หลังจากที่ได้ทดสอบการถ่ายภาพด้วยกล้องของ iPhone XS Max มาระยะเวลาหนึ่ง ทำให้พบว่านี่เป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพดีมากที่สุดรุ่นหนึ่ง

แต่จะมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนเท่าไรนั้น ต้องลองมาดูภาพเปรียบเทียบกัน

  • ปล. ในที่นี้ ขอเปรียบเทียบกล้อง iPhone XS Max กับ iPhone 8 Plus เนื่องจากมีโมดูลกล้องที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน จากรุ่นที่ห่างกันเพียงปีเดียว (สำหรับ iPhone X นั้น มีโมดูลกล้องที่ใกล้เคียงกับ XS Max ซึ่งอาจแสดงความแตกต่างของภาพได้ไม่มากนัก)

iPhone XS Max

สเปคกล้องหลัง

  • กล้องคู่มุมกว้างและกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • มุมกว้าง: รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
  • เทเลโฟโต้: รูรับแสงขนาด ƒ/2.4
  • ซูมออปติคอล 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า
  • โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก
  • การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 5 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ แสงไฟสตูดิโอ แสงไฟคอนทัวร์ 
    แสงไฟเวที แสงไฟเวทีขาวดำ)
  • HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย

สเปคกล้องหน้า (TrueDepth)

  • กล้องความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
  • รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
  • โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก
  • การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 5 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ แสงไฟสตูดิโอ แสงไฟคอนทัวร์ 
    แสงไฟเวที แสงไฟเวทีขาวดำ)
  • HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย

iPhone 8 Plus

สเปคกล้องหลัง

  • กล้องคู่มุมกว้างและกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • มุมกว้าง: รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
  • เทเลโฟโต้: รูรับแสงขนาด ƒ/2.8
  • ซูมออปติคอล 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า
  • โหมดภาพถ่ายบุคคล
  • การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล
  • HDR อัตโนมัติสำหรับภาพถ่าย

สเปคกล้องหน้า

  • กล้องความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
  • Retina Flash
  • รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
  • HDR อัตโนมัติสำหรับภาพถ่าย

เริ่มทดสอบ

จากการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกตินั้น อาจไม่มีความแตกต่างกันมากนัก โดยทั้ง iPhone 8 Plus และ XS Max สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี แสดงสีของท้องฟ้าได้สมจริง และจัดการคอนทราสต์และ White Balance ได้ดีเช่นกัน

แต่สิ่งที่สังเกตเห็นได้คือ รายละเอียดของท้องฟ้าที่ iPhone XS Max สามารถเก็บได้มากกว่า

ยามค่ำ (พระอาทิตย์กำลังจะตก)

สิ่งที่ทำให้ภาพจากกล้องของ iPhone 8 Plus และ iPhone XS Max เริ่มเห็นความแตกต่างชัดเจนมากขึ้น คือการถ่ายในช่วงเวลาเย็น ซึ่งเป็นสภาวะที่แสงเริ่มน้อยลง และมีรายละเอียดของสีบนท้องฟ้าที่ซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการถ่ายภาพย้อนแสงด้วย แต่ยังคงได้แสงแบบนุ่ม ๆ อยู่

ด้วยฟีเจอร์ HDR อัจฉริยะ ทำให้การเรนเดอร์ภาพของ iPhone XS Max นั้น ดีกว่าเล็กน้อย เก็บรายละเอียดได้มากกว่า, สีสันชัดเจนกว่า และได้ภาพที่สว่างกว่า

แต่ถึงกระนั้น iPhone 8 Plus ก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดีเช่นกัน สีสันเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะดูด้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง

วิ่งยามเย็น (สีสันของภาพซับซ้อนมากขึ้น)

การเก็บรายละเอียดของท้องฟ้า การจัดการแสง และความแม่นยำของสีของ iPhone 8 Plus นั้น ด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีเช่นเดิม

หน้าชัด หลังเบลอ (ถ่ายวัตถุ ไม่เน้นบุคคล)

แน่นอนว่าทั้ง iPhone 8 Plus และ XS Max นั้น สามารถถ่ายภาพบุคคลด้วยเอฟเฟก Bokeh ได้อย่างสวยงาม แต่มีบ่อยครั้งที่โหมดการถ่ายภาพบุคคลนี้จะถูกนำมาใช้ในการถ่ายภาพวัตถุด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 รุ่น สามารถทำได้ดี

ในการถ่ายครั้งนี้ ได้ใช้โหมดถ่ายภาพบุคคล และเสริมด้วยเอฟเฟกแสงไฟสตูดิโอ เพื่อให้วัตถุด้านหน้ามีความสว่างมากขึ้น และโดดเด่นขึ้น

ในขณะที่สีจาก iPhone 8 Plus ค่อนโทนเย็นมากกว่า แต่ก็สมจริงมาก ส่วน XS Max นั้นค่อนข้างสว่างกว่า เน้นไปโทนร้อน ให้ความรู้สึกว่าสีถูกเร่งขึ้นมาอีก 1 ระดับ ทำให้เสียรายละเอียดของดอกไม้ไปบ้าง

ส่วนขอบของวัตถุที่ตัดกับพื้นหลังที่เบลอของนั้น ที่ iPhone 8 Plus และ XS Max ยังคงมีข้อบกพร่องอยู่ (ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในโหมดนี้ได้รับการออกแบบให้ถ่ายภาพบุคคลมากกว่า)

เริ่มมืด (แสงน้อย)

เป็นช่วงประมาณ 18.00 น. ในหน้าหนาว ซึ่งแสงเริ่มน้อยลงแล้ว แต่ต้องยอมรับเลยว่า iPhone 8 Plus นั้น สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีมาก แต่อาจด้อยกว่า XS Max ที่มี HDR อัจฉริยะ ช่วยเรนเดอร์และปรับสมดุลของภาพได้ลงตัวมากกว่า

มืดแล้ว (สภาวะแสงน้อย)

เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางคืน iPhone 8 Plus ก็ยังคงเก็บแสง, ความแม่นยำของสีได้ดีไม่แพ้ XS Max เลย ถึงแม้ว่าจะมีแสงแฟลร์ (Flare) อยู่บ้าง

ส่วน iPhone XS Max ก็ยังคงใช้ประโยชน์จาก HDR อัจฉริยะ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นรายละเอียดพื้นหลังมากกว่า

แต่เมื่อสภาวะแสงได้น้อยลงไปอีก ก็จะเห็นได้ว่าภาพจาก iPhone 8 Plus นั้น มี Noise มากกว่า ส่วน XS Max นั้น สามารถจัดการกับแสงได้ดีกว่า

กล้องหน้า

เป็นอีกส่วนที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย iPhone XS Max นั้น ใช้ประโยชน์การกล้อง TrueDepth เพื่อสร้างเอฟเฟก Bokeh และ HDR อัจฉริยะที่สวยงาม เก็บแสงและเรนเดอร์สีได้ดี

ส่วน iPhone 8 Plus นั้น มิได้ใช้กล้อง TrueDepth แต่อย่างใด

ความดีงามของการถ่ายภาพบุคคลด้วย iPhone XS Max

ในที่นี้ เป็นการถ่ายภาพโหมดบุคคล ปรับแต่งรูรับแสง และใส่เอฟเฟกแสงสตูดิโอ ซึ่งให้ภาพที่สวยงามเลยทีเดียว (ต้องตรวจดูทิศทางของแสงด้วยนะครับ มิเช่นนั้น “หน้ามืด” แน่นอน)

อีกหนึ่งข้อดีของ HDR อัจฉริยะ

เนื่องจากฟีเจอร์ HDR อัจฉริยะนั้น ช่วยในการเก็บช่วงแสงและสีได้กว้างขึ้น ทำให้สามารถแสดงรายละเอียดได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ซึ่งในกรณีที่ถ่ายภาพในช่วงกลางวันที่มีแสงแดดค่อนข้างแรง ท่านสามารถเร่งความสว่างของภาพที่ถ่ายไปแล้วได้จากแอปรูปภาพของ Apple ได้โดยตรงอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยแสดงรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น โดยที่ไม่เสียรายละเอียดของส่วนที่สว่างด้วย

แต่ไม่ควรเร่งความสว่างมากเกินไปจนทำให้ภาพเสียสมดุล

สรุป

iPhone 8 Plus ยังคงมีกล้องที่ยอดเยี่ยม เก็บรายละเอียดได้ดี สีสันค่อนข้างสมจริงแม่นยำ แต่การจัดการแสงยังด้อยกว่า XS Max

ส่วน iPhone XS Max นั้น มีโมดูลกล้องที่ใหญ่กว่า เก็บแสงได้มากกว่า ทำให้ลด Noise ลงได้ อีกทั้ง HDR อัจฉริยะ ยังช่วยเรนเดอร์ภาพออกมาได้ดีอีกด้วย

กล่าวคือ

  • ถ้าท่านชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟน และใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ แล้วล่ะก็ iPhone XS Max ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
  • แต่ถ้าท่านใช้กล้องสมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพชีวิตประจำวันปกติทั่วไป ไม่เน้นความหวือหวา iPhone 8 Plus ก็มีกล้องที่ทรงประสิทธิภาพมากเช่นกัน

iPhone XS Max

ขอขอบคุณสถานที่ : สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี และวัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี