สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงรายใหญ่ของโลก ได้ยกเลิกโปรเจกต์ภาคต่อของ ‘Bright’ ที่ วิล สมิธ (Will Smith) แสดงนำเมื่อปี 2017 ภายหลังจากที่สมิธได้ก่อเหตุรุนแรงด้วยการตบหน้า คริส ร็อก (Chris Rock) บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ครั้ง 94 ประจำปี 2022 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

Bright’ เป็นภาพยนตร์แอกชันแฟนตาซีเรื่องแรก ๆ ที่ Netflix ทุ่มเงินสร้างมหาศาลถึง 90 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,100 ล้านบาท และนำมาฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงของตนเองโดยตรง โดยฝีมือกำกับของ เดวิด เอเยอร์ (David Ayer) ที่มีผลงานที่น่าจดจำอย่าง ‘End of Watch’ (2012) และ ‘Suicide Squad’ (2016)

Bright
‘Bright’ (2017) : ภาพจาก Netflix

นอกจากนี้ National Geographic ได้ยังได้เลื่อนการสร้างซีรีส์สารคดีของสมิธเรื่อง ‘Pole to Pole’ ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเลื่อนไปอย่างน้อยถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2022

‘Pole to Pole’ เป็นซีรีส์สารคดีีที่ติดตามนักแสดงวัย 53 ปีผู้นี้ เดินทางไปยังขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้

นอกจากนี้ โปรเจกต์อีกหลายตัวของสมิธก็ได้ถูกระงับไปด้วยเช่นกัน รวมถึง Bad Boys 4 ของ Sony Pictures ที่เริ่มการเตรียมงานสร้างไปแล้ว และโปรเจกต์ของ Netflix อีกเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘Fast and Loose’

การที่หลายสตูดิโอได้ออกมาระงับโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ทำร่วมกับสมิธนั้น เป็นเพราะว่าไม่ต้องการใช้ชื่อเสียงในแง่ลบของสมิธในขณะส่งผลกระทบภาพลักษณ์ของบริษัทในแง่ลบตามไปด้วย

นับตั้งแต่ได้ก่อเหตุรุนแรงเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สมิธก็ได้ลาออกจากสถาบัน Academy of Motion Picture Arts and Sciences พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ และจะยอมรับผลที่จะตามมาทุกประการ

ในตอนนี้สมิธได้ถูกแบนจากอีเวนต์และรายการทุกอย่างของ Academy of Motion Picture Arts and Sciences เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2022 เป็นต้นไป

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส