แมรี่ เบธ บราวน์ (Mary Beth Brown) มีโอกาสร่วมงานกับอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ตั้งแต่ช่วงปี 2002 ที่บริษัท SpaceX และ Tesla โดยหน้าที่ของเธอคือจัดตารางการทำงานและประชุมของมัสก์ ติดต่อกับสื่อ และบางทีก็ช่วยมัสก์ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วย
ตลอดช่วงเวลาที่ทำงานกับมัสก์ เธอต้องขับรถไปกลับทุกวันระหว่างลอสแอนเจลิสและซิลิคอนวัลเลย์ บางคืนก็ทำงานจนดึก บางครั้งเสาร์อาทิตย์ก็ต้องทำไม่เว้นด้วยเช่นเดียวกัน
ในช่วงต้นของปี 2014 แมรี่ก็ตัดสินใจว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอจะขอขึ้นเงินเดือน จากหน้าที่งานและความทุ่มเทของเธอตลอด 12 ปีที่ผ่านมา แต่ผลลัพธ์ที่ออกกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคาดหวัง นอกจากจะไม่ได้เงินเดือนเพิ่มแล้ว มัสก์ยังตัดสินใจปลดเธอออกจากตำแหน่งและยุติหน้าที่งานของเธอลงไปด้วย
แอชลีย์ แวนซ์ (Ashlee Vance) เล่าเรื่องนี้ในหนังสือ ‘Elon Musk: Tesla, SpaceX, and the Quest for a Fantastic Future’ เขาเขียนอธิบายบราวน์เอาไว้ว่า “บราวน์ หรืออีกชื่อที่ทุกคนเรียกเธอคือ เอ็มบี (MB) ได้กลายมาเป็นเลขาผู้ภักดีของมัสก์ เป็นความสัมพันธ์ที่คล้ายกับเวอร์ชันชีวิตจริงระหว่างโทนี สตาร์ก และเป็ปเปอร์ พอต วันไหนถ้ามัสก์ต้องทำงาน 20 ชั่วโมง บราวน์ก็ทำเหมือนกัน ตลอดหลายปีเธอเป็นคนหาอาหารมาให้มัสก์ จัดวันเวลาการประชุม จัดเวลาสำหรับลูก ๆ ของเขา เลือกเสื้อผ้าให้ใส่ จัดการกับสื่อต่าง ๆ และถ้าจำเป็นก็จะไปดึงตัวมัสก์ออกมาจากการประชุมเพื่อให้ตารางงานของเขาไม่ให้ล้มระเนระนาด กลายเป็นว่าเธอเหมือนเป็นสะพานระหว่างมัสก์และเรื่องต่าง ๆ เป็นพนักงานที่มีคุณค่าของบริษัทเลยทีเดียว”
แวนซ์อธิบายต่อด้วยว่าช่วงเวลาที่บราวน์อยู่กับ SpaceX นั้นถือว่าสำคัญมาก เธอเป็นคนที่ลงรายละเอียดทุกอย่างและช่วยจัดสมดุลให้กับออฟฟิศ รวมถึงเรื่องวัฒนธรรมองค์กรด้วย
อยู่มาวันหนึ่งบราวน์ก็เข้าไปคุยกับมัสก์เรื่องขอขึ้นเงินเดือน ที่จริงแล้วถ้าให้ลงในรายละเอียดให้ชัดเจน เธอขอเงินเดือนในระดับที่เทียบเท่ากับผู้บริหารระดับสูงของ SpaceX เลยทีเดียว
สิ่งที่มัสก์ตอบกลับก็คือว่า เขาให้บราวน์นั้นลองหยุดงานสักสองสามอาทิตย์เพื่อสำรวจว่าความรับผิดชอบของเธอนั้นยากขนาดไหน และตัวมัสก์เองก็อยากรู้ด้วยว่าสำหรับเขาแล้วบราวน์นั้นสำคัญมากแค่ไหนด้วย
บราวน์ตกลงหยุดงาน 2 อาทิตย์ และมัสก์ก็ทำงานทุกอย่างของบราวน์แทน
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ บราวน์กลับมาที่ออฟฟิศ แต่ครั้งนี้มัสก์กลับบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีเธออีกต่อไป ซึ่งสำหรับบราวน์แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะการขอเงินเดือนเพิ่มถึงขึ้นต้องไล่เธอออกเลยเหรอ?
(อ่านมุมมองของ Elon ต่อหน้า 2)
ในหนังสือแวนซ์เขียนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ว่ามันกระทบกับพนักงานทั้งของ SpaceX และ Tesla ซึ่งก็มันก็ยืนยันเรื่องเล่าเกี่ยวกับความดื้อรั้นอันโหดร้ายและไม่เห็นอกเห็นใจคนอื่นของมัสก์ด้วย มัสก์อ้างว่าเขาเสนองานอื่นให้กับบราวน์ด้วยค่าจ้างเท่าเดิม แต่เธอปฏิเสธและตัดสินใจออกจากบริษัทไป
คำถามคือว่า แล้วทำไมมัสก์ถึงต้องไล่เลขาที่ทำงานด้วยกันมาสิบกว่าปี ทำทุกอย่างดีมาตลอด ทุ่มเทมาโดยตลอดออกด้วยล่ะ? มันเกี่ยวกับแค่เรื่องเงินจริง ๆ หรือ? หรือบางทีบราวน์ตัดสินมัสก์ผิดไปแม้จะทำงานให้เขามายาวนานมากแล้วก็ตาม?
ในมุมของบราวน์ เธอมั่นใจมากว่าสิ่งที่เธอมอบให้บริษัทนั้นมีคุณค่ามหาศาล เพราะฉะนั้นเธอจึงอยากให้มัสก์เห็นเธอเป็นส่วนหนึ่งของคนที่มีความสำคัญของบริษัทเช่นกัน
ซึ่งตรงนี้เองที่เธอตัดสินใจพลาดไป เพราะสำหรับมัสก์แล้วเขามองจากมุมสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น และไม่ได้มองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วหรืออดีตที่บราวน์เคยทำมาก่อน เพราะฉะนั้นช่วงเวลา 2 อาทิตย์ที่มัสก์ได้ลองทำงานของบราวน์แทนแล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร จึงกลายเป็นว่าสำหรับมัสก์แล้วการเสียบราวน์ไปก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือสำหรับมัสก์แล้วบราวน์ถูกแทนที่ได้นั่นเอง
ในบทความจากเว็บไซต์ theladders.com ก็กล่าวในประเด็นที่คล้ายกันว่า “ถ้าคุณเห็นด้วยกับการตัดสินใจของมัสก์ที่ไล่เลขาของเขาออกจากงาน มันสอนเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยคือการทำให้ตัวเองนั้นไม่สามารถมีใครทดแทนได้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะไปขอขึ้นเงินเดือน แต่ถ้าคุณเห็นด้วยกับบราวน์ มันก็เป็นบทเรียนอีกเช่นกันว่าอย่าทำงานที่ไหนที่เขาไม่เห็นคุณค่าหรือจ่ายไม่คุ้มค่าเป็นเวลานานเกินไป”
แต่ถึงยังไงก็ตามภายหลังมัสก์ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้วบอกว่ามันไม่จริงเลย เขาทวีตว่า “แมรี่ เบธ เป็นเลขาที่ยอดเยี่ยมมาเกินสิบปี แต่ว่าบริษัทเราเติบโตมากและตำแหน่งนั้นต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคนมากกว่าแค่คนที่ทำทุกอย่างได้คนเดียว”
สำหรับเราที่อยู่ด้านนอก เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเหตุผลจริง ๆ แล้วที่บราวน์ถูกปลดออกจากตำแหน่งนั้นแท้จริงเป็นยังไงกันแน่ แต่บทเรียนหนึ่งที่มีคุณค่ากับเรื่องนี้คือหน้าที่และตำแหน่งงานนั้นเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ ไม่ว่าจะทำงานหนักขนาดไหน หรือใกล้ชิดกับฝ่ายบริหาร หรือทำงานมายาวนานกี่ปี ตราบใดที่งานของคุณหรือหน้าที่ของคุณนั้นสามารถถูกทดแทนโดยคนอื่นได้ มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ มันเป็นความจริงและนั้นคือโลกของการทำงานที่ต้องเตรียมตัวรับมือ
และแน่นอนว่าก่อนที่จะขอขึ้นเงินเดือน อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อนว่ามีเหตุผลอะไรที่คุณควรได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นจากความรับผิดชอบที่คุณมีอยู่ ถ้ามันมีเหตุผลแล้วบริษัทไม่ให้หรือต้องตกงานเหมือนบราวน์ มันก็อาจจะดีกว่าถ้าคุณได้งานใหม่ที่เหมาะสมและรายได้ที่ควรได้ด้วย
อ้างอิง 1 อ้างอิง 2
อ้างอิง 3 อ้างอิง 4
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส