ทั้ง นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) และ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ต่างกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในตอนนี้ สำหรับเคจเขากำลังจะมีหนังเรื่องใหม่ที่เปรียบเป็นการกลับมาสู่จอเงินอีกครั้งอย่าง ‘The Unbearable Weight of Massive Talent’ ในขณะที่เดปป์ต่างออกไป ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาตอนนี้อยู่ในห้องพิจารณาคดีร่วมกับอดีตภรรยาอย่าง แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า ทั้งคู่ต่างมีความเชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน เพราะย้อนกลับไปหลายปีก่อนเคจถือเป็นคนที่ชักชวนให้เดปป์เข้าสู่วงการบันเทิง
ช่วงต้นทศวรรษ 1980 ตอนนั้นตัวเดปป์เองคงไม่คิดว่าอีก 2 ทศวรรษต่อมาเขาจะได้รับบท กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์และมีชื่อเสียงในฐานะนักแสดงอย่างเช่นทุกวันนี้ เพราะตอนนั้นอาชีพที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดก็คือการเป็น ‘นักดนตรี’ แต่ความหลงใหลแค่ดนตรีอย่างเดียวไม่อาจหาเลี้ยงปากท้อง หรือจ่ายค่าเช่าบ้านได้ สุดท้ายเดปป์จึงต้องไขว่คว้าหาเส้นทางอื่นเพื่อชีวิตจะสามารถไปต่อได้

ในเวลานั้นเดปป์วัย 20 ปี ลาออกจากโรงเรียนเพื่อตามล่าหาความฝัน เขาหันมารับงานคอนเสิร์ตและงานแปลก ๆ ทุกที่ที่ทำได้เพื่อสนับสนุนความหลงใหลในดนตรีของตัวเอง แม้เดปป์จะได้ทำงานที่รักในทุกวัน แต่รายได้ที่เข้ามานั้นก็ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่เด็กวัย 20 ปีคนหนึ่งต้องแบกรับไว้ เดปป์มีชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่สักพัก ก่อนจะได้มาพบรักกับน้องสาวของมือเบสในวงอย่าง ลอรี แอนน์ แอลลิสัน (Lori Anne Allison) ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็แต่งงานกันในปี 1983
แอลลิสันมีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าที่ทำงานอยู่ในแวดวงฮอลลีวูด เธอเคยร่วมงานกับนักแสดงดัง ๆ ในยุคนั้นหลายคน โดยเฉพาะ นิโคลัส เคจ ต่อมาแอลลิสันได้แนะนำเดปป์กับเคจให้รู้จักกัน ทั้งสองกลายมาเป็นคู่ซี้ที่มักจะนัดดื่มเหล้ากันแทบทุกวัน และช่วงเวลานั้นเองที่เดปป์ได้รู้จักกับอาชีพ ‘นักแสดง’

“ผมมาลงเอยกับอาชีพนักแสดงด้วยความบังเอิญ หลายปีก่อนผมเป็นนักดนตรีและย้ายมาอยู่ที่แอลเอ พร้อมกับวงดนตรีของผมตอนั้นผมอายุ 20 ปี ได้แล้วก็มี 2-3 สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น ผมจำได้ว่าวงผมแตก ผมจำได้ว่าตัวเองกำลังกรอกใบสมัครงานกับเพื่อนของผมอยู่เลย
“ตอนนั้น นิโคลัส เคจ เป็นนักแสดงหน้าใหม่ เขาไม่ได้ดังหรือมีคนรู้จักเหมือนอย่างทุกวันนี้ และตอนที่ผมกำลังกรอกใบสมัครงานที่ร้านวิดีโอ หรือร้านขายเสื้อผ้าเพื่อจะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน นิค เคจ ก็พูดกับผมว่า ‘ทำไมนายไม่ไปพบตัวแทนของฉันล่ะ ฉันว่านายมีแววจะเป็นนักแสดงได้นะ นายสามารถเป็นนักแสดงได้เลยแหละ’ ผมบอกเขากลับไปว่า ได้หมด จะให้ผมไปเจอใครจะให้ทำอะไรผมทำหมดเลย ณ จุดนั้น” เดปป์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะให้การบนชั้นศาล
ฝั่งเคจก็เคยเล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นผ่าน The New York Times Magazine ว่า
“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเรามักจะชอบเล่น Monopoly ด้วยกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งเขากำลังจะชนะเกม ผมก็จ้องไปที่เขาและพูดว่า ‘ทำไมนายไม่ลองแสดงดูบ้างล่ะ’ เขาตอบผมกลับมาว่า เขาอยากเป็นนักดนตรี และเขาก็บอกว่า ‘ไม่ ผมแสดงหนังไม่ได้หรอก’ ผมเลยพูดไปว่า ‘ฉันคิดว่านายสามารถแสดงได้นะ’ หลังจากนั้นผมก็ส่งเขาไปพบกับตัวแทนของผม เธอส่งเขาไปออดิชันหนังเรื่องแรกก็คือ ‘A Nightmare on Elm Street’”

เคจช่วยให้เดปป์ได้ออร์ดิชันในหนังดังของ เวส คราเวน (Wes Craven) อย่าง ‘A Nightmare on Elm Street’ เดปป์ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อนเลย ลงเอยด้วยการรับบทเป็นแฟนของแนนซีตัวละครหลักในเรื่อง งานนี้นอกจากจะต้องขอบคุณเคจแล้วเดปป์ต้องขอบคุณลูกสาวของคราเวนวัย 13 ปีด้วย เพราะว่ากันว่าสาเหตุที่เดปป์ได้บทนี้ ก็เพราะลูกสาวของคราเวนมาเห็นรูปภาพในใบสมัครออร์ดิชันของเดปป์ แล้วจู่ ๆ ก็อุทานขึ้นมาว่า “โฮ คนนี้หล่อจัง”
เดปป์ทิ้งท้ายว่าเขาไม่เคยมองเห็นศักยภาพแอบแฝงในตัวเองมาก่อน จนกระทั่งคนภายนอกผลักดันให้เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง
“ผมไม่เคยมีความคิดอยู่ในหัวเลยว่าตัวเองอยากจะเป็นนักแสดง ผมเป็นนักดนตรี แต่ไป ๆ มา ๆ ผมก็สามารถทำเงินก้อนโตได้จากการเป็นนักแสดง ผมจำได้ว่าผมได้ค่าแรงขั้นต่ำสุดของสหภาพนักแสดงเลย ตอนนั้นผมได้สัปดาห์ละ 1,284 เหรียญ ซึ่งมันเป็นเงินที่เยอะสำหรับผมมากในตอนนั้น ผมไม่เคยเห็นเงินเยอะแบบนั้นมาก่อนเลยในชีวิต”

อย่างที่ทุกคนทราบต่อมาชีวิตของเดปป์และเคจต่างก็มีเส้นทางชีวิตที่คลับคล้ายคลับคลากัน หลังก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกแถวหน้าของวงการฮอลลีวูดด้วยกันทั้งคู่แล้ว จู่ ๆ โชคชะตาก็เล่นตลกกับพวกเขา คนหนึ่งชีวิตพังเพราะมีหนี้สินเต็มตัว จนต้องหันไปเล่นหนังเกรดบีใช้หนี้ ส่วนอีกคนชีวิตมาพังเพราะใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตทั้งสองคนจะกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งเฉกเช่นวันวาน
ที่มา justjared
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส