เช้าตรู่วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2019 ผมได้รับเชิญไป “เขาใหญ่” โดย “คนใหญ่โต” ท่านหนึ่ง ท่านนี้เป็นฝ่ายเรียกร้องที
“ประธานอาวุโสแห่งเครือเจริ
คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ตัวจริงไม่เหมือนในทีวีหรือ
เอาเป็นว่า “ในวัย 80 ปี” ของอัครบุคคลที่ผ่านร้อนผ่า
เช้า 9.00น. เป็นเวลานัดหมายภายในสถานที
ท่านประธานมา “พอดีเวลาเป๊ะ”
และเดินเข้าหอประชุมทันที ไม่มีค่าความหน่วงหรือ Latency เหมือนเสาสัญญาณ 4G … คนใกล้ชิดท่านบอกผมว่า “ท่านประธานเป็นแบบนี้เสมอ”
ผมได้รับการปฏิสัมพันธ์เล็ก
ผมไม่ได้รับการอนุญาตให้ถ่า
เมื่อทำเสร็จ ได้ผลดำเนินการ ถึงจะมาขึ้นเวทีพรีเซนต์ได้
เอาจริง ๆ ความรู้สึกที่ผมได้ฟังแผนคื
กลับมาที่เวทีพัฒนาผู้นำของ
ตลอดหลายชั่วโมง ผมเห็นหมด ทั้งทีมที่พรีเซนต์ดีและไม่
คำกล่าวจากปากเอกบุรุษแห่งอ าณาจักรซีพีที่นุ่มนวลแต่แฝ งด้วยนัย เปล่งออกมาตั้งแต่..
- ผมเองก็ต้องรับผิดชอบเรื่อง
นี้ด้วย…ด้วยความอับอาย เพราะผมเป็นคนชวนคุณมาเอง - ผมเองก็ต้องเรียนรู้จากพวกค
ุณด้วย - ต้นทุนที่แพงที่สุดของการทำ
ธุรกิจคือ “เวลา” - ฟังเสียงลูกค้าแล้วอย่าลืมฟ
ังเสียงที่ลูกค้าไม่ได้บอกด ้วย
เป็นต้น … หวังว่าคงพอเห็นภาพนะครับว่
ทุก ๆ การพัก ไม่ว่าจะพักครึ่ง พักทานข้าว ประธานธนินท์จะเดินออกจากห้
ผมและเฟื่องลดา น้องสาวแห่งวงการไอทีที่ผมต
ท่านประธานเอ่ยปากชวนคุยเพร
คุณธนินท์ชอบใจคำพูดผมที่ว่ า
“เวลาอธิบายอะไรใคร ผมใช้คำศัพท์เทคนิคแต่ต้องม
ีประโยคตามมาเป็นคำขยายเพื่ อให้ทุกคนเข้าใจได้”
แกย้ำเรื่องนี้กับทุกคนในวง
นี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่ท่านประธานได้อธิบายวิธีการทั้งหมดกับผม เป็นห่วงโซ่ Ecosystem ใหม่โดยใช้เทคโนโลยีมาลดต้นทุนทุกส่วนที่เคยปวดร้าว ..แปลว่าปัญหาเหล่านี้มีทางออกไว้หมดแล้ว เพียงแต่การแก้ได้มันต้องสื่อสารได้ด้วยจึงจะได้ผล
ท่านพร้อมจะให้ผมสื่อสารตามสิ่งที่ผมเห็นจริง ไม่ใช่วิธีสื่อสารแบบโฆษณา แต่จะพาผมไปเห็นไปดูกระบวนการที่ทำได้แล้ว และรอการสเกลไปในระดับประเทศ ท่านย้ำสองครั้ง “แล้วคุณไปกับผม”
โลกธุรกิจสู้โลกการเมืองไม่ได้อยู่อย่างหนึ่ง คือมันแจกเงินไม่ได้ แต่มันต้องทำด้วยกระบวนการความยั่งยืนคือต้องหาการหล่อเลี้ยงให้เติบโตได้แบบเป็นเหตุเป็นผล
ในวัย 80 ปีของท่านประธานธนินท์ ผมจับจุดได้อย่างหนึ่งคือ
ท่
านกลัวการล้มละลายมาก
ท่านบอกทุกอย่างต้องเปลี่ยน
คุณธนินท์เน้นย้ำ 3 ข้อให้ผมฟัง
(ซึ่งผมมาอ่านเจอภายหลังในห
- ประเทศได้อะไร ? (ไม่ว่าจะทำธุรกิจในไทยหรือ
ไปประเทศไหน ?) - ประชาชนในประเทศ (นั้นๆ) ได้อะไร ?
แล้วจึงค่อยมาคิดถึงข้อ 3. คือบริษัทจะได้อะไร ?
ธุรกิจของท่านคนเยอะครับ เลี้ยงเฉพาะพนักงานก็ 2 หมื่นกว่าคน ซัพพลายเออร์ และวงศ์วานการจ้างงานอีกนับ
กว่า “สิ้นเดือนเหมือนขาดใจ” ของพนักงานที่ต้องทนทานมาม่
ผมมองว่าคุณธนินท์ก้าวข้ามค
ำว่า “เจ้าของ” ไปนานแล้วล่ะครับ แกเป็น “ผู้นำโลก”
…โลกธุรกิจ แกสนุกกับการคิด คิดให้เป็นธุรกิจ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะแกไม่ได้คิดเพื่อตัวเอ
ยังมีประเด็นพลีย่อยอื่น ๆ ที่สำคัญกับปากท้องคนไทย เช่นแกคิดวิธีทำให้คนไทยได้
วิธีสื่อสารให้รับรู้พร
้อมกันทั้งประเทศยากมากแล้ว แต่ต้องทำ Segmentation แบบละเอียดยิบให้เหมาะกับทุ กกลุ่มก้อนในสังคมไทย
(ซึ่งฟังแล้วก็อาจไปตีความใ
เพื่อให้ผมได้กระจ่างกับทุก
…”แล้วที่ใคร ๆ เขาว่าท่านผูกขาดน่ะมันคืออ
ะไร ?”
ท่านตอบผมด้วยความเมตตาว่า. ..
“เมืองไทยไม่มีใครผูกขาดได้
แต่ที่ผมเป็น 60% ของตลาดได้ก็เพราะผมแค่ทำมา
ก่อน …
ในเมืองจีนซะอีกที่ผมยอมรับ
คนที่ว่าแบบนี้ก็เพราะเขาแค่ไม่เข้าใจ*”
การมองจากมุมนอกบางทีมันก็ไ
ประธานธนินท์ตอบคำถามสุดท้า
“ท่านคิดไวมากและยังดูไม่แก่เท่าไหร่เลย”
ประธานลุกขึ้นแล้วตอบว่า
“เพราะผมออกกำลังกาย และการทำงานวันนี้ผมถือว่าม
าเที่ยว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
แล้วท่านประธานก็เดินออกจาก