ปรกติแล้วเกมจากการ์ตูนดังในยุคนี้มักจะไม่ค่อยน่าสนใจนัก เพราะทีมงานมักจะไม่ลงทุนอะไรมากมายเหมือนทำมาเพื่อโปรโมตการ์ตูน แต่ก็มีบางเกมที่สนุกกว่าที่คาดทำให้หากเรามองเพียงแค่ว่ามันเป็นเกมการ์ตูนก็อาจจะพลาดอะไรดี ๆ ไป

อย่างเกมที่ออกมาล่าสุดเป็นการเอาการ์ตูนระดับตำนาน SpongeBob SquarePants ที่โด่งดังมากช่วงต้นยุค 2000S และยังคงฉายจนถึงปัจจุบันที่เข้าสู่ซีซัน 13 แล้ว มาทำเป็นเกม 3D แม้ว่าจะไม่ใช่ของใหม่เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างออกมาหลายสิบภาคแล้ว ทำให้การมาของ SpongeBob SquarePants The Cosmic Shake อาจจะดูเงียบ ๆ แต่บอกไว้ก่อนว่ามันไม่ธรรมดาเพราะได้รับเสียงวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศค่อนข้างดีทำให้ต้องไปหามาลอง โดยเกมจะวางขายบน PS4, Xboxone, Nintendo Switch และ PC ด้วย

เรื่องราวในเกมจะเริ่มที่สวนสนุก SpongeBob และ Patrick กำลังสนุกกับเครื่องเล่น และได้พบกับหมอดูที่เป็นนางเงือกโดยเธอได้ขายเครื่องเป่าฟองสบู่ ที่เป็นไอเทมในตำนานที่สร้างจากน้ำตานางเงือก ทำให้ทั้ง 2 เผลอไปเปิดประตูมิติและดูดทุกสิ่งในโลกแตกออกเป็นหลายโลกในชื่อ Wish Worlds ทำให้ SpongeBob ต้องออกไปท่องฉากทั้ง 7 เพื่อทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม

กราฟิกดูดีเกินหน้าเกินตา

แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เพราะปรกติแล้วเกมจากการ์ตูนสำหรับเด็กอาจจะไม่ค่อยลงทุนในส่วนของกราฟิกแต่ SpongeBob SquarePants The Cosmic Shake ดูดีในแบบของการ์ตูนและยังใช้ Unreal Engine ในการสร้างภาพ ที่ต้องชมคือผู้สร้างได้ตั้งใจในการใส่รายละเอียดเข้าไปพอสมควร เพราะทั้งพื้นผิวและแสงเงาถือว่าทำออกมาได้ดีมาก เมื่อเทียบกับแนวทางของเกม

แน่นอนว่ากราฟิกโดยรวมแล้วไม่ได้โดดเด่นเท่ากับเกมยุคใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ได้ดูเชยเหมาะสมกับแนวเกมที่สร้างจากตัวละครจากการ์ตูนดัง รวมทั้งเฟรมเรตก็ลื่นไหล แม้จะเล่นบน Nintendo Switch ที่สเปกไม่ได้แรงก็ยังถือว่าไม่แตกต่างกันนัก ส่วนเพลงประกอบแม้จะดูเรียบ ๆ แต่ก็มีการใส่ดนตรีในการ์ตูนยำรวมเข้ามา แต่ที่ชอบมากคือเสียงพากย์ที่ใส่ต้นฉบับเข้ามาแบบครบ ๆ และคัตซีนที่มีมาให้ชมตลอดที่ไม่อยากดูก็กดข้ามได้เลย

เกมเพลย์ดูเชยแต่ยังสนุกนะ

เชื่อว่าหากดูภายนอกแล้วรูปแบบการเล่น SpongeBob SquarePants The Cosmic Shake ดูเชยมาก เพราะมันเหมือนกับเกมแอ็กชัน 3 มิติมุมมองบุคคลที่ 3 แบบเดิม ๆ ที่นิยมใช้ในเกมเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้เชื่อว่ามันจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่คนมองข้ามไป แต่พอได้สัมผัสแล้วมันมีอะไรดีกว่าที่คาดไว้มาก อย่างแรกที่ชอบคือการจำลองฉากที่ดึงเอาความเป็นการ์ตูนออกมาแบบไม่เสียของทุกอย่างที่แฟน ๆ คุ้นเคยใส่มาครบ

ในเกมเราจะบังคับตัวละครหลักอย่าง SpongeBob ส่วน Patrick จะโผล่ออกมาเป็นผู้ช่วยเท่านั้น และจะต้องกระโดดไปตามพื้นผิวและโจมตีศัตรูที่จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เหมือนกับ Super Mario ภาค 3 มิติ เพราะอุปสรรคในฉากจะมีความคล้ายกันเช่นการกระโดดไปบนพื้นเลื่อน กับดักก็คล้าย ๆ กัน แต่การต่อสู้กับศัตรูในบางจุดจะบังคับให้กำจัดให้หมดที่ส่วนนี้จะเหมือนกับเกมแนวแอ็กชัน RPG ทั่วไปที่ความจริงไม่น่าจะใส่มาพร้อมดูเชยไปหน่อย

ฉากหลากหลายในมิติที่แตกต่าง

จุดเด่นตามชื่อภาคคือการแบ่งออกเป็นฉากย่อย ๆ ที่มีความแตกต่างในแง่ของงานออกแบบของโลกที่ไม่เหมือนกัน เช่นดินแดนคาวบอยตะวันตกที่จะมีฉากหลังเหมือนหนังคาวบอย หรือบางฉากจะหลุดไปในโลกของโจรสลัดที่จะได้ท่องไปในทะเลที่สวยงาม หรือบางฉากจะจำลองมาจากหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องที่จะเล่นกับฉากที่แตกต่างแถมมีผู้กำกับมาสั่งให้เราทำระหว่างเล่นเหมือนเป็นไอเดียแปลก ๆ ที่ใส่เข้ามา

แน่นอนว่าในแต่ละด่านตัวละครหลักจะมีการเปลี่ยนชุดตามฉากเช่นการใส่หมวกคาวบอย หรือใส่ชุดโจรสลัด อย่างไรก็ตามผู้สร้างไม่ได้เปลี่ยนความสามารถพิเศษเข้าไป SpongeBob จะมีการโจมตีคล้ายกันถือว่าน่าเสียดายเพราะมันน่าจะเพิ่มความหลากหลายได้มากกว่านี้ ยังดีที่การต่อสู้กับบอสในเกมที่สนุกพอตัวมีอะไรให้เราประหลาดใจบ้าง และเชื่อมโยงเอาเรื่องราวที่ผูกเอาไว้ตั้งแต่ต้นใส่เข้ามาได้ลงตัว และมีจุดเด่นมากพอที่จะทำให้เราเล่นไปจนจบได้

ใครชอบเกมแนวแอ็กชันคลาสสิกแบบเดียวกับ Mario ภาค 3D น่าจะหลงรักเกม SpongeBob SquarePants The Cosmic Shake ได้ไม่ยากเพราะมีอะไรคล้ายกันหลายจุด แม้จะไม่ได้แปลกใหม่และตัวเกมก็สั้นไปหน่อย แต่หากชอบของเดิม ๆ ที่เราเคยเล่นในวัยเด็กก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ยิ่งหากคุณเป็นแฟนการ์ตูนอยู่ด้วยแล้วก็สมควรอย่างยิ่งที่ต้องเล่น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส