นักแสดงมากฝีมืออย่าง ทอม ครูซ (Tom Cruise) ผ่านการรับบทบาทในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มาแล้วมากกว่า 50 เรื่อง หากนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีโปรเจกต์ใหญ่ ๆ หลายตัวที่ครูซพลาดรับบทไป และมีหลายต่อหลายเรื่องที่ตัวบทภาพยนตร์ถูกเขียนและพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้เหมาะสมกับคาแรกเตอร์ของครูซโดยเฉพาะ แต่สุดท้ายด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างก็ทำให้บทเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของนักแสดงคนอื่น ๆ แทน

beartai BUZZ จึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก 7 บทบาท จากภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่อง ที่ครูซเคยเกือบได้แสดง พร้อมเผยชื่อนักแสดงตัวจริงที่ได้รับบทแทนครูซว่าพวกเขาคือใครกันบ้าง?

ครูซ

เรื่องที่ 1: ‘Steve Jobs’ ในบท สตีฟ จอบส์
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Steve Jobs’

ภาพยนตร์เรื่องนี้ทางผู้กำกับ แดนนี่ บอยล์ (Danny Boyle) และโปรดิวเซอร์อย่าง สก็อต รูดิน (Scott Rudin) นั้นมีความกังวลเรื่องอายุของครูซ ถึงแม้ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับเรื่องความสามารถและทักษะการแสดงของเขา แต่อย่างไรก็ตามเหมือนว่าครูซจะใกล้เคียงกับการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้มากที่สุด คือตอนที่มีชื่ออยู่ในลิสต์นักแสดงตัวเลือกแรก ๆ ของทางผู้เขียนบท

เรื่องที่ 2: ‘Phil Spector’ ในบท ฟิล สเปกเตอร์
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ อัล ปาชิโน (Al Pacino) 

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Phil Spector’

ภาพยนตร์เรื่องนี้ครูซเคยถูกวางแผนให้มารับบทเป็นนักแสดงนำ และในช่วงแรกของโปรเจกต์ดูเหมือนว่าเขาจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นใจ ทำให้ในช่วงเวลาต่อมาครูซไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้อีก

เรื่องที่ 3: ‘Footloose’ ในบท เร็น แมคคอร์แมก
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ เควิน เบคอน (Kevin Bacon)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Footloose’

ถึงแม้ว่าครูซจะเคยถูกเล็งให้มารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเขาเคยมีผลงานด้านการแสดงในฉากเต้นและมีท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนเป็นที่น่าจดจำจากเรื่อง ‘Risky Business’ แต่ตารางงานของครูซดันไปชนกับการถ่ายทำภาพยนตร์อีกเรื่องอย่าง ‘All The Right Moves’ ทำให้เขาต้องปฏิเสธการรับบท เร็น แมคคอร์แมก จากเรื่อง ‘Footloose’ ไป

เรื่องที่ 4: ‘Reign Over Me’ ในบท ชาร์ลี ไฟน์แมน
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ อดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Reign Over Me’

บทภาพยนตร์ดั้งเดิมเรื่องนี้ ถูกเขียนพร้อมกับวางแผนนักแสดงที่จะมารับบทนำไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนักแสดงคนนั้นก็คือครูซ แต่เมื่อทางค่ายและทีมงานผู้จัดทำภาพยนตร์์ได้ประกาศงบประมาณต่าง ๆ และเผยค่าตัวของนักแสดงออกมา ทำให้ในท้ายที่สุดครูซได้ถอนตัวออกจากโปรเจกต์นี้ไป

เรื่องที่ 5: ‘A Beautiful Mind’ ในบท จอห์น แนช
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ รัสเซล โครว์ (Russell Crowe)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘A Beautiful Mind’

ครูซมีความสนใจในบทภาพยนตร์และคาแรกเตอร์ของตัวละครจากภาพยนตร์เรื่อง ‘A Beautiful Mind’ ในบท จอห์น แนช อย่างมาก แต่ตัวเขานั้นกลับไม่ผ่านการคัดเลือก ทำให้ครูซพลาดบทนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีรวมถึงคำวิจารณ์อย่างล้นหลาม และคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์ไปได้ถึง 4 รางวัล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

เรื่องที่ 6: ‘Iron Man’  ในบท โทนี่ สตาร์ก
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Iron Man’

แต่เดิมครูซเคยถูกวางตัวไว้ให้มารับบท โทนี่ สตาร์ก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้มาแสดงนำ อีกทั้งยังเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับทาง comicbook.com ว่า

“ผมว่าจริิง ๆ คาแรกเตอร์ของผมเองไม่ได้มีความใกล้เคียงกับบทนักแสดงนำในภาพยนตร์ของมาร์เวลมากขนาดนั้น และผมก็รัก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ผมนึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าจะมีใครเหมาะสมกับบทนี้ได้เท่าเขาอีก”

เรื่องที่ 7: ‘Edward Scissorhands’ ในบท เอ็ดเวิร์ด ซิสเซอร์แฮนด์
นักแสดงตัวจริงที่ได้บท คือ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp)

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Edward Scissorhands’

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครูซไม่ได้ถูกคัดเลือก ด้วยเหตุผลคือทางทีมงานคิดว่าครูซถามคำถามมากเกินไปทั้ง ๆ ที่บางอย่างก็ไม่จำเป็นจะต้องถาม แต่อันที่จริงในการแสดง นักแสดงก็สมควรที่จะสามารถถามคำถามกับทางทีมงานได้ และสมควรที่จะได้รับคำตอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้เข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การแสดงที่สมจริง เข้าถึงบทบาทได้ เหตุการณ์นี้จึงทำให้เกิดความไม่พอใจกันขึ้นและต้องปรับเปลี่ยนนักแสดงภายในเรื่อง

ยังมีภาพยนตร์อีกหลาย ๆ เรื่องที่ครูซเคยเกือบจะได้แสดง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้เขาไม่ได้รับบทนั้นไป อย่างไรก็ดีในปัจจุบันเขาก็ยังถือเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์อย่างมากคนหนึ่ง

ครูซ

นอกจากนี้ครูซยังคงมีแฟนภาพยนตร์ที่คอยสนับสนุนและติดตามผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง เช่น แฟรนไชส์ภาพยนตร์เรื่อง ‘Mission: Impossible’ และภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เพิ่งเข้าฉายอย่าง ‘Top Gun: Maverick’ ที่ทำเอาแฟนภาพยนตร์หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้และครูซมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

ที่มา: screenrant.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส