การฟังเพลงไม่ได้มีอิทธิพลต่อชีวิตเพียงแค่ให้ความบันเทิงเริงใจเท่านั้น แต่หลายครั้ง เพลงและดนตรีก็มีผลทำให้เราเกิดความรู้สึกนึกคิดและคล้อยตามไปกับอารมณ์และความรู้สึกในเพลง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรามักจะฟังเพลงเศร้าตอนอกหัก หรือฟังเพลงเร็ว ๆ ตอนวิ่ง ล่าสุด ผลงานการวิจัยของประเทศเยอรมนีได้เปิดเผยว่า การฟังเพลงของวงร็อกระดับตำนาน มีส่วนช่วยทำให้การผ่าตัดมีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ผลงานการวิจัยนี้เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของวารสาร ‘Langenbeck’s Archives of Surgery’ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เป็นผลงานการวิจัยของ ‘ขุย หยาง’ (Cui Yang) หัวหน้านักวิจัย และทีมนักวิจัยจากภาควิชาศัลยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก (University of Heidelberg) ประเทศเยอรมนี ได้ทำการทดลองเพื่อหาผลกระทบเมื่อให้ทีมแพทย์ศัลยกรรม หรือแพทย์ผ่าตัดทดลองฟังเพลงที่เหมาะสมระหว่างปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและใช้เวลาในการผ่าตัดให้น้อยลง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ยิ่งใช้เวลาผ่าตัดมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อคนไข้มากขึ้นเท่านั้น
ทีมผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก จึงได้ทำการทดสอบให้แพทย์ศัลยกรรมฝึกหัด ฟังเพลงในขณะที่ทำการฝึกอบรมการผ่าตัดด้วยวิธีการศัลยกรรมผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery) ซึ่งเป็นวิธีที่ศัลยแพทย์จะต้องเจาะรูขนาดเล็ก ๆ ประมาณ 5-10 มิลลิลิตร ผ่านช่องท้อง หรือผิวหนังใกล้บริเวณอวัยวะที่ต้องการผ่าตัด และสอดท่อที่มีกล้องและไฟฉายเข้าไปยังอวัยวะที่ทำการรักษา และทีมแพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านทางจอภาพ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้องเหมือนในอดีต
ในระหว่างที่ทีมแพทย์กำลังฝึกปฏิบัติการผ่าตัดบริเวณลำไส้ ทีมวิจัยจะทำการเปิดเพลงคลอไปด้วย โดยแบ่งเป็น 3 เงื่อนไข เงื่อนไขแรกคือ ผ่าตัดแบบปกติโดยไม่มีการเปิดเพลง เงื่อนไขที่ 2 คือ เปิดเพลงในระดับปานกลาง (45–50 เดซิเบล) และเงื่อนไขที่ 3 คือ เปิดเพลงในระดับที่ค่อนข้างดัง (65–70 เดซิเบล) ทั้งสามเงื่อนไขใช้เพลงในการทดสอบเหมือนกัน นั่นก็คือการใช้เพลงร็อก เช่นเพลงแนวซอฟต์ร็อกของวงดนตรีร็อกชื่อดัง ‘เดอะ บีตเทิลส์’ (The Beatles) และเพลงฮาร์ดร็อกจากวงดนตรีแนวฮาร์ดร็อกและเฮฟวีเมทัล ‘เอซีดีซี’ (AC/DC) ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้จากการบันทึกความรวดเร็ว และความแม่นยำในการผ่าตัดมาวิเคราะห์ต่อไป
ผลการทดสอบพบว่า ทีมแพทย์ศัลยกรรมที่ฟังเพลงฮาร์ตร็อกสุดฮิตอย่างเช่น “TNT” และ “Highway To Hell” ของวง AC/DC พบว่า ทีมแพทย์ฝีกหัดที่ฟังเพลงเหล่านี้ สามารถใช้เวลาในการผ่าตัดลดลงจาก 236 วินาที เหลือเพียงแค่ 139 วินาที หรือลดลงมากถึง 41% เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบไม่เปิดเพลง และเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการเพิ่มขึ้นอีก 5%
รวมทั้งแพทย์ศัลยกรรม จะสามารถเย็บแผลผ่าตัดได้เร็วขึ้นอีกเกือบ 50% หากฟังเพลงซอฟต์ร็อกอมตะของ ‘The Beatles เช่นเพลง “Hey Jude” และ “Let It Be” ไปด้วยในระหว่างปฏิบัติงาน แต่ก็มีเงื่อนไขที่น่าสนใจเช่นกันว่า เพลงฮาร์ดร็อกของ วง AC/DC จะให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อยิ่งเปิดระดับเสียงที่ดัง แต่เพลงซอฟต์ร็อกจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปิดเสียงระดับกลาง ในงานวิจัยรายงานว่า ประสิทธิภาพจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดหากเปิดเพลงซอฟต์ร็อกดังเกินไป หรือเปิดเพลงฮาร์ดร็อกเบาเกินไป
‘ขุย หยาง’ หัวหน้าทีมวิจัย ได้ให้เหตุผลว่า “ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ทั้งดนตรีซอฟต์ร็อกและฮาร์ดร็อก สามารถเพิ่มความรวดเร็ว และประสิทธิภาพในการผ่าตัดได้ โดยเฉพาะในเพลงแนวฮาร์ดร็อก ยิ่งเพลงที่มีจังหวะรวดเร็ว ประสิทธิภาพในการผ่าตัดก็จะยิ่งดีขึ้น และยิ่งชัดเจนขึ้นเป็นพิเศษเมื่อเปิดเสียงดัง”
โดยทีมวิจัยได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ว่า เพลงร็อกยอดนิยมเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขณะปฏิบัติงาน ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความวิตกกังวล และช่วยลดความดันโลหิตของแพทย์ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้สามารถร่นระยะเวลาการผ่าตัดให้สั้นลง ลดความผิดพลาดในการใช้อุปกรณ์ และลดความผิดพลาดในระหว่างการผ่าตัดที่เสี่ยงอันตรายได้
อ้างอิง | อ้างอิง | อ้างอิง | อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส