ทุกวันนี้ Google มีส่วนในชีวิตประจำวันของเรามากนะครับ ไม่ใช่แค่ค้นหาข้อมูล แต่ทั้งเรื่องความบันเทิงจาก Youtube, การนำทางจาก Google Maps, ชีวิตการทำงานผ่าน Google Drive และสารพัดบริการที่ทำให้กูเกิ้ลนั้นเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้มหาศาล ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือ Privacy จึงเป็นเรื่องที่กูเกิ้ลใส่ใจมาก เพราะกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในการใช้งาน ทีมงานแบไต๋ได้มีโอกาสเข้าร่วม Conference call กับ Mr. Keith Enright, Chief Privacy Officer จาก Google เพื่อให้ภาพรวมว่ากูเกิ้ลทำอะไรบ้างเพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของเราจะถูกจัดเก็บและจัดการอย่างปลอดภัย

Mr. Keith Enright, Chief Privacy Officer, Google

เพราะเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน

คุณ Keith เล่าให้เราฟังว่า Google โฟกัสเรื่องความเป็นส่วนตัวใน 3 ด้านคือ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ในด้านความเป็นส่วนตัว, นวัตกรรม และนโยบายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ครับ

ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว

ฟีเจอร์แรกที่ทุกคนน่าจะได้ใช้กันคือบริการของ Google สามารถใช้ปุ่มเดียวเพื่อจัดการ Google Account ได้ และเข้าไปจัดการสิทธิต่างๆ ได้ โดยกดเข้าไปที่ปุ่มหน้า avatar ของเราตรงมุมบนขวาของแอปต่างๆ ทำให้เข้าใช้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้สามารถเข้าไปจัดการข้อมูลการค้นหา, แผนที่ หรือ Assistant เพื่อลบข้อมูลที่ไม่ต้องการให้เก็บได้

ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่งมาใหม่คือผู้ใช้สามารถกำหนดระยะเวลาเพื่อลบข้อมูลอัตโนมัติได้ ตอนนี้ทำได้กับข้อมูลการท่องเว็บและแอปแล้ว ส่วนข้อมูลสถานที่ที่เคยไปจะสามารถลบอัตโนมัติได้เร็วๆ นี้ โดยกำหนดได้ว่าจะให้ลบหลังจาก 3 เดือนหรือ 18 เดือน

นอกจากนี้ Incognito mode หรือโหมดไม่ระบุตัวตนที่หลายคนชอบใช้จาก Chrome ก็มีใน Youtube แล้ว และกำลังจะมีใน Google Maps และ Google Search เร็วๆ นี้ โดยกดเปิดได้ที่ปุ่ม Avatar ตรงมุมบนขวาเหมือนเดิม

นวัตกรรมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

เมื่อ AI นั้นสำคัญมากสำหรับการทำงานในโลกยุคนี้ แต่ AI ก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องถ้าไม่มีข้อมูลให้เรียนรู้มากพอ ซึ่งเรื่องนี้ไปเกี่ยวพันกับความเป็นส่วนตัวโดยตรง เพราะข้อมูลจำนวนมากที่ใช้เทรน AI ก็มาจากการใช้งานต่างๆ ของผู้ใช้นั้นเอง Google จึงใช้กระบวนการที่เรียกว่า Federated Learning เพื่อให้ AI ยังสามารถทำงานและให้ผลดีต่อไปได้ โดยที่ไม่กระทบกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากนักครับ

Federated Learning

Federated Learning นั้นเริ่มต้นด้วยข้อมูลพื้นฐานสำหรับปัญญาประดิษฐ์ชุดหนึ่งที่ถูกติดตั้งในอุปกรณ์หรือบริการแต่ละตัว ซึ่งเมื่อผู้ใช้ใช้งานไปเรื่อยๆ ระบบภายในเครื่องก็จะเรียนรู้การใช้งานและปรับปรุงการทำงานในเครื่องโดยไม่ส่งข้อมูลการเรียนรู้กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์กลาง แต่หลังจากเรียนรู้ไปจน AI ของบริการนั้นๆ ที่ผูกกับบุคคลนั้นๆ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน จึงส่งข้อมูลความเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์กลับไปให้เซิร์ฟเวอร์กลางเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุง AI ในส่วนกลางต่อไป (พูดง่ายๆ ว่าส่งข้อมูลที่ประมวลผลแล้วกลับไปส่วนกลาง แต่ไม่ส่งข้อมูลดิบทั้งหมดกลับไป) ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะไม่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ที่ละเอียดระดับชี้กิจกรรม หรือการใช้ชีวิตต่างๆ รั่วไหลออกไปจากตัวอุปกรณ์ของผู้ใช้ ยังทำให้ข้อมูลที่ส่งกลับไปมีขนาดเล็กลงด้วย

นโยบายใหม่ๆ ในเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Google

Google เพิ่งออกนโยบายใหม่หลายอย่างเพื่อทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มีมากขึ้น

  • ใน Google Chrome ส่วนขยายต่างๆ จะถูกบังคับให้เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงานของส่วนขยายนั้นๆ เท่านั้น ซึ่งผู้ผลิตที่ไม่ทำตามนโยบายนี้จะถูกถอดส่วนขยายออกจากหน้าดาวน์โหลด
  • ใน Google Drive ก็มีนโยบายใหม่ให้เข้าถึงไฟล์ได้ในวงจำกัด แค่ในโฟลเดอร์ที่แชร์ หรือเฉพาะไฟล์เป็นมาตรฐาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงไฟล์ทั้งไดรฟ์ของเรา

ซึ่งกูเกิ้ลพยายามทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครื่องมือความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น เพื่อสามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองได้ครับ