โปรแกรม Web Browser ในตำนานอย่าง Internet Explorer หรือชื่อย่อว่า IE หลายคนพอจะทราบว่าได้ปิดตำนาน ยุติการสนับสนุนอีกต่อไป บทความนี้จะมาเล่าตำนานของ Internet Explorer ให้ทั้งผู้ที่เกิดทันได้ย้อนตำนานไปด้วยกัน และคนที่อาจไม่ทันใช้ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองได้เห็นที่มาที่ไปของ Browser ตัวนี้กันนะครับ

จุดเริ่มต้นของ Internet Explorer

ก่อนอื่นเราต้องพาย้อนไปดูว่าก่อนที่ Internet Explorer จะปรากฏตัวออกมา ในอดีตเราใช้เบราว์เซอร์อะไรในการท่องเน็ตบน PC ทั่วไปกัน โดยเบราว์เซอร์ตัวแรกนั่นก็คือ Mosaic ครับ (ขอไม่นับ “WorldWideWeb” เนื่องจากยังไม่ใช่โปรแกรมที่นิยมใช้กันเป็นวงกว้าง)

Mosaic โดย NCSA ออกครั้งแรกในปี 1993 จนกระทั่งในปี 1994 ก็มีเบราว์เซอร์ตัวที่สองออกสู่ตลาด ซึ่งความจริงก็สร้างโดยโปรแกรมเมอร์หลักของ Mosaic นั่นเอง

ช่วงที่ Netscape ทำตลาดใหม่ ๆ ได้รับความนิยมสูงสุด ในบรรดาเบราว์เซอร์ที่ออกสู่ตลาดทั้งหมดในยุคนั้น เพราะเป็นโปรแกรมที่ประสิทธิภาพดีที่สุด แม้ว่าในขณะนั้นเป็นโปรแกรมที่ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์ในการใช้งาน

https://winworldpc.com/screenshot/c3bb4ac2-b6c3-ad2a-c2b4-11c3a4e284a2/3f8a83d1-c8c1-11ec-b931-0200008a0da4

หรืออาจจะมีการแถมพ่วงไปกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางราย หรือแถมมากับตอนซื้อโมเด็ม (สมัยก่อนติดเน็ตต้องซื้อโมเด็มมาเองด้วยนะครับ)

และ Internet Explorer มาตอนไหน?

ในปี 1995 บริษัท Microsoft เจ้าของระบบปฏิบัติการ Windows ที่เรารู้จักกันดี เริ่มรู้สึกว่าตัวเองช้าไปแล้ว หลังจากที่ไม่เคยคิดว่าอินเทอร์เน็ตจะมาแรง จึงจำเป็นต้องออกโปรแกรม Web Browser ของตัวเองแล้ว เพื่อให้อนาคตสามารถต่อยอดไปยังบริการอื่น ๆ ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ตได้ และอาจกลายเป็นผู้กำหนดทิศทางอินเทอร์เน็ตในอนาคต แต่ว่าด้วยความที่เร่งด่วนมาก ก็เลยไปซื้อลิขสิทธิ์โค้ดจากบริษัท Spyglass ซึ่งบริษัทนี้ก็ได้รับสิทธิ์โค้ดมาจาก Mosaic ของทาง NCSA นั่นแหละครับ

ซึ่ง IE เวอร์ชั่นแรกนั้น ออกสู่ตลาดในปี 1995 แต่ว่ายังไม่ได้รับความนิยมนัก เนื่องจากว่ายังไม่ได้ใส่มาพร้อมกับ Windows (แม้ภายหลังแถมมาให้กับแผ่นติดตั้ง Windows 95 เวอร์ชั่นแรกล็อตท้าย ๆ แต่ผู้ใช้ก็ต้องทำการติดตั้งเอง) จนกระทั่งให้มาพร้อมกับ Microsoft Plus! For Windows 95 และออก IE เวอร์ชั่น 2 ใส่มาพร้อมกับ Windows NT 4.0 พร้อมทั้งออกโปรแกรมเวอร์ชั่น Mac สำหรับให้ผู้ใช้ Mac และออกเวอร์ชั่นสำหรับ Windows รุ่นเก่า นำไปติดตั้งได้ ทั้งขายและแจกฟรี แต่ว่าคุณภาพของโปรแกรมตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงยังไม่ค่อยได้รับความนิยม

https://winworldpc.com/screenshot/c2bac2ac-0752-18c3-9011-c3a4e284a2ef/55ca0fde-a72d-11ec-84e0-0200008a0da4

https://winworldpc.com/product/internet-explorer/ie-20

แต่จุดพีคคือโปรแกรม IE เวอร์ชั่นหลัง ๆ พัฒนาจนดีขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น IE3 ที่ให้มากับ Windows 95 OSR 2.1, IE4 ที่ให้มากับ Windows 95 C, Windows 98 และ IE ที่มากับ Windows 98SE, Windows 2000 ทำให้ IE มีส่วนแบ่งผู้ใช้สูงสุด จนแซง Netscape ไปไกล เพราะในขณะนั้น Netscape ยังต้องเสียเงินซื้อมาใช้งาน และ IE มาพร้อมกับ Windows แถมคุณภาพดีแบบนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อ Netscape ยกเว้นผู้ที่จงรักภัคดี (แม้ในยุคนี้ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่คือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของประเทศใหญ่ ๆ บางรายก็ออก Browser ของตัวเองให้ลูกค้าตัวเองใช้ด้วยก็ตาม แต่ก็ต้องติดตั้งเพิ่มและไม่บังคับให้ใช้)

และไม่ใช่แค่บน Windows ช่วงนั้น Apple ยังไม่มี Browser ของตัวเองและก็มีการร่วมมือหลายอย่างกับ Microsoft หนึ่งในนั้นคือใส่ IE มากับเครื่อง Mac พร้อมใช้ทันทีที่ซื้อเครื่องอีกด้วย

Macworld Boston 1997-The Microsoft Deal – YouTube

http://toastytech.com/guis/macos9ie.png

IE 3 ที่มาพร้อมกับ Windows 95 B OSR 2.1

IE 5 ที่มาพร้อมกับ Windows 98 SE

IE 5 ที่มาพร้อมกับ Windows 2000

ช่วงนี้ส่วนแบ่งของ IE จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน Netscape ร่วง แม้จะปรับมาแจกฟรีแต่ว่าไม่ได้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ก็มาช้าไปแล้ว จนต้องแยกตัวออกมาเป็น Firefox จึงพอจะมีส่วนแบ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง 

www.csmonitor.com

ทำไมช่วงหนึ่ง IE ถึงครองตลาด และเริ่มเสื่อมความนิยมตอนไหน?

นอกจากมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล้ว ยุคหนึ่งเป็น Browser ที่ดีพอสมควร ทำให้ Browser อื่นแม้จะฟรีก็มีคนเข้าไปโหลดมาติดตั้งน้อย โดยเฉพาะช่วงที่ IE 6 ออก มาพร้อมกับ Windows XP 

แม้แต่ผู้ที่ใช้ Windows รุ่นเก่าแทนที่จะโหลด Browser อื่นมาใช้ แต่กลับเลือกที่ดาวน์โหลดอัปเกรด IE เก่าให้เป็น IE6 กันเป็นส่วนใหญ่

แต่ความเสื่อมนิยมของ IE ก็เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2007 เป็นต้นมา เนื่องจาก IE เวอร์ชั่นใหม่ ๆ หลังจากนี้พัฒนาค่อนข้างช้า และขาดคุณสมบัติรองรับมาตรฐานเว็บใหม่ ๆ หลายอย่าง และประมวลผลเว็บสมัยใหม่ไม่ค่อยดีและทำงานกับเว็บใหม่ ๆ ช้า จึงทำให้คนเปิดใจที่จะ “เปิด IE เพื่อไปโหลด Browser อื่นมาทดแทน” และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Firefox ที่เร่งเครื่องตั้งแต่ปี 2008 ปรับการออกเวอร์ชั่นใหม่ให้ถี่ขึ้น รวมถึงยักษ์ใหญ่ Search Engine อย่าง Google ก็ทำ Chrome ออกมา 

จนทาง Microsoft พัฒนา IE เวอร์ชั่นสุดท้ายออกมาในปี 2013 นั่นก็คือ IE11 จนตัดสินใจพัฒนา Browser ตัวใหม่อย่าง Microsoft Edge มาแทน ซึ่งภายหลัง Microsoft Edge ก็ใช้ Engine Chromium เหมือนกับ Chrome ทำให้ปัจจุบันผู้ใช้หันกลับมาสนใจที่จะใช้งานBrowser ของ Microsoft ตัวใหม่มากขึ้นกว่าเดิม

เลิก Support แต่ทำไมบางคนถึงยังต้องใช้อยู่?

เนื่องจากยังมีเว็บเฉพาะทางเช่น เว็บภายในองค์กร หรือเว็บสำหรับอุปกรณ์เฉพาะทางต่าง ๆ ที่ใช้งานมานานยังรองรับเฉพาะ IE อยู่ และยังไม่พร้อมที่จะปรับปรุงให้รองรับ Browser ตัวอื่น ซึ่งต้องใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมาก จึงยังมีความจำเป็นต้องใช้ IE เพื่อเข้าเฉพาะเว็บเหล่านั้น

แม้ทาง Microsoft จะประกาศว่า IE ไม่สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว แต่ความจริงยังคงใช้งานได้ผ่านทาง IE Mode บน Microsoft Edge รวมถึงส่วนขยาย IE Tab สำหรับ Chrome และ Edge และยังคงเปิดใช้งาน IE ได้บน Windows 10 LTSB, Windows 10 LTSC, Windows Server

ที่มา: winworldpc (1, 2), Microsoft