เดวิด ฮาร์เบอร์ (David Harbour) ดาราดังจาก ‘Stranger Things’ ออกมาให้สัมภาษณ์กับ GQ ว่า หลังจากที่หนังรีเมก ‘Hellboy’ ของเขามีแววจะเจ๊ง เขาได้โทรไปหา ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds) เพื่อถามว่า อาชีพการงานของเรย์โนลส์รอดจากการทำ ‘Green Lantern’ เจ๊งได้อย่างไร?
“ผมรู้จักเขานิดหน่อย ผมเลยโทรหาเขา แล้วผมก็ถามเขาว่า ’เฮ้ คือฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับ Green Lantern นิดหน่อย คือมันเป็นหนังที่นายทำแล้วเจ๊ง เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของนาย นายรอดจากมันได้ยังไง แล้วนายคิดว่าฉันจะโอเคกับสิ่งนี้ไหม (หนังเจ๊ง)’ มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก เพราะตอนแรกผมคิดว่าผมจะทำหนังเรื่องนี้ให้สำเร็จได้’” ฮาร์เบอร์เล่า
ฮาร์เบอร์เสริมว่า หลังจากที่ได้คุยกับเรย์โนลด์เขาก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่ง พร้อมบอกว่านักแสดงจาก ‘Deadpool’ เป็นคนที่น่ารักคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามฮาร์เบอร์เล่าต่อว่า ที่จริงแล้วตัวหนังมีแววเจ๊งตั้งแต่ยังไม่เริ่มสร้าง เพราะเสียงตอบรับที่ได้จากแฟน ๆ นั้นไม่ดีเอาเสียเลย
“มันเป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากมาก เพราะผมต้องการมันมาก ทั้งผมและตัว ไมก์ มิกโนลา (Mike Mignola) ผู้สร้าง ต่างก็ชอบตัวละครนี้จริง ๆ แต่ทันทีที่มีการประกาศว่าพวกเราจะรีเมกหนังเรื่องนี้อีกครั้ง ผมก็ตระหนักได้ว่าผู้คนไม่ต้องการให้ตัวละครนี้ถูกสร้างใหม่อีกครั้ง ตอนนั้นผมคงไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังจะทำ”
‘Hellboy’ มาสู่จอภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี 2004 โดยได้ รอน เพิร์ลแมน (Ron Perlman) มารับบทเฮลบอย ซึ่งตัวหนังได้รับเสียงตอบรับที่ดี จน กิเยร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ได้ไฟเขียวให้ทำภาคต่ออย่าง ‘Hellboy II: The Golden Army’
ส่วน ‘Hellboy’ เวอร์ชันรีเมกของฮาร์เบอร์ ที่กำกับโดย นีล มาร์แชล (Neil Marshall) สามารถทำรายได้ไปได้เพียง 55 ล้านเหรียญทั่วโลก จากงบประมาณการผลิต 50 ล้านเหรียญ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนังเจ๊งที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปีนี้
ที่มา gq
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส