Netflix ยื่นฟ้อง 2 นักประพันธ์เพลง เจ้าของผลงานเพลงที่นำเอาเรื่องราวจากซีรีส์ยอดนิยม ‘บริดเจอร์ตัน’ (Bridgerton) มาแต่งเป็นเพลงมิวสิคัล จนเป็นกระแสไวรัลบนแอปพลิเคชัน Tiktok ก่อนจะถูกรวบรวมเป็นอัลบัม ที่ได้รับรางวัลแกรมมี (Grammy Awards) สาขาอัลบั้มเพลงมิวสิคัลยอดเยี่ยมปีล่าสุด และกำลังจะต่อยอดไปเป็นคอนเสิร์ตมิวสิคัลเต็มรูปแบบที่เคยขายดีจนบัตร Sold Out
เมื่อวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Broadway World ได้รายงานว่า Netflix บริษัทสตรีมมิงรายใหญ่ และเจ้าของลิขสิทธิ์ออริจินัลซีรีส์ชื่อดังแนวโรแมนติกพีเรียด ‘Bridgerton’ ที่ได้รับความนิยมและเพิ่งจะมีซีซัน 2 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กำลังดำเนินการฟ้องร้อง อะบิเกล แบร์โลว์ (Abigail Barlow) และ เอมิลี แบร์ (Emily Bear) 2 คู่หูนักประพันธ์ ที่ใช้ชื่อร่วมกันว่า ‘บาร์โลว์แอนด์แบร์’ (Barlow & Bear) ในข้อหาที่ทั้งคู่ใช้เนื้อหาจากซีรีส์อันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก Netflix
ก่อนหน้านี้ในปี 2021 บาร์โลว์ นักร้องและนักเขียนเพลงวัย 20 ปี ได้ปล่อยคลิป ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบริดเจอร์ตันกลายเป็นมิวสิคัล ? ‘ (‘What if Bridgerton was a musical?’) ลงใน TikTok ซึ่งเป็นเพลงที่เธอแต่งขึ้นจากมุมมองของตัวละครในซีรีส์ Bridgerton ก่อนที่แบร์ นักแต่งเพลงและนักดนตรี วัย 20 ปีจะเข้ามาเป็นนักร้องร่วม และเป็นผู้เขียนทำนองเพลงแนวบรอดเวย์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ด ด้วยกระแสความฮิตของซีรีส์ และการตีความใหม่ในรูปแบบเพลงมิวสิคัล ทำให้คลิปของทั้งคู่กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังบน TikTok ซึ่งทั้งคู่ได้กล่าวในเว็บไซต์ส่วนตัวว่า ‘Netflix สนับสนุนและรู้สึกชื่นชมยินดี’ กับสิ่งที่พวกเธอทำ
หลังจากนั้น ทั้งคู่จึงได้ลงมือนำเอาเพลงต่าง ๆ ที่แต่งลงใน TikTok มาต่อยอดในรูปแบบอัลบั้มที่มีชื่อว่า ‘The Unofficial Bridgerton Musical’ (2021) ซึ่งเป็นการรวม 15 เพลงที่ทั้งคู่ทำเอาไว้ในรูปแบบของอัลบัมเพลงแนวมิวสิคัล ที่มีภาคดนตรีแนวคลาสสิก ผสมแนวป๊อปติดหู ออกวางจำหน่ายในวันที่ 10 กันยายน 2021 โดยทั้งคู่ใช้นามศิลปินว่า ‘Barlow & Bear’
อัลบั้มนี้ทำสถิติขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ตเพลงป๊อปของ iTunes สหรัฐอเมริกา มีการฟังบนสตรีมมากกว่า 45 ล้านครั้ง และยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นอัลบั้มเพลงที่มีต้นกำเนิดมาจาก TikTok อัลบั้มแรกที่สามารถคว้ารางวัลแกรมมี่อวอร์ด สาขาอัลบั้มเพลงมิวสิคัลยอดเยี่ยม (Best Musical Theatre Album) ไปครอง และ บาร์โลว์แอนด์แบร์ ก็เป็นเจ้าของสถิติผู้ชนะรางวัลสาขาอัลบั้มเพลงมิวสิคัลยอดเยี่ยมที่มีอายุน้อยที่สุด และยังเป็นเพียงผู้หญิงเพียงสองคน จากจำนวนผู้เข้าชิงรางวัลทั้งหมดอีกด้วย
นอกจากนี้ อัลบั้มของทั้งคู่ยังได้รับการต่อยอดเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในชื่อ ‘The Unofficial Bridgerton Musical, Live in Concert’ ที่เคยจัดขึ้นที่โรงละครเดอะเคนเนดีเซนเตอร์ (The Kennedy Center) ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เมื่อปีที่แล้ว สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ขายบัตรหมดเกลี้ยง และกำลังจะมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นอีกครั้ง ที่หอประชุมรอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้
คดีความฟ้องร้องที่ Netflix ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ซีรีส์ กำลังดำเนินการฟ้องทั้งคู่อยู่ในขณะนี้ ได้กล่าวหาทั้งคู่ว่า เพลงมิวสิคัลที่ได้แต่งขึ้นนั้น มีเนื้อหาที่คัดลอกมาจากซีรีส์อย่างชัดแจ้ง แม้ฝ่ายผู้ถูกฟ้องจะอ้างว่า บทเพลง ตัวละคร และบทสนทนาได้ถูกดัดแปลงให้มีความแตกต่างกับซีรีส์ต้นฉบับ (มีลักษณะเป็น Fanmade หรือเนื้อหาที่แฟน ๆ ทำขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจจากสื่อต้นฉบับ) แล้วก็ตาม แต่ในทางพฤตินัย เนื้อหาในอัลบั้มนี้ก็ถือว่ามีเค้าโครงเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ยังมีความคล้ายกับเนื้อหาในซีรีส์ต้นฉบับ
อีกทั้งยังมีข้อกล่าวหาว่า ทั้งสองคน และบริษัท Barlow & Bear ของพวกเธอ ได้ใช้เครื่องหมายการค้า Netflix ในการโปรโมทอัลบั้มนี้ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจว่าเป็นอัลบั้มที่มาจาก Netflix อย่างเป็นทางการ ทั้งที่จริงแล้วตัวอัลบั้มนี้ ไม่ได้รับอนุญาตจาก Netflix แต่อย่างใด และกล่าวว่าเสริมในรายละเอียดคดีความว่า บริษัทพยายามแจ้งเตือนแก่ผู้ถูกกล่าวหาหลายครั้งแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม จนกระทั่งตัวอัลบั้มออกวางแผงและได้รางวัลแกรมมี่
แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีรายละเอียดว่าทาง Netflix จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวนเท่าใด แต่เป้าประสงค์ในการฟ้องร้องของ Netflix ครั้งนี้ก็คือ การยับยั้งไม่ให้ทั้งคู่ผลิตสื่อใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับซีรีส์ Bridgerton อีกต่อไป และไม่ให้ทั้งคู่ดำเนินการเก็บรายได้จาก ‘The Unofficial Bridgerton Musical’ ในรูปแบบใด ๆ เพิ่มเติมอีก รวมทั้งคอนเสิร์ตมิวสิคัลที่ทั้งคู่กำลังจะจัดขึ้นนั้น ถือเป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับงาน ‘Queen’s Ball: “Bridgerton Experience’
ซึ่งเป็นงานอีเวนต์ที่ Netflix จัดขึ้นในรูปแบบงานบอล หรืองานเต้นรำ งานแสดงเครื่องแต่งกาย งานเต้นรำ พาเหรดนักแสดง และร้านขายของที่ระลึก ในธีมเดียวกับซีรีส์ ที่มีกำหนดการจัดขึ้นใน 6 เมืองทั่วโลก เพื่อให้แฟน ๆ ซีรีส์ได้สัมผัสประสบการณ์กันกับในซีรีส์ ซึ่งคอนเสิร์ตมิวสิคัลทั้งคู่ อาจถูกทำให้เข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนต์นี้ได้
โรส ลีดา เอลเลอร์ (Rosa Leda Ehler) ทนายความของ Netflix ได้ระบุในถ้อยความฟ้องร้องต่อคดีนี้ว่า เพลงมิวสิคัลเรื่องนี้ได้นำเอาทรัพย์สินทางปัญญามาจากซีรีส์ต้นฉบับโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ซีรีส์ Bridgerton นั้นเป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และความสำเร็จที่หาได้ยากยิ่งของศิลปินนับร้อยคน และทีมงาน Netflix
“และ Netflix เป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการสร้างบทเพลง ละครเพลง หรืองานรูปแบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์ Bridgerton Barlow & Bear จึงไม่มีสิทธิ์ และไม่สามารถนำลิขสิทธิ์อันมีค่าอันเกิดจากการทำงานอย่างหนักของผู้อื่น มาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ในขณะที่ ชอนดา ริมส์ (Shonda Rhimes) โปรดิวเซอร์ของซีรีส์ ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นผู้ชมตกหลุมรัก ซีรีส์ Bridgerton และพยายามค้นหาวิธีสร้างสรรค์เพื่อแสดงความขอบคุณ สิ่งที่ Barlow & Bear ทำตั้งแต่แรกนั้นเริ่มต้นจากการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสาน แต่แล้วก็กลายเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาอย่างโจ่งแจ้งเพียงเพื่อผลกำไรของทั้งคู่เท่านั้น”
และ จูเลีย ควินน์ (Julia Quinn) นักเขียนเจ้าของหนังสือนิยายต้นฉบับ ได้กล่าวถึงด้วยว่า “เมื่อฉันเห็น Barlow & Bear เริ่มแต่งเพลงและแบ่งปันกับแฟน ๆ ของพวกเธอใน TikTok ฉันรู้สึกยินดีและปลาบปลื้มใจ แต่อย่างไรก็ตาม การร้องเพลงบน TikTok กับการบันทึกเสียงและทำการแสดงเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าย่อมมีความแตกต่างกัน”
‘บริดเจอร์ตัน’ (Bridgerton) ซีรีส์แนวพีเรียดโรแมนติก สะท้อนภาพแวดวงสังคมไฮโซของลอนดอนยุคโบราณของ Netflix สร้างจากนวนิยายขายดีของ จูเลีย ควินน์ กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับกระแสผู้ชมและคำวิจารณ์อย่างท่วมท้นหลังการเปิดตัวซีซันแรกในเดือนธันวาคม 2020 ทำยอดสถิติผู้ชมสูงที่สุดในสัปดาห์แรกที่ฉายก่อนที่ซีรีส์ ‘Stranger Things’ (2016) จะโค่นแชมป์ นอกจากนี้ ซีรีส์ซีซันแรกยังคว้ารางวัลเอมมีอวอร์ด (Emmy Awards) ไปถึง 5 รางวัล
ในขณะที่ซีซัน 2 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดผู้ชมรวมในสัปดาห์แรกที่ฉายสูงถึง 627.11 ล้านชั่วโมง หลังจากเข้าฉายเพียง 5 วัน ทำลายสถิติซีซันแรกที่ทำยอดได้ 25.49 ล้านชั่วโมง ภายใน 28 วันแรกที่เข้าฉาย และได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Netflix แล้วว่าจะมีการสร้างซีซัน 3 และ 4 ต่อไปอย่างแน่นอน โดยในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการสร้างซีซันที่ 3 และบทสรุปเนื้อหาของซีรีส์จะมีความแตกต่างออกไปจากฉบับนวนิยาย
ที่มา: Reuters, The Verge, New York Times, Broadway World, Barlow&Bear