“ทำไมเธอดูไม่ค่อยเสียใจ
ทำไมกับเธอมันช่างง่ายดาย
ทำไมทุกช่วงเวลาไม่มีความหมาย
ทำไมถึงลืมง่าย”
หลายครั้งเมื่อความสัมพันธ์จบลง มักเกิดคำถามบ้า ๆ ขึ้นมาภายในใจ เป็นคำถามที่ค้างคาใจแต่ไร้คนตอบ
…
“ไหนวะ” บทเพลงล่าสุดจาก The Parkinson คือเสียงสะท้อนภายในใจที่กลั่นออกมาเป็นคำถามค้างคาถึงใครคนหนึ่งที่เคยเป็นคนรักกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะไปกลายเป็นคนแปลกหน้า และทำราวกับว่าความทรงจำที่มีร่วมกันนั้นแตกสลายหรือมลายหายไปโดยสิ้นเชิง ไม่เหลือร่องรอยของความเคยคุ้นของคนที่คุ้นเคยอีกต่อไป แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากเราที่ยังคงจดจำทุกสุ้มเสียง ทุกการเคลื่อนไหว ทุกลมหายใจไม่แปรเปลี่ยน
“ไหนว่าเธอจะรักกันทุกวัน
ไหนล่ะเธอที่ฝันไว้ด้วยกัน
ไหนบอกเธอจะมีแค่เพียงฉัน
ไหนไหนไหนคำไหนที่พูดมา
คำที่เธอหลอกกันอยู่ร่ำไป
เธอรู้ไหม ว่าฉันต้องทรมานเท่าไร
และสุดท้าย ก็ไม่มีทางจะลืมเธอ”
เพลงนี้ ‘กานต์’ นักร้องนำของวงเขียนจากประสบการณ์ของคนรอบตัวเมื่อวันหนึ่งเขาและเธอมีเหตุต้องลาจากกันแม้ในวันนี้อาจดูเหมือนแข็งแรงแต่ภายในใจนั้นยังคงมีคำถามที่มากจนกลายเป็นความโกรธ ไหนว่ารักนักหนาแล้วทำไมถึงมูฟออนเร็วไม่เห็นเสียใจเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถามตัวเองต่อไป
“เพลง ‘ไหนวะ’ เกิดขึ้นมาจากการที่พวกเราได้คุยกันว่าเราอยากแต่งเพลงเศร้าบวกกับแฟน ๆ เองก็ชื่นชอบเพลงแนวนี้จากเราจึงได้ลองแต่งเมโลดี้ขึ้นมาก่อน นั่งอยู่ที่เปียโนกดคอร์ดไปเรื่อย ๆ จนออกมาเป็นเพลงก็เอาไปให้วงฟังซึ่งทุกคนบอกไปในทางเดียวกันว่าชอบมากต้องเป็นเพลงนี้แหละ ผมจึงกลับไปเขียนเนื้อร้องให้เสร็จสมบูรณ์โดยเรื่องราวทั้งหมดผมเขียนมาจากประสบการณ์ของคนใกล้ตัวที่หลายคู่หลังจากที่เลิกรากันไปก็มักจะมีสักคนหนึ่งที่มูฟออนแต่อีกคนยังคงจดจ่ออยู่กับคำสัญญาเก่า ๆ ประกอบกับได้มาเห็นว่าเขานั้นเริ่มต้นใหม่แล้วมันก็ทำให้รู้สึกโกรธจนอยากถามว่า ไหนวะที่เคยบอกว่าจะอยู่ดูแลกัน ไหนวะที่บอกว่าจะไม่ทำให้เสียใจแล้วสุดท้ายก็ทิ้งกันเหลือแค่เราที่จมอยู่กับความเจ็บนี้ต่อไป”
เสียงร้องของกานต์ยังคงแหลมสูงบาดใจแต่ก็นุ่มถึงใจถึงอารมณ์ด้วยเหมือนกัน ประสานไปกับไลน์เบสนุ่มหนึบลุ่มลึกของ ‘โต’ ที่ย้ำด้วยจังหวะกลองที่แน่นหนัก หน่วงลึกในอารมณ์ความรู้สึกของ ‘เบียร์’ และคลอไปกับไลน์กีตาร์ของ ‘ต๊ะ’ ที่งดงามและมีจังหวะลีลาที่ผสานไปกับท่วงทำนองของ The Parkinson ได้อย่างเหนือชั้น แถมท่อนโซโลอันร้อนแรงและร้าวรานนั้นยิ่งทำให้บทเพลงนี้ตราตรึงอยู่ในใจอย่างแน่นนาน
มิวสิกวิดีโอถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลงได้อย่างอลังการ (ทางความรู้สึก) นำเสนอบนเรื่องราวรอยร้าวของความสัมพันธ์ของอดีตคนรักที่ได้มาพบกันอีกครั้ง ที่อีกคนดูมีความสุขต่างจากอีกคนที่ยังจมกับคำสัญญาที่เคยให้กัน ทุกช่วงฉาก ทุกการเคลื่อนไหว ทุกภาพที่เปลี่ยนไป ล้อไปกับทุกช่วงจังหวะของอารมณ์เพลงได้อย่างสนิทแนบแน่น
การถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพทำออกมาได้งดงามถึงอารมณ์ มีทั้งความงามและความเจ็บปวดผสานกันไป ยิ่งช่วงที่ท่อนดนตรีเข้มข้นปนรวดร้าว จังหวะลีลาของภาพทั้งการแสดง แสง สี และการตัดต่อที่ฉับไวได้ส่งให้อารมณ์ทะลักล้นเข้มข้นอย่างถึงที่สุด ก่อนจะจบลงด้วยภาพสุดท้ายที่พาให้เรานึกไปถึงภาพวาดอิมเพรสชันนิสม์สุดคลาสสิกอย่าง “A Bar at the Folies-Bergère” ของ เอดูอาร์ มาเนต์ (Édouard Manet) ชี้ชวนให้เราเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าดวงตาแฝงแววเศร้าคู่นั้นของเธอ เกิดขึ้นเพราะภาพที่ปรากฏในทิศทางเบื้องหน้าแววตาคู่นั้นเป็นภาพที่นำพาให้หัวใจของเธอเปลี่ยวเหงาและแตกสลายใช่หรือไม่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส