เรียกได้ว่าช่วงนี้หลาย ๆ คนน่าจะเล่น Pokemon Go ถึง LV5 ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนจะต้องเลือกว่าจะอยู่สีไหน ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ คนที่เลือกก็มักจะเลือกตามเพื่อน ๆ ของคุณเพื่อที่ว่าเวลาบุกโปเกม่อนยิมก็จะได้ไปพร้อม ๆ กัน เราจึงขอเสนอวิธีการตี GYM อย่างมีชั้นเชิงมาให้คุณได้ศึกษาเพื่อไม่ให้เสียเวลาตี GYM ไปแบบฟรี ๆ ที่นี่เลย (ขอบคุณ พลทหารสมองน้อย สำหรับข้อมูลเชิงลึกและภาพประกอบบางส่วนครับ)
หลักการของ GYM ใน Pokemon GO
- GYM LV แปรผันกับการ Training ซึ่งยิ่งฝึกมาก LV จะยิ่งสูง และจะสามารถเพิ่ม Pokemon ลงไปในยิมได้มากขึ้นตามลำดับ LV ละ 1 ตัว สูงสุด 10 ตัว
- ค่า Prestige มีผลต่อ LV ของ GYM เพิ่มได้โดยการ Training เท่านั้น
- การโจมตีจะสามารถใช้ Pokemon ได้ 6 ตัว
- การ Training จะสามารถใช้ Pokemon ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
- หาก GYM โดนตีจน LV เหลือ 0 สีที่ตีคนสุดท้ายก็จะสามารถยึดได้ (ในกรณีที่ตีพร้อม ๆ กันหลายสี)
- คนที่บุกถ้า Pokemon แพ้จะติดสถานะ KO ต้องใช้ Revive ชุบเท่านั้น ส่วนคนที่ Training เวลาแพ้ ตัวโปเกม่อนจะเลือดเหลือ 1 และไม่สามารถใช้ตัวเดิม Training ได้จนกว่าจะเติมเลือดด้วย Potion (ไม่ต้องเต็มก็ได้)
ค่า Prestige คืออะไร
ค่า Prestige หรือแปลได้ว่าเป็นค่าเกียรติภูมิ ค่านี้เปรียบเสมือนหัวใจหลักของการยึด GYM ก็ว่าได้ ซึ่ง GYM นั้น ๆ ถ้าค่า Prestige หมด ก็จะถูกเปลี่ยนมือทันที โดยเราสามารถเพิ่มลดค่า Presitge ได้ดังนี้
- เพิ่ม Pokemon ลงใน GYM ที่ว่าง (ได้แค่ 1 ตัวต่อ GYM) เพิ่ม 2,000 Prestige
- ผู้ Training สู้ชนะ Pokemon ใน GYM เพิ่ม 100 Prestige ต่อ 1 ตัว
- ผู้ Training สู้ชนะ Pokemon ใน GYM ที่มีค่า CP สูงกว่า เพิ่ม 500 Prestige
- สู้ชนะ Pokemon ทั้ง GYM จะได้ Bonus เพิ่มอีก 50 Prestige
- โปเกม่อนในยิมแพ้ผู้โจมตี 1 ตัว เสีย 500 Prestige
- โปเกม่อนในยิมแพ้ทั้งหมด จะเสียเพิ่ม 1,500 Prestige
ธาตุของโปเกม่อนสำคัญอย่างไร ?
เรื่องธาตุถือว่าเป็น 1 ในจุดเด่นของเกม Pokemon มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ซึ่ง Pokemon แต่ละตัวก็จะมีการแพ้ธาตุ – ชนะธาตุแตกต่างกันไป ทำให้โปเกม่อนที่ CP น้อย (แต่น้อยไม่มาก) ก็สามารถชนะโปเกม่อนที่มี CP เยอะกว่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
โดยโปเกม่อนแต่ละตัวก็จะให้ท่าโจมตีมาแบบ Random รวมไปถึงถ้าคุณ Evolve ท่าก็จะถูกเปลี่ยนไปอีก ทำให้บางครั้งโปเกม่อนที่ CP น้อย ๆ แต่ได้ท่าเจ๋ง ๆ มา คุณอาจลงทุนปั่น CP ให้ขึ้นมาเป็นตัวเก่งของคุณแทนก็ย่อมได้ (แต่ถ้าน้อยจริง ๆ แนะนำให้จับใหม่ดีกว่า)
ซึ่งโปเกม่อนแต่ละตัวจะแพ้ – ชนะทางดังนี้
- โจมตีด้วยท่าที่ชนะธาตุคู่ต่อสู้จะแรง 125%
- โจมตีด้วยท่าที่แพ้ธาตุคู่ต่อสู้จะเบาลงเหลือ 80%
- ไม่มีการแพ้ 2 ธาตุแล้วความแรงทวีคูณแบบภาคปกติ
- ไม่มีระบบโจมตีแล้วไม่เสียพลัง (ตีไม่โดน) เหมือนภาคปกติ
- **หาก Pokemon มี 2 ธาตุ ให้ดูทั้ง 2 ธาตุว่าหักล้างกันหรือไม่ ถ้าหักล้างกัน dmg ที่ได้รับจะเท่ากับปกติ ส่วนแพ้ทางทั้งคู่จะโดนโจมตีแรงเพิ่มเป็น 150% และป้องกันทั้งคู่จะโดนโจมตีแรงลดลงเหลือ 64% (ยังไม่ได้ทดสอบอย่างเป็นทางการ)
- มีระบบ Dodge ซึ่งถ้าคุณหลบได้จะลด dmg ที่ได้รับลงมหาศาล (จากที่ทดสอบด้วยตัวเองหลาย ๆ รอบยังคงลดเลือดอยู่แต่น้อยมาก ไม่สามารถลด dmg ที่ได้รับให้เหลือ 0 ได้)
อย่างที่เห็นว่า Pokemon ตัวเดียวกันแต่ท่าไม่เหมือนกันเลย (มี Hyper Beam ด้วย !!)
แต่ Pokemon GO จะไม่ได้แพ้ธาตุ – ชนะธาตุกันมากเหมือนภาคปกติ จึงสบายใจได้ในระดับหนึ่งว่าคุณจะไม่เจอโปเกม่อน 1 ตัวตบทั้งยิมแน่นอน (ยกเว้นพวกเอาตัวโกง ๆ มาบุกยิม) สามารถอ่านได้ที่นี่ว่าตัวไหนแพ้ธาตุอะไรตามตารางด้านล่างเลย
วิธีการดูตาราง
วิธีดูตารางธาตุโปเกม่อนเป็นอีก 1 ในสิ่งที่หลาย ๆ คนขยาดมาก เพราะมันเยอะจนบางทีดูแทบไม่รู้เรื่อง เราจึงขออธิบายคร่าว ๆ คือ ทางซ้ายมือคือธาตุผู้โจมตี และด้านบนคือธาตุผู้ป้องกันนั่นเอง
ตัวอย่างสำหรับท่าโจมตี
- โปเกม่อนที่ใช้ท่าโจมตี Normal จะโจมตี Rock, Ghost และ Steel เบาลง
- โปเกม่อนที่ใช้ท่าโจมตี Dragon จะโจมตีชนะทาง Dragon และจะโจมตี Steel, FAIRY เบาลง
ตัวอย่างสำหรับผู้ป้องกัน
- โปเกม่อนธาตุ Normal จะแพ้ทางการโจมตีแบบ Fighting และจะโดนการโจมตีแบบ Ghost เบาลง
- โปเกม่อนธาตุ Grass จะแพ้ทางการโจมตีแบบ Flying, Poison, Bug, Fire และ Ice แต่ทนการโจมตี Ground,Water, Grass และ Electric (ชนะทางเยอะก็แพ้ทางเยอะเช่นกัน)
งานนี้ใครอ่านตารางทะลุปรุโปร่ง บอกเลยว่าได้เปรียบเพื่อน ๆ แน่นอน !!
วิธีการต่อสู้ฉบับย่อ
- จิ้มที่โปเกม่อนเรารัว ๆ เพื่อโจมตีท่าแรก (ท่าเบา)
- จิ้มที่โปเกม่อนเราค้างเพื่อชาร์จท่าใหญ่ ซึ่งมี 2 แบบคือ
- แบบแถบเกจที่สามารถชาร์จค้างเพื่อเพิ่มได้
- แบบเป็นหน่วย (เม็ดฟ้า ๆ ) ที่จะต้องโจมตีเพื่อสะสมเกจ แล้วชาร์จเพื่อโจมตีท่าใหญ่
- จิ้มที่โปเกม่อนเราแล้วลากไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อหลบ ถ้าหลบสำเร็จจะขึ้น Dodge ซึ่งจะลดพลังโจมตีที่ได้รับลงมหาศาล โดยให้กดหลบระหว่าง animation การโจมตีของศัตรู ถ้าหลบก่อนหรือหลังโดนโจมตีไปแล้วจะไม่มีผล และที่สำคัญท่าใหญ่บางท่าไม่สามารถหลบได้ด้วย !!
วิธีการต่อสู้ GYM มี 2 รูปแบบคือ
-
ตีเพื่อยึด GYM ให้กับสีที่เราอยู่
พูดง่าย ๆ ก็เหมือนกับการยึดฐาน ซึ่งวิธีการยึดคือ การนำเอา Pokemon ของเราไปตี โดยเราจะเลือกได้สูงสุด 6 ตัวด้วยกัน ซึ่งเราแนะนำให้ใช้โปเกม่อนที่ชนะธาตุและมี CP สูงที่สุดไปตีเพื่อลดค่า Prestige โดยเราสามารถนัดเพื่อน ๆ ไปโจมตียิมพร้อม ๆ กันได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการยึดและ Training ให้ LV สูง ๆ เพราะการโจมตีจะต้องใช้ Item อย่าง Potion, Revive จำนวนมาก
วิธีการโจมตีที่มีประสิทธิภาพ
- เตรียมน้ำยา Potion, Revive ไว้เยอะ ๆ ด้วยวิธีการที่เราเคยพูดถึงไว้ที่นี่
- นัดกับเพื่อนที่อยู่สีเดียวกันไว้ก่อน (อย่าบอกให้อีกสีรู้นะ เดี๋ยวเขามา Training กันไว้ได้)
- ตรวจสอบธาตุของ Pokemon ในยิมนั้น ๆ ก่อนเข้าโจมตี
- ควรรุมโจมตีอย่างรวดเร็ว เพราะเวลาที่โจมตีนั้นคนจะเห็น Effect GYM ถูกโจมตี ทำให้กลับมาป้องกันได้ทันท่วงที รวมไปถึงการถูกโจมตียื้อเวลาให้ไม่สามารถเพิ่ม LV GYM อีกด้วย
- เราสามารถรุมโจมตีตัวเดียวกันได้ถ้ากดเข้าพร้อม ๆ กัน ทำให้สามารถถล่มยิมได้ง่ายกว่าการตีคนเดียวหลายเท่า !! (เก่งแค่ไหนก็แพ้รุมแน่นอน)
-
ปกป้อง GYM ด้วยการ Training
วิธีนี้ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกัน GYM ของคุณต่อผู้รุกรานได้เป็นอย่างดี เพราะถ้า GYM ของคุณมี LV สูง ๆ ก็จะทำให้ผู้โจมตีต้องคิดหนักเลยทีเดียวว่าจะโจมตีเข้ามาดีหรือไม่
วิธีป้องกัน (Training) ที่มีประสิทธิภาพ
- เตรียม Potion เอาไว้จำนวนมาก ๆ เพราะต้องใช้เยอะแน่นอน
- ให้วาง Pokemon CP ไม่มากไว้เป็นตัวแรกเพื่อเพื่อเอาไว้ Training (หรือไม่ต้องทำก็ได้)
- เข้าไป Training แล้วชนะตัวแรก เสร็จแล้วให้ Training โดยการเอา Pokemon ที่ชนะธาตุตัวแรกและ CP น้อยกว่ามาโจมตีไปเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มทีละ 500 หรือถ้าเก่งพอก็ถล่มทั้งยิมเพื่อ Bonus อีก 50 ก็สามารถทำได้
- เตรียมโปเกม่อนไว้ 1 ตัวที่ธาตุต่างจากตัวเก่าเพื่อเพิ่มการป้องกันที่ดีกว่าเดิม
- ถ้าเกิดเห็นท่าไม่ดีตอนยิมกำลังโดนถล่ม แนะนำให้เตรียมตัวโจมตีสวนกลับแทน Training จะมีประสิทธิภาพกว่าอย่างแน่นอน (เพราะมันคือ 6 vs 1 ยังไงย่อมง่ายกว่า 1 VS 1 กับโปเกม่อนตัวที่เก่งที่สุดในยิมอยู่แล้ว)
สุดท้ายนี้เกม Pokemon GO ก็ถือได้ว่าเป็นอีกเกมที่ช่วยให้คุณได้พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าคุณสามารถหาเพื่อน ๆ ผ่านแอปนี้ได้ง่ายยิ่งกว่าแอป Social Media อื่น ๆ เสียอีก ไม่เชื่อคุณลองเดินเข้าไปถามดูสิครับว่า
“คุณก็เล่น Pokemon GO ด้วยใช่ไหมครับ ?”