บ้านเราก็คงรู้จักคำว่า ‘สังคมไร้เงินสด’ ที่เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดอยากจะซื้อของอะไรก็ใช้การสแกน QR Code โอนเงิน หรือใช้การแตะบัตรจ่ายเงิน แต่ถ้าเป็นรหัสผ่านล่ะ เราสามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องป้อนรหัสผ่านได้หรือไม่ คำตอบตอนนี้คือเป็นไปได้ ด้วยการมาถึงของมาตรฐาน Passkey

ก่อนจะไปทำความรู้จัก Passkey มาทำความรู้จักรากเหง้าของรหัสผ่านแบบสั้น ๆ กันก่อนที่พวกเราต้อง จำแล้ว จำอีก จำต่อไป ในทุก ๆ วัน

จุดกำเนิดของระบบ Password เกิดขึ้นเมื่อ 63 ปีที่แล้ว

แนวคิดของรหัสผ่านเริ่มต้นมาจากมหาวิทยาลัย MIT (Massachusetts Institute of Technology) ซึ่งในยุคสมัยนั้นภายในมหาวิทยาลัยมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันแต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันมันก็ไม่มีความเป็นส่วนตัว

ในปี ค.ศ.1960 จึงถือกำเนิดระบบ CTSS (Compatible Time Sharing System) เป็นระบบปฏิบัติการที่อนุญาตให้ผู้คนสามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน และก่อนเข้าถึงจำเป็นต้องป้อนรหัสผ่านให้ถูกต้องก่อนเข้าถึงบัญชีของตนเอง

และแนวคิดนี้ได้รับความนิยมในปี ค.ศ. 1970 โดยการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Unix ของ BellLab ที่นำเสนอระบบไฟล​์แบบลำดับขั้น และความสามารถใช้งานหลายคนที่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่านที่ถูกต้องเพื่อเข้าถึงไฟล์ที่มีการเข้ารหัส

เราใช้อะไรนอกเหนือ Password ได้บ้างในการยืนยันตัวเอง

ซึ่งรหัสผ่านก็เป็นรากฐานสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่พวกเราใช้งานอยู่ในปัจจุบัน แต่การใช้งานรหัสผ่านอย่างเดียวดูแล้วก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุดจึงจำเป็นต้องใช้ระบบยืนยันตัวเองแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication : 2FA) เช่น

  • รับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชัน Authenticator เช่น Google Authenticator หรือ Microsoft Authenticator
  • ใช้ฮาร์ดแวร์ยืนยันตัวเองเช่น USB Key หรือ NFC Key
  • หรือใช้ระบบ Biomatric สแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแบบ 3D เพื่อยืนยันซ้ำ

ปัญหาของการใช้ Password ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้ไม่สามารถจดจำรหัสผ่านของตัวเองที่มีความซับซ้อน และตั้งไม่เหมือนกันในแต่ละบัญชี หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้จะถูกหลงลืมได้ง่ายมาก ๆ และหากมีแฮกเกอร์ที่มีความสามารถในการถอดรหัสก็สามารถขโมยรหัสผ่านเข้าบัญชีของเราได้เช่นกัน

และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ Passkey ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อลดข้อจำกัด และข้อบกพร่องต่าง ๆ ของระบบรหัสผ่านที่ถูกใช้งานในปัจจุบัน

Passkey มันคืออะไร ?

Passkey คือระบบที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี และมีความปลอดภัยสูงที่รหัสผ่านไม่ได้ถูกจัดเก็บเอาไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่หมายความว่า แฮกเกอร์ไม่สามารถเจาะระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของเรา และเราผู้ใช้งานทั่วไปก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจดจำรหัสผ่านอีกต่อไป โดยอุปกรณ์ของเราที่ลงทะเบียนระบบ Passkey จะกรอกรหัสผ่านโดยอัตโนมัติเมื่อลงชื่อเข้าใช้งาน

หลักการทำงาน Passkey

เมื่อผู้ใช้ต้องการสร้าง Passkey สำหรับเว็บไซต์, แพลตฟอร์ม และบัญชีต่าง ๆ เครื่องของคุณจะส่งแจ้งเตือนให้ผู้ใช้สแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าเพื่อทำการยืนยันตัวเอง หลังจากนั้นรหัสผ่านจะถูกสร้าง และบันทึกลงเครื่องโดยอัตโนมัติโดยไม่การบันทึกรหัสผ่านลงบนเซิร์ฟเวอร์

วิธีเปิด Passkey

ในส่วนของวิธีการเปิดใช้งาน Passkey มีวิธีง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน โดยวิธีการเปิดใช้งาน Passkey จะอ้างอิงจากแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะใช้งานอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ Google Account

  1. เข้าไปที่ตั้งค่า Google Account
  2. คลิกเข้าเมนู Security หรือ ความปลอดภัย
  3. เลื่อนหาคลิกเมนู Passkey หรือ รหัสผ่าน
  4. กดสร้าง Create a Passkey หรือ สร้างรหัสผ่าน
  5. หลังจากกดสร้างรหัสผ่านจะให้ผู้ใช้นำอุปกรณ์มาสแกน QR Code เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ในบัญชี Passkey

ซึ่งการเปิด Passkey ในแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ก็มีวิธีการที่ไม่แตกต่างจากการเปิด Passkey ใน Google Account

วิธีการใช้งาน Passkey

  1. เปิดเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือบัญชีที่ต้องการลงชื่อเข้าใช้ และมีการเปิดระบบ Passkey เป็นที่เรียบร้อย
  2. กรอก Email หรือ Username ตามที่ระบบต้องการ
  3. เลือกวิธีลงชื่อเข้าใช้แบบ Passkey
  4. ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้สแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแบบ 3D
  5. เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จระบบจะกรอกรหัสผ่าน และเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ

ซึ่งยังมีอีกหนึ่งวิธีในการลงชื่อเข้าใช้ Passkey คือการสแกน QR Code โดยนำโทรศัพท์ของคุณมาสแกน QR Code ที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หลังจากทำการสแกนอุปกรณ์ทั้งสองจะทำการติดต่อด้วยกันผ่านระบบ Bluetooth เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกสแกน QR Code จากระยะไกล ระบบดังกล่าวทำมาเพื่อป้องกันการโดนสวมรอย เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จสิ้นก็สามารถเข้าสู่บัญชีต่าง ๆ ได้ทันทีทันใด

สแกน QR Code Passkey แตกต่างจากสแกน QR Code ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ยังไงบ้าง

หากดูวิธีการสแกน QR Code ของ Passkey เพื่อลงชื่อเข้าใช้สู่บัญชีต่าง ๆ ที่ดูแล้วก็อาจจะเหมือน ๆ กับการสแกน QR Code เพื่อลงชื่อเข้าใช้ในแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่การสแกน QR Code ของ Passkey ก็มีความแตกต่างอยู่เช่นกัน

  • ข้อแตกต่างที่ 1 มีการยืนยันตัวเองด้วยระบบ Biomatric หลังจากนำอุปกรณ์ไปสแกน QR Code อุปกรณ์ของผู้ใช้จะส่งการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้สแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ หากอุปกรณ์ของผู้ใช้ไม่ได้เปิด หรือไม่รองรับระบบ Biomatric จะใช้รหัสผ่านล็อกอุปกรณ์แทนเพื่อยืนยันตัวเอง
  • ข้อแตกต่างที่ 2 หลังจากทำการสแกน QR Code อุปกรณ์ทั้งสองที่เป็นเครื่องสแกน และเครื่องที่ถูกสแกนจะทำการติดต่อสื่อสารด้วยระบบ Bluetooth เพื่อยืนยันตัวเองว่าอุปกรณ์ทั้งสองอยู่ใกล้กัน และเจ้าของบัญชีไม่ได้ถูกสวมรอยสแกน QR Code ระยะไกล

ข้อจำกัด Passkey

  1. จำเป็นต้องเปิด Bluetooth เพื่อติดต่อสื่อสารยืนยันตัวเองระหว่าง 2 อุปกรณ์
  2. อุปกรณ์ Apple รองรับบน iOS 16 และ macOS Ventura ขึ้นไปเท่านั้น
  3. อุปกรณ์ Android รองรับบน Android 9 ขึ้นไป

Passkey มีให้ใช้ในเซอร์วิสอะไรบ้าง

รายการเซอร์วิสที่รองรับ Passkey เบื้องต้น 1Password, Apple, Binance, BestBuy, eBuy, Google, Microsoft, NVIDIA, PayPal, WordPress และอื่น ๆ

หลังจากนี้ต้องรอให้นักพัฒนา หรือเจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ อัปเดตให้รองรับมาตรฐาน Passkey ให้มากยิ่งขึ้น และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมไร้รหัสผ่าน

ที่มา : April, Apple, Google, FDIO, Wired

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส