Huawei P20 และ P20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่กำลังมาแรงในตอนนี้ แต่หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราก็เริ่มสงสัยว่ายุทธศาสตร์เรือธง 2 รุ่นของของหัวเว่ยกำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวลือราคาไทยของ Huawei P20 ออกมา โดยราคาของ Huawei P20 ในไทยคือ
- Huawei P20 Ram 4 GB ROM 128 GB – 19,990 บาท
- Huawei P20 Pro Ram 6 GB ROM 128 GB – 27,990 บาท
ราคาของ Huawei P20 นั้นไม่น่าแปลกใจ เพราะเป็นราคาเดียวกับ Huawei P10 ตัวท็อปความจุ 64 GB เมื่อปีที่แล้ว แต่ราคาของ Huawei P20 Pro นั้นน่าแปลกใจที่กระโดดไปใช้ราคาเดียวกับ Huawei Mate 10 Pro เมื่อเปิดตัว แถม Mate 10 Pro ยังประกาศปรับลดราคาเหลือ 23,900 บาททันทีหลังจากงานเปิดตัว P20 อีกด้วย จึงทำให้เราคิดว่าเรือธง 2 ตำแหน่งของหัวเว่ยนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ต่อไปนี้ Huawei P20 Pro คือเรือธงรุ่นสูงสุดของกลุ่ม (ไม่นับรุ่นพิเศษตระกูล Porsche Design ที่ราคากระโดดแบบสินค้าแฟชั่น)
ยุทธศาสตร์ 2 เรือธง สร้างความโดดเด่นให้หัวเว่ย
สมาร์ทโฟนหลายแบรนด์ในปัจจุบันก็นำยุทธศาสตร์ 2 เรือธงมาใช้ อย่าง Samsung ก็มีตระกูล Galaxy Note กับ Galaxy S หรือ LG ก็มีตระกูล V กับ ตระกูล G ซึ่ง Huawei เองก็มีสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป 2 ตระกูลคือ Huawei P Series และ Huawei Mate Series โดยที่ผ่านมาตระกูล Mate จะถูกนับว่าเป็นเรือธงรุ่นสูงสุดมาตลอด ด้วยราคาขายที่สูงกว่า แบตเตอรี่จุมากกว่า ภาพลักษณ์พรีเมี่ยม หรูหรา เคร่งขรึม กว่า Huawei P Series ที่ให้ภาพลักษณ์ว่าเป็นมือถือดูสนุกสนาน ใครๆ ก็ใช้ได้ และสมาร์ทโฟนที่เน้นเรื่องกล้อง
ยุทธศาสตร์เรือธง 2 รุ่นของหัวเว่ยสร้างสีสันให้ตลาดมาตลอด เพราะหัวเว่ยสามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวท็อปได้ปีละ 2 ครั้ง จากการเปิดตัว Huawei P Series ก่อนในช่วงต้นปี และเปิดตัว Huawei Mate Series อีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งแม้สเปกปีต่อปีระหว่าง P กับ Mate จะไม่ได้แตกต่างกันมาก (เช่น P20 กับ Mate 10 ใช้ซีพียูตัวเดียวกัน) แต่ทุกครั้งที่มีมือถือเปิดตัวรุ่นใหม่ จะมีความสามารถใหม่ๆ ที่ถูกชูขึ้นมาทุกครั้ง อย่างเมื่อตอน Mate 10 เปิดตัว จะชูเรื่องกล้อง AI แล้วเมื่อ P20 เปิดตัวเจ้ากล้อง AI ก็ถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้น แถมเติมเลนส์ตัวที่ 3 เข้ามาอีกให้ตลาดฮือฮา
ยุทธศาสตร์ 2 เรือธงทำให้ผู้ใช้จดจำภาพลักษณ์ว่า Huawei มีสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง พร้อมกล้องที่ดีอันดับต้นๆ ของตลาดได้ ซึ่งทำให้ยอดขายของหัวเว่ยเติบโตขึ้น
เมื่อตำแหน่งเปลี่ยน Huawei P20 Pro กลายเป็นตัวท็อปแทน Mate 10 Pro
แม้ว่าการเปลี่ยนตำแหน่งเรือธงครั้งนี้จะสร้างความแปลกใจไม่น้อย แต่ถ้ามองภาพรวมของสมาร์ทโฟนหัวเว่ย ก็มีน้ำหนักมากพอที่จะดัน Huawei P20 Pro ขึ้นมาเป็นตัวท็อปแทน เพราะถ้าเทียบฐานความนิยมแล้ว สมาร์ทโฟนในตระกูล P นั้นได้รับความนิยมและเสียงตอบรับจากผู้ใช้เยอะกว่าตระกูล Mate มาก อาจเพราะภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่าย ราคาถูกกว่า ทำให้คนจดจำ Huawei P ได้มากกว่า Huawei Mate
นอกจากนี้การที่ P20 Pro ปรับสเปกขึ้นมาเทียบชั้นกับ Mate 10 Pro คือมี CPU, Ram, Rom และความจุแบตเตอรี่เท่ากัน (ที่ผ่านมาฝั่ง Mate จะมีแบตเยอะกว่า P ตลอด) แต่ P20 Pro กลับให้กล้องที่ดีกว่ามาก ก็ทำให้ Huawei P20 Pro สมควรเป็นตัวท็อปสูงสุดในตอนนี้
ลุ้นทิศทางของ Mate กันอีกทีในช่วงปลายปี
เมื่อตอนที่ Huawei P10 เปิดตัว Mate 9 Pro ก็ยังเป็นรุ่นสูงกว่า ขายแพงกว่า แต่ตอนนี้เมื่อ Mate ไม่ใช่ตัวท็อปแล้ว อนาคตของ Mate จะเปลี่ยนไปในทางไหน Mate ตัวต่อไปจะปรับปรุงให้แบตใหญ่มาก หรือมีฟีเจอร์อะไรที่กลับเป็นตัวท็อปของค่ายที่ P จะไม่มาแซงในจุดนี้หรือไม่ หรือจะยังอยู่ในระดับใกล้ๆ P เพื่อรอ P ตัวต่อไปมาแซง ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ