หลังจากที่ ‘เดวิด ซาสลาฟ’ (David Zaslav) อดีต CEO ของดิสคัฟเวอรี (Discovery) ได้ก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้ตำแหน่ง CEO ของ ‘วอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี’ (Warner Bros. Discovery) หลังจากเกิดอภิมหาดีลยักษ์ใหญ่จากการควบรวมกิจการระหว่าง วอร์เนอร์มีเดีย (WarnerMedia) และดิสคัฟเวอรี (Discovery) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เขาเองก็ได้เข้ามาดำเนินการปรับแผนธุรกิจ โดยเฉพาะการปรับแผนแผนกภาพยนตร์ของ ‘วอร์เนอร์ บราเธอส์’ (Warner Bros.) เดิม ที่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่อ่วมของวอร์เนอร์อยู่พอสมควร ตั้งแต่การวางแผนขยายจักรวาลเวทมนตร์ ‘Wizarding World’ ลงทางสตรีมมิง ‘HBO Max’ และ ‘HBO Go’ ของตนเอง
รวมทั้งการปรับแผนภาพยนตร์ฮีโรในเครือ ‘ดีซี ฟิล์ม’ (DC Films) ให้มีความเป็นเอกเทศ และรวมจักรวาล DC Universe ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คล้ายกับโมเดล MCU (Marvel Cinematic Universe) ของ มาร์เวล สตูดิโอ (Marvel Studios)
แต่ดูเหมือนว่า การเข้ามาปรับปรุงแผนกภาพยนตร์แบบยกเครื่อง ของซาสลาฟอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเขาต้องเจอกับวิกฤติด้านภาพลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก อันเนื่องจากนักแสดงนำจากภาพยนตร์ DC เรื่อง ‘The Flash’ อย่าง ‘เอซรา มิลเลอร์’ (Ezra Miller) ที่ก่อดราม่าแสบ ๆ จนแทบจะตามเก็บกันไม่ทัน
ล่าสุด เว็บไซต์สำนักข่าว Deadline รายงานว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างชัดเจนมาก ๆ ในการที่ซาสลาฟ และวอร์เนอร์ จะตัด เอซรา มิลเลอร์ ออกจากแผนการสร้างภาพยนตร์ของ DC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อต้องการที่จะรับมือกับความเสียหายด้านภาพลักษณ์ จากวีรกรรมป่วย ๆ ของมิลเลอร์ที่มีมาแบบไม่หยุดหย่อน
โดยเฉพาะกรณีล่าสุด ที่ศาลเยาวชนรัฐนอร์ธดาโกตา (North Dakota) สหรัฐอเมริกา สั่งให้คุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มิลเลอร์เข้าใกล้เด็กสาววัย 18 ปี และพ่อแม่ของเด็กสาว หลังจากที่มิลเลอร์ก่อวีรกรรมชักจูงหญิงสาวไปเข้าร่วมกิจกรรมในลัทธิอะไรบางอย่าง และคุกคามเธอด้วยการใช้อาวุธข่มขู่ตั้งแต่เธออายุแค่ 12 ปี
ตามรายงานเผยว่า ทางวอร์เนอร์พยายามที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือแก่นักแสดงหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความที่มิลเลอร์เองก็มีข่าวฉาว พร้อมกับการเผยพฤติกรรมแปลก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินจะรับไหว จนทำให้สตูดิโอมองว่า ดราม่าเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อภาพยนตร์ ‘The Flash’ อย่างแน่นอน
ทั้งการตกเป็นเป้าสังคมของตัวมิลเลอร์เอง และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของหนัง การโปรโมต รายได้ตอนฉาย และรวมถึงภาพลักษณ์ของวอร์เนอร์ ที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะตัวหนังถือเป็นภาพยนตร์ฮีโร DC ที่วอร์เนอร์คาดหวังไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากใช้ทุนสร้างมากถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ซึ่ง Deadline ได้กล่าวอ้างถึงแหล่งข่าวคนหนึ่งว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาที่วอร์เนอร์จะแก้ได้ และ “สำหรับวอร์เนอร์ ไม่มีชัยชนะใด ๆ สำหรับเรื่องนี้” (“There is no winning in this for Warner Bros.”) มันเป็นปัญหาที่ถูกส่งต่อให้ซาสลาฟต้องตามแก้ ความหวังเดียวของเขาก็คือ เรื่องอื้อฉาวของมิลเลอร์จะลดลง จนกว่าจะวันที่หนังเข้าฉาย
สิ่งที่ซาสลาฟกำลังตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ที่พอจะมีความเป็นไปได้ก็คือ การงดการโปรโมตหนังเรื่องนี้ไปก่อนแบบไม่มีกำหนด การย้ายภาพยนตร์ไปฉายทางสตรีมมิง HBO Max แทน หรือไม่ก็ถอดมิลเลอร์ออกแล้วถ่ายทำใหม่ หากวอร์เนอร์เลือกทางนี้แล้วหานักแสดงใหม่ ก็อาจทำให้ต้องเลื่อนกำหนดฉายจากเดิม 23 มิถุนายน 2023 ออกไปอีก เนื่องจากต้องมีการถ่ายซ่อมกันแบบยกเครื่อง และไม่ว่าหนังจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า มิลเลอร์ไม่ได้อยู่ในแผนของ DC Films ในอนาคตอีกต่อไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ ‘เอซรา มิลเลอร์’ (Ezra Miller) นักแสดงหนุ่มอเมริกันมากฝีมือวัย 29 ปี เจ้าของบท ‘แบร์รี อัลเลน’ (Barry Allen) หรือเดอะ แฟลช (The Flash) ซูเปอร์ฮีโรความเร็วสูงแห่งจักรวาล DC และ[ ‘ครีเดนซ์ แบร์โบน’ (Credence Barebone) จากแฟรนไชส์ภาพยนตร์เวทมนตร์ ‘Fantastic Beasts’ ได้ก่อวีรเวรวีรกรรม และแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเจ้าตัวเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง
ตั้งแต่กรณีที่มีการเปิดเผยวิดีโอที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวกำลังจะบีบคอหญิงสาวที่ประเทศไอซ์แลนด์ ในเดือนเมษายน 2020 ซึ่งเป็นกรณีที่ยังคลุมเครือว่าเจ้าตัวได้ลงมือทำร้ายหญิงสาวจริงหรือไม่ จนมาถึงปีนี้ก็มีการก่อวีรกรรมแบบติด ๆ กัน ครั้งแรกในเดือนมีนาคม เขาถูกจับข้อหาสร้างความวุ่นวายในร้านคาราโอเกะบนเกาะฮาวาย ด้วยการตะโกนคำหยาบคายลั่นร้าน เข้าไปแย่งไมโครโฟนจากหญิงสาวที่กำลังร้องเพลง และพุ่งตัวใส่ชายหนุ่มที่กำลังเล่นปาเป้า
หลังได้รับการประกันตัว เขาก็ได้ก่อวีรกรรมอีกครั้งในเดือนเมษายนต่อทันที หลังจากที่ตำรวจฮาวายได้เข้าจับกุมเขา หลังจากก่อเหตุทำร้ายร่างกายในงานปาร์ตีด้วยการโยนเก้าอี้ไปโดนหญิงสาวจนเกิดแผลหัวแตก แถมยังอาละวาดปาข้าวของในร้านเสียหาย และก็ยังได้รับการประกันตัวออกมาอีกครั้งหนึ่ง
และกรณีล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลเยาวชนรัฐนอร์ธดาโกตา (North Dakota) สหรัฐอเมริกา ได้สั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อไม่ให้มิลเลอร์เข้าใกล้เด็กสาววัย 18 ปีและครอบครัว และสั่งห้ามเข้าใกล้บ้านของครอบครัวนี้ในระยะ 300 ฟุต และมีหมายศาลเรียกตัวมิลเลอร์เข้ามาสอบปากคำในกรณีนี้
หลังจากที่พ่อและแม่ของเด็กสาวได้ยื่นฟ้องมิลเลอร์ ในข้อหาล่อลวงหญิงสาวคนดังกล่าว ซึ่งเป็นแฟนคลับตัวยงของมิลเลอร์ ที่เคยไปหาเขาที่กองถ่าย ‘Fantastic Beast’ จนสนิทสนม ไปเข้าร่วมกิจกรรมลัทธิบางอย่าง และยังก่อเหตุคุกคามเธอด้วยการใช้อาวุธ บังคับให้เธอใช้ยาเสพติดและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่เธอมีอายุเพียง 12 ปี จนเด็กสาวมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต
แถมภายหลังที่ศาลได้ออกหมายคำสั่งเรียกตัวมาสอบปากคำ นอกจากเจ้าตัวจะไม่ยอมไปพบศาลแล้ว ยังเกรียนด้วยการโพสต์ภาพมีมล้อเลียนเจ้าหน้าที่ตำรวจในอินสตราแกรมของตัวเอง ก่อนจะลบบัญชีของตัวเองทิ้งไปในภายหลัง
ที่มา: Deadline, Comicbook, Wikipedia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส