อะแมนดา ไซเฟร็ด (Amanda Seyfried) ออกมาโต้ตอบบทสัมภาษณ์ของ ฌอน บีน (Sean Bean) นักแสดงรุ่นพี่จาก ‘Game of Thrones’ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Times of London ว่าไม่เห็นด้วยกับการมีผู้กำกับฉากร่วมรัก (Intimacy Coordinator)
“ผมคิดว่าความเป็นธรรมชาติของการร่วมรัก มันได้ถูกทำลายโดยใครบางคนที่นำเรื่องเหล่านี้ มาเป็นเชิงเทคนิค มันทำให้ผมทำงานยากขึ้น เพราะมันจะเบี่ยงเบนสมาธิของผม” บีนให้สัมภาษณ์
ส่วนไซเฟร็ดได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Porter เอาไว้ว่า “การที่มีผู้กำกับฉากร่วมรัก มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ๆ และมันทำให้นักแสดงสามารถพูดในสิ่งที่ตัวเองพอใจหรือไม่พอใจเกี่ยวกับฉากเหล่านั้นได้”
นอกจากนี้ไซเฟร็ดยังได้ยอมรับว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจในการถ่ายฉากนู้ดตอนที่อายุ 19 อีกด้วย “ตอนที่ฉันอายุ 19 ปี ฉันเดินไปเดินมาโดยที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน แล้วฉันก็คิดว่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
“ตอนนั้นฉันอายุ 19 ปี และฉันก็ไม่ได้อยากทำให้ใครไม่พอใจ เพราะฉันก็อยากรักษาหน้าที่การงานเอาไว้ นั่นและเหตุผล”
ตำแหน่ง ‘Intimacy Coordinator’ หรือ ผู้กำกับฉากร่วมรัก มาจากกระแส #MeToo ได้มีการเปิดโปงเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในกองถ่ายหลายกอง รวมถึงการถ่ายฉากร่วมรักที่ไม่มีการอธิบายอย่างครอบคลุม ทำให้นักแสดงบางคนต้องจำใจเล่นฉากนั้นต่อหน้าคนหลายคนแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีการคุ้มครองสิทธิของนักแสดงที่มากขึ้นกว่าเดิม
ทำให้ในปี 2020 สมาคมนักแสดงแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ SAG-AFTRA ได้เผยแพร่คู่มือสำหรับ Intimacy Coordinator หรือ ผู้กำกับฉากร่วมรักประจำกองถ่าย เพื่อสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับฉากเซ็กซ์ ฉากนู้ด รวมถึงป้องกันการกำกับฉากเหล่านั้นไปในทางที่ไม่เป็นมิตรต่อนักแสดง ไปจนถึงการคุกคามทางเพศ และได้เผยแพร่แนวทาง 96 ข้อสำหรับการถ่ายฉากร่วมรักเพื่อให้นักแสดงรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับไซเฟร็ดเริ่มต้นอาชีพนักแสดงของเธอตอนอายุ 15 ปี ด้วยบทบาทสมทบในซีรีส์เรื่อง ‘As the World Turns’ และ ‘All My Children’ ก่อนจะเริ่มแสดงหนังในปี 2004 ในเรื่อง ‘Mean Girls’ หลังมีชื่อเสียงจากซีรีส์ ‘Big Love’ ในปี 2006 เธอก็ได้รับบทนำในหนังต่าง ๆ มากมาย เช่น ‘Jennifer’s Body’ , ‘Chloe’ , ‘Dear John’ , ‘Veronica Mars’ และ ‘Letters to Juliet’
ที่มา: Insider, Deadline, The Momentum
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส