19 มกราคม 2022 เจเนซิส (Genesis) ผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโทได้ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายในสหรัฐฯ ตามกฎหมายฟื้นฟูกิจการ (Chapter 11 bankruptcy protection) ต่อศาลล้มละลายสหรัฐฯ ในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ซึ่งเป็นหนี้อย่างน้อย 3,400 ล้านเหรียญ (110,976 ล้านบาท) หลังจากการล่มสลายของ FTX และการล้มละลายของผู้ให้กู้ยืมคริปโท BlockFi
เอกสารที่ยื่นขอล้มละลายเผยว่าเจเนซิสมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย มีสินทรัพย์มูลค่า 5,300 ล้านเหรียญ (172,992 ล้านบาท) และมีหนี้สิน ประกอบด้วยหนี้สินระหว่างบริษัท ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน มูลค่า 5,100 ล้านเหรียญ (166,464 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังได้แสดงแผนออกจากการล้มละลายภายใน 19 พฤษภาคม โดยจะประมูลขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาคืนแก่เจ้าหนี้
เจเนซิสที่นำโดย Genesis Global Holdco (GGH) พร้อมบริษัทลูก ได้แก่ Genesis Global Capital ( GGC) และ Genesis Asia Pacific ( GAP ) ได้ยื่นขอล้มละลาย พร้อมเผยว่าบริษัทย่อยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอนุพันธ์และ Spot และธุรกิจรับฝากสินทรัพย์ของลูกค้า และบริษัท Genesis Global Trading ไม่รวมอยู่ในการยื่นขอล้มละลาย และจะยังคงดำเนินการซื้อขายให้แก่ลูกค้าต่อไป
เจเนซิสได้แสดงแนวทางในการชำระหนี้ด้วยการขาย การเพิ่มทุนหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับหุ้นเพื่อนำเงินมาจ่ายให้เจ้าหนี้ และระบุว่ามีเงินสด 150 ล้านเหรียญ (4,896 ล้านบาท) ไว้สำหรับการปรับโครงสร้าง
เจเนซิสมีเจ้าหนี้รายใหญ่อยู่ 50 ราย รวมมูลค่า 3,400 ล้านเหรียญ (110,976 ล้านบาท) ซึ่งเจ้าหนี้รายใหญ่สุดก็คือแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท Gemini ที่ก่อตั้งโดย 2 พี่น้องฝาแฝด คาเมรอน วิงเคลวอสส์ และ ไทเลอร์ วิงเคลวอสส์ ในมูลค่า 765.9 ล้านเหรียญ (24,998 ล้านบาท)
เดือนพฤศจิกายน การล่มสลายของ FTX ได้ส่งผลให้ Genesis Global Trading ธนาคารเพื่อการลงทุนคริปโทระงับการไถ่ถอนชั่วคราวและให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้า รวมถึง Gemini ได้ระงับการถอนเงินในผลิตภัณฑ์ Earn ที่มีการให้ดอกเบี้ย เนื่องมาจาก Gemini ทำงานร่วมกับเจเจซิสเพื่อช่วยให้ลูกค้าที่ฝากคริปโทไว้ใน Earn ได้รับดอกเบี้ย สรุปง่ายๆ ว่าสินทรัพย์ของ Gemini ถูกล็อกค้างอยู่ที่เจเนซิสนั่นเอง
10 มกราคมที่ผ่านมา คาเมรอน วิงเคลวอสส์ ผู้ก่อตั้ง Gemini เผยว่าเจเนซิสเป็นหนี้อยู่มากกว่า 900 ล้านเหรียญ (29,376 ล้านบาท) และเล่นใหญ่ได้เรียกร้องให้ถอด แบร์รี ซิลเบิร์ต (Barry Silbert) ออกจากตำแหน่งซีอีโอของ Digital Currency Group (DCG) กลุ่มบริษัทคริปโทบริษัทแม่ของเจเนซิส (ในกลุ่มบริษัทนี้ประกอบด้วย CoinDesk, Foundry, Genesis, Grayscale Investments และ Luno)
เดือนธันวาคม Bitvavo แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทชั้นนำในยุโรปที่ตั้งอยู่ในอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เผยว่ากำลังพยายามทวงคืนเงินที่เจเนซิสยืมไป 280 ล้านยูโร (9,941 ล้านบาท) และเมื่อวันศุกร์ได้มีการโพสต์ในบล็อกว่ายังไม่ได้ข้อตกลงในการชำระหนี้และจะเดินเจรจาต่อไป
เจเนซิสได้รับผลกระทบจากการตกต่ำของตลาดคริปโทที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วทั้ง 2 รอบ รอบแรกการล่มสลายของ Terra ส่งผลให้กองทุนคริปโท Three Arrows Capital ยื่นขอล้มละลาย และรอบที่ 2 การล่มสลายของ FTX ที่ส่งผลให้ Alameda Research บริษัทซื้อขายคริปโทที่เกี่ยวพันกับ FTX ได้ประกาศล้มละลายไปด้วยกัน ซึ่งทั้ง Three Arrows Capital และ Alameda ก็คือผู้กู้รายใหญ่ของเจเนซิส
ก่อนหน้านี้เจเนซิสได้ปล่อยกู้ให้กับ DCG มูลค่า 850 ล้านเหรียญ (9,139 ล้านบาท) และได้โอนสิทธิ์ในหนี้สินจาก Three Arrows Capital ที่ล้มละลายให้แก่ DCG เพื่อแลกกับตั๋วสัญญาใช้เงิน 1,100 ล้านเหรียญ (35,904 ล้านบาท) ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2032 แต่สุดท้ายเงินส่วนนี้มาไม่ทันที่จะช่วยยืดเวลาให้กับเจเนซิสได้ จึงต้องไปสู่การยื่นขอล้มละลายในที่สุด
ที่มา : reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส