หนังตื่นเต้นระทึกขวัญถ้าเรื่องไหนดำเนินเรื่องอยู่ในสถานที่จำกัด ความเคร่งเครียดของหนังจะเพิ่มมากขึ้นได้อีกหลายเท่า ตัวอย่างเช่น Die Hard (1988) , The Purge (2013) , Evil Dead (1981) , Funny Game (1997) มาถึง Train To Busan ที่เป็นหนังซอมบี้สัญชาติเกาหลีที่กำหนดให้บรรดาตัวละครต้องมาหนีเอาชีวิตรอดอยู่บนรถไฟ ที่หยิบข้อจำกัดของตู้โดยสารที่มีทางเข้าออกแค่หัวกับท้ายมาใช้เป็นสถานการณ์ได้อย่างสนุกตื่นเต้น เป็นหนังที่ทีมงานมั่นใจถึงกับเอาไปฉายโชว์ที่คานส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม เสียงตอบรับที่ดีบวกกับตัวอย่างหนังที่เร้าใจทำให้หนังได้รับความสนใจจากผู้ชมสูงสุด สร้างสถิติหนังที่มียอดจำหน่ายบัตรล่วงหน้าสูงที่สุดตลอดกาล ทำลายสถิติของ Captain America:Civil War ไปได้ และยังเป็นหนังที่เปิดจำนวนโรงฉายมากสุดในประวัติการณ์หนังเกาหลี
เป็นหนังที่ใช้กฎ กติกา มารยาท ของหนังสยองขวัญเป๊ะ ๆ สร้างตัวละครมากลุ่มหนึ่งมีพระเอกเป็นผู้นำกลุ่ม มีคนเก่งกล้าหาญที่ดูเป็นที่พึ่ง มีหญิงและเด็กอ่อนแอเป็นภาระของกลุ่ม มีคู่รักที่คอยเป็นห่วงดูแลกันไว้เป็นตัวชงดราม่า มีตัวร้ายเห็นแก่ตัวคอยเอาตัวรอดให้คนดูเกลียดแล้วอยากให้มันตาย ๆ ไปซะ แล้วเรื่องดำเนินไปก็ค่อยกำจัดไปทีละคน ให้เดากันไปว่าจะเหลือใครรอด หนังเริ่มต้นแนะนำให้เรารู้จักซอกวู ผู้จัดการกองทุนที่เพิ่งเลิกกับเมีย เขาเป็นผู้ดูแลซูอา ลูกสาวที่รบเร้าอยากไปหาแม่ที่ปูซาน ซอกวูทนลูกสาวรบเร้าไม่ได้จึงยอมพาขึ้นรถไฟเที่ยวเช้าตรู่ไปปูซาน แล้วก็มีผู้โดยสารติดเชื้อซอมบี้ลอบขึ้นรถไฟมา เหตุการณ์จากนั้นก็เข้าสู่โหมดระทึกล้วน ๆ
ซอมบี้แต่ละเรื่องจะมีข้อแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ซอมบี้เรื่องนี้เป็นพันธุ์วิ่งเร็ว โดนกัดแค่ไม่กี่นาทีก็แปรสภาพแล้วเป็นซอมบี้ที่ดุและน่าเกลียดน่ากลัว เป็นหนังที่มีเลือดเยอะ มีฉากสะดุ้งบ้างแต่ไม่โหดไม่มีฉากกินคนควักตับไตไส้พุงให้เห็น แต่ทุกเรื่องก็จะต้องเขียนให้ซอมบี้มีจุดอ่อน เรื่องนี้ก็เช่นกันที่ดำเนินเรื่องไป ทั้งคนดูและเหล่าผู้รอดชีวิตต่างก็ต้องทำความรู้จักรูปแบบและนิสัยของซอมบี้พันธุ์นี้ไปพร้อม ๆ กัน Train To Busan นับได้ว่าเป็นหนังที่เขียนบทรังแกตัวละครได้ใจร้ายมาก ๆ เรื่องหนึ่ง หนังโยนสถานการณ์ร้าย ๆ มาใส่เหล่าผู้รอดชีวิตซ้ำแล้วซ้ำอีกจนสงสารแทน แต่ก็ล้วนแล้วเป็นสถานการณ์ที่ตื่นเต้นชวนลุ้นกันสุด ๆ ขนาดที่ว่ารู้ตัวอีกทีก็นั่งหลังไม่ติดเบาะซะแล้ว เป็นหนังที่ดึงให้อินไปกับตัวหนังได้มาก ดูแล้วเชียร์ให้วิ่งเร็ว ๆ เชียร์ให้คนนั้นตาย คนนี้รอด พอเห็นคนไหนอืดอาดชักช้าทำไมยังไม่วิ่งอีกก็ชวนหงุดหงิดไปกับหนังด้วย แต่หนังก็ยังลดความเครียดคนดูด้วยการเจือมุกเล็ก ๆ น้อย ๆ แทรกมาให้ยิ้ม ๆ ได้ และใส่ดราม่าแรง ๆ มาให้ครบรส และน่าจะได้ผลเพราะเห็นเบาะข้าง ๆ เช็ดน้ำตาแล้วเช็ดน้ำตาอีก
ถือได้ว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่คุณสมบัติเพียบพร้อม โปรดัคชั่นใหญ่สมจริง เมคอัพซอมบี้ดูน่ากลัว ซีจีสร้างซอมบี้ฝูงใหญ่ก็ดูสมจริงแม้จะเห็นได้ชัดว่ารับอิทธิพลของ World War Z มาแต่ก็เอามาประยุกต์ใช้ได้ไม่น่าเกลียดเกินไปนัก ดาราล้วนเล่นกันดี คิม ซูอัน ดาราเด็กที่มารับบท ซูอา แม้จะไม่น่ารักนักแต่ฝีมือการแสดงเกินตัว เล่นได้เก่งจริง ๆ ชอบการเขียนบทให้เหล่าผู้รอดชีวิตต้องใช้สมองกันในภาวะคับขัน คิดประยุกต์ของรอบตัวมาเล่นกับจุดอ่อนของซอมบี้ ชอบการสอดแทรกคุณธรรมเข้าไปในเรื่อง กับนิสัยใจแคบเห็นแก่ตัวของซอกวู เมื่อเจอสถานการณ์ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นก็โดนลูกสาวสอนให้หัดเห็นใจและช่วยเหลือคนอื่น กลายเป็นตัวละครหนึ่งที่มีพัฒนาการให้เห็นได้ในเวลา 90 นาที ถึงแม้จะเป็นหนังเกาหลี แต่ก็น่าภูมิใจครับ ที่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่าวันนี้อุตสาหกรรมหนังเอเซียเราทำได้ดีกว่าฮอลลีวู้ดแล้ว ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เราได้ดูหนังซอมบี้จากฮอลลีวู้ดทั้ง Pandemic และ Cell แต่กลับสนุกสู้หนังญี่ปุ่นอย่าง I Am Hero ไม่ได้ จนมาถึง Train To Busan ยิ่งแสดงให้เห็นเลยว่าคุณภาพหนังเอเซียไม่แพ้ฮอลลีวู้ดอีกต่อไปแล้ว ชูจั๊กกะแร้เชียร์ครับ บทเยี่ยม ดาราแสดงดี ซีจีเนียน โปรดัคชั่นใหญ่ คุ้มเงินคุ้มเวลาและต้องดูในโรงครับถึงได้อรรถรส หนังเปิดรอบพิเศษวันที่ 4 สิงหาคม ครับ 20.00 น. เป็นต้นไปครับ