สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวแบไต๋ทุกท่าน
ไม่ต้องสงสัยว่านี่คือใคร ปกติบทความในเว็บแบไต๋ไม่ค่อยมีใครพูดค่ะมาก่อน !!
เฟื่องเองค่ะ แฮ่ 🙂
ตอนนี้เฟื่องได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งใน columnist (คอลัมนิสต์) ประจำเว็บแบไต๋ ((เขียนภาษาไทยไปเกร็งไปกลัวครูทอมคำไทยมาตรวจเจอสะกดผิด! ฮ่าๆ))ซึ่งก็จะแวะเวียนมาเขียนเรื่องราวให้ทุกๆคนได้อ่านกันสัปดาห์ละครั้งนะคะ (หากไม่มีอะไรผิดพลาดเราจะมาเจอกันทุกวันศุกร์แบบนี้ค่ะ)
เป็นนักเขียนหน้าใหม่ สำนวนภาษาอาจจะยังไม่สละสลวยเท่าพี่ๆโปรเฟสชันแนลที่คร่ำหวอดในวงการมานาน แต่ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^
หลายคนอาจจะพอทราบ (และอีกหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ)สำหรับผู้ที่เพิ่งรู้จักกัน
เฟื่องจบจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาอังกฤษค่ะ
(คณะเดียวกับครูทอมคำไทย แต่คนละเอกกันนะ ครูทอม เขาเอกไทยโดยตรงเลย มิน่าภาษาไทยท่านทอมช่างเป๊ะเสียนี่กระไร)
ดังนั้นเฟื่องจึงค่อนข้างหลงใหลในภาษาอังกฤษ และก็พอมีความรู้อยู่ในระดับนึง คิดว่าน่าจะนำความรู้มาแชร์กับทุกคนได้
ประกอบกับเว็บแบไต๋ของเรามีเนื้อหาและข่าวสารวงการไอทีอัดแน่นและอัพเดทเป็นประจำทุกวัน เอาใจสาวกทุกคนอยู่แล้ว
เฟื่องจึงขอแหวกแนว มาเขียนเรื่องราวที่เน้นหนักด้านภาษา
และบางสัปดาห์อาจจะเป็นเรื่องราวไลฟ์สไตล์ต่างๆที่เฟื่องอยากจะนำมาแบ่งปันกับทุกคนแทนแล้วกันนะคะ
(ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องของกิน/การออกกำลังกาย/ดูหนัง/ฟังเพลง แล้วแต่ว่าสัปดาห์นั้นๆจะมีอะไรอยากเล่าละกันโนะ)
เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เป็นบทความแรก
ขอประเดิมด้วยเรื่องภาษาอังกฤษที่ตัวเองถนัดก่อนเลยแล้วกัน
ตามหัวข้อเลยค่ะ “อยากเก่งอังกฤษ จำเป็นไหมต้องไปเมืองนอก?”
อย่างที่ทราบกันดี ปัจจุบัน ภาษาอังกฤษมีความสำคัญกับชีวิตเรามาก
ทั้งในหน้าที่การงาน และการดำรงชีวิตประจำวัน ยิ่งประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว
ความรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นต่อผู้อื่น เพิ่มโอกาสในการทำงาน การสรรหาความรู้ต่างๆ
บรรดาผู้ปกครองที่มีกำลังทรัพย์ทั้งหลายก็พากันส่งลูกหลานไปเรียนต่างแดน ตั้งแต่เยาว์วัย
ไปเรียนซัมเมอร์บ้างล่ะ ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนใช้ชีวิตอยู่กับ Host Family บ้างล่ะ
แน่นอนได้ไปอยู่กับ Native (ชาวต่างชาติเจ้าของภาษา) เป็นเวลานานๆ ก็ต้องได้ซึมซับคำศัพท์
ได้ฝึกปรือทักษะฟุตฟิตฟอไฟ กลับมาสปีคอิ๊งลิชกันได้พอหอมปากหอมคอ
แต่แล้ว อ้าว.. แล้วถ้าเราเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง
ท่านพ่อท่านแม่มิได้มีเงินเหลือใช้ส่งเสียให้เราบินไปหัดฟุตฟิตฟอไฟที่เมืองนอกเมืองนา เราจะหมดสิทธิ์เก่งอังกฤษอย่างนั้นหรือ?
ไม่ค่ะ! อย่าไปคิดอย่างงั้น อย่าไปยอมแพ้ต่อโชคชะตา นึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่ได้มีโอกาสไปอย่างคนอื่นเขา
จริงอยู่ งานวิจัยระบุว่า การพัฒนาทางด้านภาษา ยิ่งเรียนเร็วเท่าไร ไปซึมซับอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีคนพูดภาษานั้นๆเร็วเท่าไร ยิ่งดี
แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะคะ เพราะเห็นตัวอย่างจากคนที่เฟื่องรู้จักหลายคน ที่ไปเรียนเมืองนอก แต่กลับมาก็พูดไม่ได้มากสักเท่าไร
อาจจะมาจากหลายปัจจัย เช่น ไปอยู่นู่นก็จับกลุ่มอยู่แต่กับเพื่อนคนไทย
ไม่ค่อยได้ฝึกปรือทักษะภาษาอังกฤษกับชาวท้องถิ่นเท่าไร แค่อยู่ไป พอใช้ชีวิตได้
หรือ อาจจะไปอยู่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ พอกลับมา ไม่ได้สานต่อความรู้ ทิ้งภาษาไป
ไม่ค่อยได้ใช้ อะไรที่ได้เรียนๆจำๆมาจากที่นู่นก็ค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลา
เป็นธรรมชาติของภาษาค่ะ ต้องหัดใช้บ่อยๆ ไม่ใช้ก็จะลืม
ต้องหมั่นปัดฝุ่น บริหารทักษะกันหน่อย เหมือนเครื่องยนต์ ก็ต้องหมั่นสตาร์ท ไม่งั้นก็อาจจะสตาร์ทติดยาก หรือเครื่องเสื่อมไป
เพื่อให้หลายๆคนมีความหวัง เฟื่องเองก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยยยยไปเมืองนอกค่ะ
(ไม่เคย แบบไม่เคยจริงๆนะ ไม่เคยไปแลกเปลี่ยน ไม่เคยไปเที่ยว ไม่เคยไปซัมเมอร์ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคย
เคยแต่ไปแวะเวียนอย่างมากก็ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแต่อย่างใด
ไปพม่าก็ได้แต่โบกมือส่ายหน้า ไม่ไขควงสารพัดประโยชน์ที่บรรดาพ่อค้า/แม่ค้าพยายามฮาร์ดเซลส์ ลดราคาจาก 500 เหลือ 50 ฮ่าๆ)
แต่ด้วยความที่เฟื่องมีใจรักทางด้านภาษา ประกอบกับต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ที่พยายามส่งเสริมความรู้ให้เฟื่องเท่าที่ท่านจะพอทำได้ตั้งแต่เด็ก
ทำให้เฟื่องสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีระดับที่ เวลาบอกว่าไม่เคยไปเรียนเมืองนอกจริงๆนะ หลายคนไม่ค่อยอยากจะเชื่อซักเท่าไร
แล้วก็ได้ใบปริญญา อักษรจุฬา เกียรตินิยมอันดับ 1 ห้อยท้ายมาด้วยนะ (ขออวดหน่อย หนูภูมิใจ ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง อิอิ)
หลักการง่ายๆเลยคือเฟื่องพยายามคลุกคลีอยู่กับภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์
หรือบางทีตอนเด็กๆก็มี session สนทนาภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะกับเพื่อนๆหรือว่าที่บ้าน
ขยันเข้าไว้ เชื่อว่าจะทำได้ แล้วอะไรๆก็จะดีเอง
เนื่องจากวันนี้มีเวลาจำกัด จึงขออนุญาตเกริ่นเรื่องราว ภาษาอังกฤษกับชีวิตเฟื่องลดา ไว้เพียงเท่านี้ก่อน
สัปดาห์หน้าเราจะมาต่อกัน เจาะลึกถึงรายละเอียด ที่มาที่ไป อยากเก่งอังกฤษ แต่ไม่มีโอกาสไปเมืองนอก ต้องทำยังไง
จะเก่งได้มั้ย? มีทริค หรือเทคนิคพิเศษอะไรหรือเปล่า
รอติดตามกันสัปดาห์หน้านะคะ
สำหรับวันนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันศุกร์สิ้นเดือน (และเป็นวันเที่ยวตรุษสำหรับอาตี๋ อาหมวย)
และเริ่มต้นเดือนแห่งความรักในวันพรุ่งนี้ด้วยความสวัสดีมีชัย
เฟื่องลดา สรานี ขอลาไปเพียงเท่านี้
เจอกันสัปดาห์หน้านะคะ
ปล. ระหว่างนี้ถ้าคิดถึงสามารถติดต่อ/ติดตาม กันได้ทั้ง 3 ช่องทาง
Facebook: www.facebook.com/FLD.official
Instagram: @faunglada
Twitter @faunglada
หรือเจอกันได้ทั้งในรายการ แบไต๋ไอที และแบไต๋ไฮเทคนะคะ