SPOILER ALERT! – เนื้อหาในบทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ (2022) สามารถคลิกอ่านรีวิวฉบับไม่สปอยล์เนื้อหาได้ที่นี่


อีกหนึ่งความน่าสนใจของภาพยนตร์ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ก็น่าจะเป็นเหล่าบรรดา Easter Egg ซูเปอร์ฮีโรที่มาปรากฏตัวในหนัง โดยเฉพาะทีม ‘อิลลูมินาติ’ (Illuminati) ผู้ควบคุมตัวหมอแปลกใน Earth-838 ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ Marvel และในอีกทางหนึ่งก็กลายเป็นมีม เพราะมาเร็ว ตายเร็วซะเหลือเกิน

โดยเฉพาะการปรากฏตัวของ ‘มิสเตอร์แฟนทาสติก’ (Mister Fantastic) หรือ ‘รีด ริชาร์ด’ (Reed Richards) หัวหน้าแก๊งแฟนทาสติกโฟร์ (Fantastic Four) ที่รับบทโดย ‘จอห์น คราซินสกี’ (John Krasinski) ที่ถือว่าเป็นอะไรที่ฮือฮามาก ๆ เพราะถือเป็นการเข้าใกล้กับข่าวที่ MCU จะมีการรีบูต Fantastic Four ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเข้าไปอีกสเต็ป

Doctor Strange 2 Mr. Fantastic

และที่บอกว่าเป็นมีมก็เพราะว่า สุดท้ายเขาและอิลลูมินาติ โดนภัยเวทมนตร์ของขุ่นแม่วันด้า แมกซิมอฟฟ์ (Wanda Maximoff) หรือ ‘สการ์เล็ต วิตช์’ (Scarlett Witch) ที่รับบทโดย ‘อลิซาเบธ โอลเซ่น’ (Elizabeth Olsen) สังหารจนตายเหี้ยนไม่เหลือซาก ซึ่งตัวของมิสเตอร์แฟนทาสติกถือว่าฮือฮาสุด เพราะโดนขุ่นแม่ขยี้จนกลายเป็นเส้นสปาเกตตีเหมือนอย่างที่ชาวเน็ตเอาไปล้อกัน

Doctor Strange 2 Mr. Fantastic

ซึ่งฉากสังหารที่ดูคัลต์สมกับงานหนังของผู้กำกับ ‘แซม ไรมี’ (Sam Raimi) ขนาดนี้ เชื่อหรือไม่ว่า นี่เป็นไอเดียจาก ‘เควิน ไฟกี’ (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios นั่นเอง

‘จูเลียน ฟอดดี’ (Julian Foddy) หัวหน้าทีมวิชวลเอฟเฟกต์ของ ‘อินดัสเตรียล ไลต์ แอนด์ เมจิก’ (Industrial Light & Magic) ได้ให้สัมภาษณ์แจกแจงเกี่ยวกับงานเบื้องหลังการสร้างสรรค์วิชวลเอฟเฟกต์ในแต่ละซีนที่ปรากฏในภาพยนตร์ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ กับ Befores & Afters เว็บไซต์เกี่ยวกับวิชวลเอฟเฟกต์และแอนิเมชันอย่างละเอียดแบบชนิดฉากต่อฉาก

โดยจูเลียนได้เปิดเผยถึงฉากการสร้างสรรค์เหล่าฮีโรกลุ่มอิลลูมินาติ ที่แม้ว่าจะดูแปลก แต่จริง ๆ มีเบื้องหลังที่น่าสนใจมาก ซึ่งเขาได้เปิดเผยว่า ฉากการตายของมิสเตอร์แฟนทาสติกที่กลายเป็นฝอย ๆ เหมือนเส้นสปาเกตตีแบบนั้น นอกจากจะเป็นเพราะอ้างอิงมาจากความสามารถของมิสเตอร์แฟนทาสติก ที่สามารถการยืดหยุ่นร่างกายทุกส่วนได้เหมือนยางยืดแล้ว ก็ยังเป็นเพราะไอเดียของไฟกี ที่ได้แรงบันดาลใจจากของเล่นแป้งปั้นที่น้อง ๆ หนู ๆ รู้จักกันในชื่อว่า ‘เพลย์โดว์’ (Play-Doh) นั่นเอง

Doctor Strange 2 Mr. Fantastic

จูเลียนเล่าเพิ่มเติมว่า ไฟกีได้แนะนำไอเดียนี้ให้กับ ‘จาเน็ก เซอรร์’ (Janek Sirrs) หัวหน้าผู้ควบคุมงานวิชวลเอฟเฟกต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยใช้แรงบันดาลใจจากการนำเอาแป้งเพลย์โดว์ที่รีดผ่านเครื่องบดกระเทียม ทำให้ตัวแป้งกลายเป็นเส้นสายออกมา และได้เล่าถึงของเล่นของเพลย์โดว์ที่มีชื่อว่า ‘Buzz ‘N Cut’ ซึ่งเป็นการจำลองร้านตัดผม ตัวของเล่นจะประกอบไปด้วยหุ่นตัวเล็ก ๆ ที่มีรูบนหัว เมื่อเอาเพลย์โดว์ใส่เข้าไปและประกอบเข้าเครื่อง ตัวเครื่องจะรีดเส้นเพลย์โดว์ออกมาเป็นเส้นยาว ๆ คล้ายเส้นผม และสามารถตัดแต่งให้เป็นทรงได้ตามต้องการ

ความท้าทายของทีมวิชวลเอฟเฟกต์อีกประการหนึ่งก็คือ การออกแบบที่ต้องทำให้มีความสมจริง และต้องทำให้รูปทรงของร่างกายที่ถูกฉีกออกเป็นเส้น ๆ นั้นดูธรรมชาติมากที่สุด และเพื่อให้ดูไม่เหมือนการไหลของของเหลว ทีมงานเลยต้องสร้างโมเดล และลองฉีกโมเดลเพื่อหารูปแบบที่ถูกต้อง หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มรายละเอียดพิกัดของพื้นผิวที่ต้องใส่รายละเอียดกันแบบเป๊ะ ๆ และยังต้องออกแบบแสงที่ตกกระทบให้ถูกต้องสมจริงมากที่สุดอีกด้วย

อีกความท้าทายก็คือ การการทำให้เส้นสายเหล่านั้นต้องออกมาคล้ายกับเส้นสายของวัสดุธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เมื่อร่างกายถูกฉีกออก เส้นสายที่ได้ก็จะมีความรู้สึกยืดหยุ่นคล้ายกับวัสดุตามธรรมชาติ (เหมือนแป้งเพลย์โดว์ที่ถูกรีดออกเป็นเส้น ๆ )

นอกจากนี้ จูเลียนยังเผยว่า นี่ถือเป็นกลโกงอีกอย่างหนึ่งของ Marvel ในการคุมเรตติงด้วยเหมือนกัน เพราะตามความเป็นจริง ถ้าฉีกร่างมนุษย์จริง ๆ แบบเดียวกับในหนังขนาดนั้น สภาพที่ออกมาคงไม่น่าดูนัก เพราะคงเลือดท่วมจอ กล้ามเนื้อกระจุยกระจาย กลายเป็นหนังฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่การใช้เทคนิคนี้ ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้หนัง Marvel สามารถคุมเรตติงของหนังไว้ที่ PG-13 และทำให้ภาพที่ออกมาดูไม่สยดสยองจนเกินไปด้วย

Doctor Strange 2 Mr. Fantastic

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า MCU กำลังจะเตรียมรีบูต ‘Fantastic Four’ และมีการคัดเลือกนักแสดงไปแล้ว โดยแต่แรกตั้งใจว่าจะให้ ‘จอห์น คราซินสกี’ (John Krasinski) มารับบท รีด ริชาร์ด และจะให้ภรรยาอย่าง ‘เอมิลี บลันต์’ (Emily Blunt) มารับบท ‘ซูซาน สตรอม’ (Susan Storm) แบบแพ็กคู่ แต่แล้วทั้งคู่ก็ปฏิเสธบทบาทนี้ไป

ซึ่งการให้คราซินสกีมารับบท ก็เป็นไอเดียของไฟกีอีกนั่นแหละ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อทำให้ภาพของเขาในบทบาทมิสเตอร์แฟนทาสติกสำหรับแฟน ๆ กลายเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งฟีดแบ็กหลังฉายที่มีต่อตัวเขาก็ดูจะออกไปในทางบวก และอยากให้เขากลับมารับบทใน MCU อีก

แต่ก็อย่างที่ทราบว่า มิสเตอร์แฟนทาสติกที่เห็นนั้นอยู่ในอีกมัลติเวิร์ส และตัวของ รีด ริชาร์ดในเรื่องก็ตุยกลายเป็นสปาเกตตีไปแล้ว การวาดฝันให้เขากลับมารับบทใน MCU อีกจึงน่าจะเป็นไปได้ยาก ยกเว้นว่า MCU จะแอบแก้บท รวบเส้นสปาเกตตี แล้วให้เขากลับมารับบทนี้อีกครั้งหนึ่ง


ที่มา : Befores & Afters, Total Film

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส