สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำของสหรัฐอเมริกา ได้ใช้สิทธิวีโต้ (Veto) หรืออำนาจในการยับยั้งกฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อยกเลิกการยกเว้นภาษีสำหรับแผงโซลาร์ที่นำเข้าจาก 4 ประเทศในอาเซียน คือ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย
โดยการใช้สิทธิวีโต้ของ ปธน.ไบเดน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้โรงงานแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ มีเวลาปรับตัว และเร่งผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เพื่อต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังทั้งประเทศ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 2023 คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียง 26 ต่อ 30 เห็นชอบต่อมติเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จาก 4 ประเทศในอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นการคว่ำอำนาจพิเศษของ ปธน.ไบเดน ที่ก่อนหน้านี้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว คือ การยกเว้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จาก 4 ประเทศในอาเซียนเป็นเวลา 24 เดือน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2022 ถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024
ปัจจุบัน สหรัฐฯ นำเข้าชิ้นส่วนโซลาร์จาก 4 ประเทศอาเซียน คือ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย มากถึงร้อยละ 80 เนื่องจากมีราคาถูกและช่วยลดต้นทุนการเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดได้ ดังนั้น การออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในหนแรก และการใช้สิทธิวีโต้ในครั้งนี้ ทำให้ ปธน.ไบเดน ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวอเมริกันจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ปธน.ไบเดน ยืนยันว่าการยกเว้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์ในครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอีกเพียง 2 เท่านั้น และจะไม่มากเกินไปกว่านี้แล้ว เพื่อให้โรงงานแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ได้ปรับตัว และหันมาผลิตสินค้าที่แข่งขันกับตลาดภายนอกประเทศได้
ความพยายามของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จาก 4 ประเทศในอาเซียนนั้น มีที่มาจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 ซึ่งระบุว่า โรงงานแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาการแข่งขันด้านราคากับแผงโซลาร์ที่ผลิตจากประเทศจีน ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก และการยกเว้นภาษีสำหรับแผงโซลาร์ที่นำเข้าจาก 4 ประเทศในอาเซียน ทำให้โรงงานแผงโซลาร์ของจีนย้ายไปตั้งฐานการผลิตอาเซียน เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการเก็บภาษีนำเข้า
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส