ช่วงนี้ไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่จะอยู่ในเรดาร์ผู้ชมมากไปกว่า ‘Top Gun : Meverick’ อีกแล้ว ทั้งข่าวการถ่ายทำที่เอากล้อง Sony Venice ขึ้นไปติดตั้งบนห้องนักบิน งานเปิดตัวสุดอลังการไปจนถึงความสำเร็จที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และล่าสุดเรากำลังจะได้ประจักษ์กับเทคโนโลยีล่าสุดที่ทำให้ผู้ชมได้ยินเสียงของยอดนักแสดงที่มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ ‘Top Gun’ ภาคแรกอย่าง วาล คิลเมอร์ (Val Kilmer)
สำหรับคิลเมอร์ นั้นเดิมทีเป็นนักแสดงละครเวทีศิษย์ก้นกุฏิของ จูลีอาร์ด (Juilliard’s Drama Division) สถาบันด้านการละครระดับตำนานในนิวยอร์คก่อนจะเริ่มโด่งดังมีชื่อเสียงจากหนังตลกอย่าง ‘Top Secret’ หรือชื่อไทย ‘ลับสุดบ๊องส์’ ในปี 1984 ก่อนจะดังเป็นพลุแตกประกบ ทอม ครูซ (Tom Cruise) ในหนัง ‘Top Gun’ หรือ ‘ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า’ ในปี 1986 กับบท ไอซ์แมน (Iceman) นักบินขับไล่สุดหล่อที่ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของมาเวอร์ริก ตัวละครของทอม ครูซ และได้กลายเป็นตัวละครขวัญใจคนดู
หลังจากนั้นคิลเมอร์ก็มีผลงานการแสดงที่เป็นที่จดจำมากมายตั้งแต่ได้รับบท แบทแมน คนที่ 2 บนจอเงินต่อจาก ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton) ใน ‘Batman Forever’ เป็นร็อกสตาร์ผู้ล่วงลับใน ‘The Doors’ ร่วมทีมปล้นในบทสมทบแต่เท่ทะลุจอมาก ๆ ใน ‘Heat’ หนังอาชญากรรมระดับตำนานของ ไมเคิล มานน์ (Michael Mann) ก่อนแสงของอาชีพจะริบหรี่จากหนัง ‘The Saint’ และ ‘The Island of Dr.Moreau’ ที่ทำเงินไม่เข้าเป้าก่อนจะได้กลับมาผงาดชิงรางวัลแซตเทิร์นกับการปรากฎตัวในหนังรีเมกสุดเจ๋งของ เชน แบล็ก (Shane Black) ผู้กำกับ ‘Iron Man 3’ ในหนัง ‘Kiss Kiss Bang Bang’
แต่แล้วข่าวร้ายก็มาเยือนเมื่อปี 2015 คิลเมอร์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกล่องเสียง (Throat Cancer) และหลังจากทำการรักษาเจาะคอไป 2 ครั้งเขาก็กลายเป็นคนที่มีปัญหาบกพร่องทางการพูด จนในที่สุดปี 2020 คิลเมอร์ได้ร่วมงานกับทาง โซแนนติก (Sonantic) บริษัทซอฟต์แวร์ในอังกฤษเพื่อพัฒนาการใช้เอไอ (AI) ซึ่งเรียนรู้เรื่องเสียงจากข้อมูลที่มีอยู่ทั้งคลิปข่าว ภาพยนตร์ที่คิลเมอร์เคยนำแสดงเพื่อลอกเลียนเสียงและทำให้คิลเมอร์สามารถสื่อสารผ่าน “กล่องเสียง” ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่นี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ซึ่งเรามีตัวอย่างเสียงที่คิลเมอร์สื่อสารผ่านเอไอในกล่องเสียงไฮเทคชิ้นนี้เป็นข้อความสุดจับใจว่า
“ความสร้างสรรค์เป็นความสามารถที่อยู่ในตัวเราทุกคน เราต่างมีแรงขับที่จะได้แบ่งปันความฝันและความคิดที่อยู่ลึกสุดใจให้กับโลกใบนี้ เมื่อเรานึกถึงคนที่มีพรสวรรค์ เหล่าคนที่แสนครีเอทีฟ พวกเขาพูดกับเราในแบบที่ไม่เหมือนใคร วลีอย่างการมีเสียงอันสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่เราได้ยินกับบ่อยเหลือเกินแต่เมื่อผมเป็นมะเร็งกล่องเสียง เสียงอันแสนสร้างสรรค์ที่ว่าก็ถูกพรากไปจากผมหลังได้รับการรักษา”
“ผู้คนรอบตัวผมไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามพูดออกมา แต่เหนืออื่นใด ผมยังคงเป็นคนที่มีเลือดเนื้อเป็นคนคนเดิม เป็นคนที่มีจิตวิญญาณสร้างสรรค์อยู่ในเนื้อในตัว มีจิตวิญญาณที่มีความฝัน เปี่ยมความคิดและเป็นเรื่องราวที่อยากถ่ายทอดในทันทีทันใด แต่ตอนนี้ตัวตนของผมสามารถออกมาพบเจอทุกคนได้อีกครั้ง ผมสามารถเอาความฝันที่ครั้งหนึ่งเคยหายไปหรือหลบซ่อนอยู่ออกมาให้พวกคุณเห็นได้อีกครั้ง”
ที่มา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส