ได้ยินชื่อทาร์ซานบางคนอาจจะคิด ทาร์ซาน อีกแล้ว เพราะคุ้นกับชื่อกับเรื่องราว แต่เอาเข้าจริง ๆ ยุคหลังทาร์ซานถูกสร้างเป็นการ์ตูนเสียมากกว่าทั้งฉายโรงและทีวี เวอร์ชั่นดิสนีย์ออกมาเมื่อปี 1999 และการ์ตูนของเยอรมันเมื่อปี 2013 แต่ถ้าเป็นทาร์ซานเวอร์ชั่นคนแสดงกลับต้องย้อนหลังไปถึง 32 ปีเลยกับ Greystoke :The Legend Of Tarzan (1984) ที่ได้คริสโตเฟอร์ แลมเบิร์ต มารับบทเป็นทาร์ซาน

the-legend-of-tarzan-fight-banner

Legend Of Tarzan เวอร์ชั่นนี้ไม่เล่าเรื่องราวซ้ำซาก ถ้าเผื่อเห็นชื่อทาร์ซานแล้วจะเบ้หน้า เดี๋ยวต้องได้ดูทารกโดนลิงเก็บไปเลี้ยงอีกแล้ว เพิ่งดูหมาป่าเลี้ยงเด็กไปไม่นานนี้เอง แต่นั่นไม่ใช่ใน Legend Of Tarzan เวอร์ชั่นนี้ดัดแปลงมาจาการ์ตูนของค่าย Dark Horse เรื่องราวออกแนวเหมือนหนังภาค 2 เสียด้วยซ้ำ เพราะเริ่มเรื่องในตอนที่ ทาร์ซาน ออกจากป่ามาแล้ว 1 ปี ปัจจุบันเป็นท่านจอห์น เคลย์ตัน ขุนนางเกรย์สโตคที่ 3 อยู่ในลอนดอนกับเจน แล้ววันหนึ่งเหล่าตัวแทนรัฐสภาอังกฤษก็มาขอร้องให้ทาร์ซานกลับไปคองโกดินแดนป่าที่เขาจากมาในฐานะตัวแทนฑูตการค้า โดยมีเบื้องหลังที่แยบยลที่คองโก ทาร์ซานต้องเผชิญกับ ลีออน รอม ข้าหลวงตัวร้ายมือขวาของกษัตริย์เบลเยี่ยมผู้ปกครองคองโกและต้องการตัวทาร์ซาน เพื่อแลกกับค่าหัวมูลค่ามหาศาล

flickz-scoop-the-legend-of-tarzan-11

หนังเล่าที่ไปที่มาของทาร์ซานในแบบภาพแฟลชแบคแทรกเข้ามาเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่กอริลล่าเก็บไปเลี้ยง ความเป็นมาของเจนและเหตุการณ์ที่เธอได้เจอกับทาร์ซาน แต่ไม่เล่าสาเหตุที่ทาร์ซานออกจากป่า ตัวละครที่คองโกค่อนข้างเยอะแล้วแต่ละคนก็รู้จักสนิทสนมกัน  คนดูเลยเสมือนคนนอก ค่อย ๆ ฟังบทสนทนาเก็บใจความไป พอเข้าคองโกเรื่องราวก็เดินหน้าได้เร็ว มีฉากแอ็คชั่นทั้งเล็กและใหญ่เข้ามาตลอดไม่เว้นช่วงนานให้ได้ง่วง ด้วยความร้ายของลีออน รอม ที่ได้คริสตอล์ฟ วอลทซ์ ตัวร้ายระดับออสการ์ที่รอบนี้ตัวละครค่อนข้างแบนแต่ถูกเขียนให้ร้ายและเหี้ยมมาโดยสันดานดิบ มีสร้อยคอประคำอาวุธคู่มือที่ดูประหลาดแต่มีพิษสง ก็เลยเป็นตัวละครที่ทำให้หนังดูมีสีสันมีความดุดันมากขึ้น ยกให้อารมณ์หนังดูแตกต่างจาก”เมาคลี”หนังป่า ๆ อีกเรื่องอย่างเห็นได้ชัด

อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด ตัวประกอบตลอดชีวิต ได้โอกาสแจ้งเกิดครั้งสำคัญในบททาร์ซาน ซึ่งก็ดูเหมาะสมดี ด้วยความสูงปรี๊ดถึง 194 ซ.ม. แล้วก็ทุ่มเทฟิตร่างกายทุกวันติดต่อกันถึง 4 เดือนเพื่อบทนี้ ก็ออกมาเป็นทาร์ซานที่ดูเพรียว เพราะมีมัดกล้ามมีซิกซ์แพ็คแต่ไม่ล่ำบึ้กแบบนักกล้าม มีริ้วรอยแผลเป็นเต็มตัวสมกับคนที่ใช้ชีวิตมาในป่า พอมาโหนเถาวัลย์ก็ดูพริ้วดี ชอบที่บทเขียนให้ทาร์ซานคนนี้ไม่ได้เก่งเวอร์เกินไป ดูมีความเป็นมนุษย์อยู่มากพลาดได้แพ้ได้ร้องไห้เป็น มาร์ก็อต รอบบี้ นางเอกที่งานชุกที่สุดในช่วงนี้ มาเป็นเจน พอตเตอร์ ที่ไม่ต้องเมคอัพหนาแต่ก็สวยจัด กล้องก็ขยันโคลสอัพหน้าเธอบ่อย ๆ ก็เลยมีฉากให้ได้ฟินทั้งคนดูชายหญิง ที่ผิดคาดหน่อยคือบทของ ซามูเอล แอล. แจ๊คสัน ที่เห็นหน้าในตัวอย่างแค่แป๊บเดียว แต่ในหนังกลับมีบทบาทสำคัญในเรื่อง เป็น ดร.วิลเลียมส์ มือขวาของทาร์ซาน คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา และเป็นตัวยิงมุกของเรื่อง

tarzan-first-look

ด้านซีจีอยู่ในระดับอัศจรรย์เช่นเคย ฮอลลีวู้ดพาเรามาถึงจุดที่แยกภาพซีจีกับภาพจริงไม่ออกมาตั้งแต่ Life Of Pi (2012) แล้ว เนียนไปหมดทั้งกอริลล่า ควายป่า ฮิปโปอ้าปากคำราม โดยเฉพาะพี่น้องเสือที่เอาหัวถูไถกับทาร์ซานนี่เนียนกริ๊บจนน่าตกใจ เช่นเดียวกับภาพโลเคชั่นป่าอาฟริกาที่ใช้ซีจีสร้างขึ้นมาแทบทั้งหมด เพราะหนังถ่ายทำในโรงถ่ายที่อังกฤษ มีเพียงภาพป่าบางส่วนที่ทีมงานไปบันทึกภาพสถานที่จริงมาใช้ประกอบ ด้วยงบซีจีที่ต้องสร้างทั้งภาพป่าภาพสัตว์จำนวนมหาศาลเลยทำให้งบสร้างบานไปถึง 180 ล้านเหรียญ สูงกว่า Independence Day:Resurgence อีกนะ เดวิด เยตส์ ผู้กำกับที่สร้างชื่อมาจาก Harry Potter หลายภาคได้เสียบงานนี้แทนสตีเฟน ซอมเมอร์ (The Mummy, Van Helsing) และ กิลเลอร์โม เดล โตโร (Pacific Rim) ทำให้สีหนังออกมาซีด ๆ ครึ้ม ๆ เต็มไปด้วยหมอกดูแล้วคล้ายกับบรรยากาศในฮอว์กวอตมาก โดยรวมจัดเป็นหนังซัมเมอร์อีกเรื่องที่พูดได้เต็มปากว่าสนุก ภาพสวย ฉากซีจีเนียน ดาราสวยหล่อ ฉากแอ็คชั่นใหญ่ สมควรกับเวลาและค่าตั๋วครับ

Play video