Amazon.com ได้ลงนามข้อตกลงกับ 3 บริษัทขนส่งอวกาศ คือ Arianespace, ULA และ Blue Origin เพื่อใช้บริการจรวดมากถึง 83 เที่ยวบินในการขนส่งดาวเทียมบรอดแบนด์ในโครงการ Kuiper จำนวน 3,236 ดวง ไปสู่วงโคจรบนอวกาศ
บริการขนส่งดาวเทียมโดย ULA จะใช้จรวด Atlas และ Vulcan Centaur จำนวน 48 เที่ยวบิน, Arianespace จะใช้จรวด Ariane 6 จำนวน 18 เที่ยวบิน และ Blue Origin จะใช้จรวด New Glenn จำนวน 12 เที่ยวบิน พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติมสูงสุด 15 เที่ยวบิน
Amazon คาดว่าจะมีการปล่อยดาวเทียม 2 ดวงแรกด้วยจรวด RS1 ของ ABL Space ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นก็จะปล่อยดาวเทียมออกไปเป็นชุด แต่ยังไม่มีกรอบเวลาการทำงานให้ทราบ อย่างไรก็ตาม FCC หรือ กสทช. ของสหรัฐฯ ได้มีข้อกำหนดให้ Kuiper จะต้องปล่อยและเปิดใช้งานดาวเทียมได้จำนวนครึ่งหนึ่งภายใน 30 ก.ค. 2026 และกลุ่มดาวทั้งหมดไม่เกิน 30 ก.ค. 2029
30 ก.ค. 2020 FCC ได้เผยแพร่เอกสารอนุญาตให้ Amazon ใช้งานกลุ่มดาวเทียม Kuiper 3,236 ดวง ใน 98 วงโคจร ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังครัวเรือนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลทั่วสหรัฐอเมริกาจนขยายไปสู่ทั่วโลก
บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม Kuiper เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX ซึ่งขณะนี้ได้ปล่อยดาวเทียมไปแล้วกว่า 2,300 ดวง มีผู้สมัครสมาชิกแล้ว 250,000 รายและจะใช้ดาวเทียม 30,000 ดวงครอบคลุมทั่วโลก แม้ Amazon จะมาทีหลังแต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะความเก่งกาจในเรื่องการผลิตอุปกรณ์และบริการต้นทุนต่ำ เช่น Echo และ Kindle ดังนั้นหากจานรับสัญญาณและค่าบริการที่ถูกกว่าก็อาจเข้ามาเบียด Starlink ได้ไม่ยาก
ที่มา : engadget, theverge และ cnbc
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส