ โห… 20 – 30 ปี ถึงตอนนั้นเราคงแก่แล้ว แล้วก็คงจะไม่สนุกแล้วด้วย ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรที่คล้าย ๆ กันดี ก็เลยคิดว่าทำโรงแรมดีกว่า เพราะว่าอย่างน้อยมันก็คืนทุนเร็ว แล้วก็สนุกด้วย แล้วมันก็แตกแยกย่อยออกมาเป็นอย่างอื่นได้อีก เช่นร้านอาหาร มันก็เลยสนุกกว่าอะพาร์ตเมนต์ แล้วก็มาลองคิดว่า อย่างน้อยถ้าทำโรงแรมแล้วไม่รอด ยังถอยกลับมาเป็นอะพาร์ตเมนต์ได้ แต่ถ้าเปิดตัวเป็นอะพาร์ตเมนต์ไปแล้ว จะเปลี่ยนไปเป็นโรงแรมไม่ได้แล้วนะ ก็เลยลองดูซักตั้ง

ตอนนั้นก็เลยลองทำโรงแรมดู แล้วก็ทำชั้นล่างเป็นพื้นที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ดู แต่ด้วยความที่ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้มีเงินทุนมากมายเท่าไหร่ ก็เลยลองทำเฟอร์นิเจอร์ ทำโต๊ะ ทำเก้าอี้ขึ้นมาเอง ตอนนั้นถึงรู้ว่า เฮ้ย เราก็ทำเฟอร์นิเจอร์เองได้นี่หว่า แล้วอีกอย่างก็คือ มันถูกมากด้วย แทนที่เราจะไปซื้อโต๊ะตัวใหญ่ ๆ ราคาประมาณ 40,000 -50,000 ถ้าทำเอง เหลือแค่ 4,000 – 5,000 บาทเอง ก็คือทำได้เป็น 10 ตัว ก็เลยกลายเป็นว่า ของทุกอย่างในโรงแรมเราเป็น DIY หมด แทบจะไม่ได้ซื้ออะไรเลย

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

เท่าที่ฟัง เหมือนคุณเป็นคนที่ทำอะไรตาม Passion ตามความสนุก อะไรแบบนั้นหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นคนอื่น อาจจะรู้สึกว่าทำไมต้องมาทำโต๊ะเอง

ผมเป็นคนไม่ชอบเรียนหนังสือ ผมจบ ม.6 ปุ๊บก็ทำงานเลย พอทำได้ 2 ปี แม่ก็ไล่ให้ไปเรียนภาคพิเศษการตลาด ก็เรียนจนจบนะครับ แต่ว่าเอาจริง ๆ ก็คือ ไม่ค่อยได้ใส่ใจการเรียนเท่าไหร่ เพราะว่าเราใส่ใจกับเรื่องงานมากกว่า พอที่บ้านเริ่มทำกิจการรับซื้อของเก่า ผมก็รับเศษเหล็ก เศษกระดาษเก่ามาขาย

พอทำไปได้ซัก 2 – 3 ปี ก็เริ่มมาจับธุรกิจรีไซเคิลเศษแก้ว เพราะว่าธุรกิจรีไซเคิลที่ทำอยู่มีคนทำเยอะแล้ว ก็เลยลองเปิดดูเลยครับ แล้วก็สร้างเครื่องจักรขึ้นมาเอง เพราะว่ามันเป็นธุรกิจเฉพาะ ไม่ได้มีเครื่องจักรสำเร็จรูป ก็เลยไปแอบดูจากคนอื่น แล้วก็ซื้อเครื่องจักรที่ใกล้เคียงมาดัดแปลง มาลอง DIY ดู ลองทำอยู่ประมาณ 3 เดือนก็เริ่มที่จะเดินเครื่องได้

มันก็เลยเป็นทักษะที่ติดตัวผมมาครับ พวกทักษะการ DIY หรือทักษะด้านช่างกล ด้านเครื่องจักร ก่อนที่ผมจะมาทำโรงแรม ผมกล้าที่จะทำอะไรเองเพราะว่าเราเคยทำเกี่ยวกับด้านช่าง ด้านอะไรพวกนี้มา พอต้องมาทำโรงแรม ที่เกี่ยวกับความสวยงาม พอเรามีทักษะด้านช่างติดตัวมาก็เลยทำได้

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

ถึงขั้นหลงรักการ DIY อะไรถึงขนาดนั้นเลยไหม

ผมเป็นคนชอบทำอะไรด้วยตัวเองครับ ผมรู้สึกว่า การที่เราได้ทำอะไรเอง มันทำให้เราได้รู้ลึกไปจนถึงไส้ใน ทำให้เรารู้ลึกกว่าคนอื่น สมมติว่า ถ้าเราอยากได้โรงแรมสไตล์นี้ ถ้าเราจ้างคนอื่นทำ เราคงไม่ได้สไตล์อย่างที่เราอยากได้ แต่ถ้าเราทำเอง เราจะได้สิ่งที่เราต้องการแบบละเอียดเลย แล้วก็เพิ่มเติมปรับลดได้ตลอดเวลา เพราะว่าเราอยู่กับมันตั้งแต่เป็นเศษ ๆ เราจะมองเห็นขั้นตอนกระบวนการทุกอย่างหมดเลยครับ

เหมือนคุณกำลังจะบอกว่า คุณก็เลือกที่จะ DIY ชีวิตตัวเองด้วย

ผมเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เราสามารถ Custom มันได้ทั้งนั้น แล้วการได้ทำอะไรเอง มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรด้วยพร้อมกัน โดยที่ไม่ต้องไปนั่งเรียนในมหาวิทยาลัย เวลาผมทำอะไร ผมได้เรียนรู้ แล้วก็ได้ของขึ้นมาจริง ๆ ด้วย และมันก็เป็นการสร้างงาน สร้างความรู้ให้กับทีมงานทุกคนที่ทำงานกับเราด้วย

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

มีอะไรที่คุณ DIY ชีวิตตัวเองแล้วรู้สึกว่าเลือกถูกบ้างไหม

ผมชอบตัวเองที่เป็นคนอดทนครับ มันก็เลยทำอะไรด้วยตัวเองได้ อีกอย่างก็คือเป็นคนชอบอะไรง่าย งานที่ผมทำ ทั้งงานเกี่ยวกับขยะ หรืองานก่อสร้าง ไม่ว่ามันจะร้อน จะเหนื่อยแค่ไหน ผมก็รู้สึกดีแล้วก็ชอบกับมันได้ในทุก ๆ วัน

แล้วในอีกมุมหนึ่ง มีอะไรที่คุณ DIY พลาดบ้างไหม

เวลาที่ผมออกแบบพลาด ผมจะดัดมันเลยครับ ผมจะไม่ใช่แบบว่าพลาดแล้วเอาใหม่ เวลาที่พลาด มันจะได้ของใหม่ขึ้นมาเสมอ สมมติว่าถ้าผมทำอะไรออกมาพลาด มันบิดเบี้ยว ผมจะดัดแปลงมันกลายเป็นของใหม่โดยทันที เวลาผมพลาด ผมจะไม่เอาใหม่ แต่ผมจะแถมันเลยทันที (หัวเราะ)

อีกอย่างที่คุณสนใจก็คือเรื่องร้องเพลง อันนี้มันเริ่มมาได้ยังไง

ผมเริ่มชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ ชอบร้องเพลงแบบว่า ร้องเอง ร้องในห้องน้ำ ร้องตอนอยู่คนเดียว ไม่ได้มีวงดนตรีอะไร อะไรแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้เรียนร้องเพลงด้วย ฝึกเองทุกอย่าง จนกระทั่งตอนประมาณ 23 – 24 บังเอิญว่าผมรู้จักกับนักร้องคนหนึ่ง เขาเห็นเราก็บอกว่า หน้าตาประมาณนี้ น่าจะร้องเพลงได้นะ ชอบร้องเพลงหรือเปล่า มีวงดนตรีกำลังหานักร้องอยู่ ลองไปออดิชันไหม ก็เลยลองไปออดิชันดู ก็เลยได้เริ่มร้องกลางคืน ไปออดิชันร้านโน้นร้านนี้ แล้วก็เริ่มสนุก เริ่มท้าทายว่าได้ออดิชันผ่านแล้วนะ มีคนชอบเพลงที่เราร้อง ก็เลยเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไปเลยตั้งแต่เริ่มต้น

แล้วพอถึงจุดหนึี่ง ด้วยความที่ว่า ผมเองเริ่มต้นไม่เหมือนคนอื่นน่ะ คือจะอธิบายยังไงดีวะ… คือคนอื่นอาจจะร้องเพลงอย่างเดียวมาตลอด แต่ผมเริ่มต้นทุกอย่างแบบไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เริ่มต้นร้องเพลงตั้งแต่คนเดียว สองคน สามสี่คน จนกลายเป็นวง จนกระทั่งมาถึงจุดที่บังเอิญว่าผมได้ทำโรงแรมกับร้านอาหาร แล้วก็ได้ร้องเพลงในร้านอาหารของตัวเอง แล้วก็เริ่มมีคนติดตามวงเราด้วย เราก็เลยรู้สึกว่า จะร้องเพลงของคนอื่นไปตลอดเหรอวะ เราอยากทำเพลงในเรื่องที่เราอยากร้องจริง ๆ เราก็เลยลองหานักแต่งเพลง นักดนตรี แล้วก็เริ่มทำกันเมื่อต้นปีนี้แล้วก็เลยทำกันมาเรืี่อย ๆ เลยครับ

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

ถามตามสเต็ป คุณอยากเอาเพลงของคุณรวมเป็นอัลบั้มเต็ม ๆ บ้างไหม

จริง ๆ ที่ทำอยู่ก็เป็นอัลบั้มนั่นแหละครับ แต่ว่าเราอยากจะเอามาต่อยอดเป็นซีรีส์ ชื่อว่า ‘เดอะ เลอทาน่า เฮาส์’ ก็จะเป็นการเอา 20 เพลงที่เราทำมาแตกแยกย่อยเป็นตอน ๆ ส่วนถ้าจะเป็นอัลบั้มที่เป็นฟอร์แมตจริง ๆ ก็คิดเหมือนกันนะครับว่าจะทำสัก 50 แผ่นเอาไว้ขาย ให้ลูกค้า หรือคนที่เขาอยากได้ ตอนนี้วางแผนไว้ว่า อาจจะทำอัลบั้มแรกสัก 10 เพลง ชื่อว่า ‘วิถีมนุษย์’ ส่วนอีกสิบเพลงก็จะแยกออกมาเป็นอีกอัลบั้ม อะไรแบบนี้ครับ

มาร่วมงานกับ beartai ในฐานะทาเลนต์ได้อย่างไร

เริ่มต้นเลยก็คือ ได้รู้จักกับพี่หนุ่ยครับ เพราะว่าพี่หนุ่ยมากินข้าวที่ร้าน ก็เลยได้มาคุยกัน แล้วก็เห็นเราทำ DIY ร้านด้วย ก็เลยให้โอกาสได้ทำคลิปเป็นตอนหนึ่งของเราเลย ชื่อว่า ‘beartai DIY’ ครับ คลิปแรกเลยก็คือการทำตู้เกมอาเขตครับ เพราะว่าผมเองก็มีไอเดียอยากทำตู้เกมเอาไว้ให้ลูกค้าเล่นเองอยู่แล้ว ก็เลยเป็นที่มาของคลิปแรก

เบื้องหลังก็คือ ด้วยความที่ว่ามันยังไม่เคยมีคนไทยสอนวิธีทำในอินเทอร์เน็ตเลย ก็เลยต้องหาข้อมูลของต่างประเทศครับ เริ่มหา Reference จากใน Pinterest เริ่มหาข้อมูลว่าต้องส่ังอุปกรณ์ยังไง อย่างพวกปุ่มต่าง ๆ ก็สั่งมาจากจีน หรือแผงวงจร เราก็ใช้แผงวงจรคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ‘Raspberry Pi’ แล้วก็เอาโปรแกรม ‘Emulator’ มาลง แล้วก็เริ่มทำตัวเดโมขึ้นมาจริง ๆ ก่อนตัวหนึ่ง เริ่มลงโปรแกรมตั้งแต่ 1 ทุ่ม กว่าจะเล่นได้จริงก็ตีห้า พอเล่นได้แล้วก็นั่งกรี๊ดอยู่คนเดียว เล่นได้แล้วโว้ย (หัวเราะ) จริง ๆ จะไปซื้อตู้เกมมันก็ได้ไง แต่เราก็อยากรู้ว่า ถ้าทำเองทั้งหมดมันจะเป็นยังไงวะ มันท้าทายดี แล้วพอทำได้สำเร็จเราก็จะรู้สึกสะใจ (หัวเราะ)

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

แล้วตอนถ่ายทำล่ะ ยากง่ายแค่ไหน แล้วการ DIY เพื่อถ่ายคลิปมันแตกต่างจากเดโมแค่ไหน

ผมไม่เคยถ่ายคลิปอะไรแบบนี้มาก่อนเลยครับ ขนาดถ่ายคลิปวิดีโอตัวเองยังไม่เคยถ่ายเลย (หัวเราะ) จริง ๆ ตอนทำ พวกขั้นตอนต่าง ๆ มันไม่ยากครับ แต่มันยากตอนที่ต้องมานั่งอธิบายนี่แหละว่าต้องทำยังไงบ้าง เพราะปกติเราก็นั่งทำไปเรื่อย ๆ ของเราคนเดียว ทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าพอต้องมาถ่ายคลิป มันก็ต้องทำให้ได้ด้วย แล้วต้องอธิบายให้คนดูเข้าใจด้วยว่า ต้องทำแบบนี้นะ ก็ถือว่ายากพอสมควร

คุณดูคลิปนั้นไหม คิดอย่างไรกับผลงานแรกของตัวเองบ้าง

ตอนแรกที่ผมดู ผมรู้สึกว่าไม่ชอบตัวเอง (หัวเราะ) ทำไมรู้สึกว่าพูดไม่เป็นธรรมชาติอะไรขนาดนี้

ในบรรดาคลิปทุกตัวที่คุณเคยทำ คุณชอบงานไหนมากที่สุด

ผมชอบคลิป DIY โต๊ะปิงปองกระจกครับ ในมุมผม รู้สึกว่ามันเจ๋งดี ไม่มีใครเคยทำ แล้วผมเองก็ชอบกีฬาปิงปองด้วย เคยเป็นนักกีฬาปิงปองตอนมัธยม พอทำขึ้นมาได้สำเร็จก็เลยรู้สึกดี

ถ้าจะให้คุณรีวิวตัวเองในฐานะทาเลนต์ของ beartai คุณจะให้กี่คะแนน เพราะอะไร

ถ้าเป็นคลิปรีวิว เต็ม 10 ผมให้ตัวเองแค่ 6 คะแนนพอ เพราะว่ามันเป็นเรื่องใหม่ของผมมาก ผมคิดว่าต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะเลย ทั้งเรื่องการนำเสนอ การพูด จังหวะจะโคนต่าง ๆ ซึ่งมันก็ต้องมีการพัฒนาต่อไป แต่ถ้าเป็นคลิป DIY ผมให้ตัวเอง 8 คะแนน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ผมชอบอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่พูดแล้วเข้าปาก แล้วมันเป็นเรื่องที่เราได้คิดเองตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

นัท กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นัท เลอทาน่า

คุณมีจุดสูงสุดของตัวเองในฐานะทาเลนต์บ้างไหม

ไม่มีเลยครับ คิดแค่ว่าอยากทำไปเรื่อย ๆ แล้วก็อยากจะทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิม พัฒนาทักษะของเราไปเรื่อย ๆ ทำไปแบบไม่ได้หวังอะไรมากมาย ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ

คำถามสุดท้าย ถ้าคุณได้มีโอกาสคิดเนื้อหาคลิป และเป็นทาเลนต์ของคลิปนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งจริง ๆ คุณก็ทำอยู่แล้ว แต่ถ้ามีโอกาสนั้น คุณอยากทำคลิปแบบไหนมากที่สุด

มันก็คงเป็นเรื่อง DIY อยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะว่าจริง ๆ มีของที่ผม DIY เยอะแยะไปหมดเลยครับ ที่ผมทำอยู่ในทุก ๆ วัน และตลอด 4 – 5 ปีที่ทำโรงแรมกับร้านอาหารมา ผมอยากเอาประสบการณ์จากตรงนั้น เอามาทำให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ให้มากที่่สุด และได้ประโยชน์อย่างเดียวไม่พอ ต้องสนุกด้วย


แนะนำ

‘เมย์ ศิตาภา’ ทาเลนต์ beartai รุ่นบุกเบิกที่กลัวการ “ไม่มีอะไรจะทำ”
ออม สุชญา’ อดีตเด็กขี้อายที่กล้าเปลี่ยนตัวเองสู่โหมดสดใสและซีเรียสในเวลาเดียวกัน
‘ต้าร์ คมสัน’ จังหวะชีวิตโบ๊ะบ๊ะที่ตบด้วยมุกตลก พูดตรง ๆ และการลองทำให้รู้ไปเลย


พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส