กรูท เป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของเหล่าการ์เดียนส์ออฟเดอะกาแล็กซี (Guardians of the Galaxy) เขาร่วมรบกับทีมตั้งแต่สงครามในแซนดร้า ร่วมช่วยเหลือสตาร์ลอร์ดจากดาวของอีโก้ส์ สร้างด้ามขวานให้ธอร์ และยังเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ เมื่อเหล่าเวนเจอร์ทำสงครามกับธานอส 

เชื่อเลยว่าคนดูอย่างเรานั้นเห็นกรูทมาแทบจะทุกมุมกันอยู่แล้ว ทั้งด้านเก่ง เท่ เกรียน และ น่ารัก โดยเจ้าซีรีส์ I Am Groot ในดิสนีย์พลัสก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ตอกย้ำความน่ารักและความเกรียนของเจ้ากรูท จนทำให้ผู้ชมนั้นอดหลงรักแทบไม่ไหว และไหน ๆ ซีรีส์ก็ได้ฤกษ์ฉายแล้ว เราจึงหยิบเรื่องน่ารู้ของเจ้ากรูทมาเล่าซะเลย

Groot พากย์เสียงโดย วิน ดีเซล

ใครจะคิดล่ะว่า พี่วิน ดีเซล(Vin Diesel) ผู้รับบทนักซิ่งหน้าดุอย่าง ดอม ในหนังตระกูล Fast & Furious นั้น จะพากย์ตัวละครที่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างเจ้ากรูทได้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปในหนัง Guardians of the Galaxy ภาคแรกนั้น กรูทก็ไม่ได้มีขนาดตัวเล็กแบบนี้หรอกนะ เพราะกรูทในหนังภาคแรกยังเป็นพี่เบิ้มตัวเต็มวัย มีขนาดร่างกายที่สูงใหญ่อยู่ ฉะนั้นแล้วด้วยเนื้อเสียงที่แหบแต่ทุ้ม ก็ทำให้ดีเซลถูกเลือกให้มาพากย์เจ้ากรูทในหนังภาคแรก 

แม้ว่ากรูทจะพูดอยู่แค่ 3 คำ แต่การพากย์ก็ไม่ง่ายหรอกนะ เพราะวิน ดีเซลต้องใส่ขาเทียมเพิ่มส่วนสูงเพื่อให้เข้าถึงบทบาท อีกทั้งคำว่า “ไอ แอม กรูท (I AM GROOT)” ที่กรูทพูดออกมาแต่ละครั้ง ก็สื่ออารมณ์ไม่เหมือนกันอีก ซึ่งดีเซลก็ต้องพากย์ใหม่ทุกครั้ง โดยใน Guardians of the Galaxy 1 นั้น ดีเซลพากย์คำว่า “ไอ แอม กรูท” ไปมากกว่า 1000 ครั้ง และเขายังพากย์ “ไอ แอม กรูท” เพิ่มไปอีกอย่างน้อย 15 ภาษา เรียกได้ว่าการพากย์กรูทครั้งหนึ่งก็ใช้พลังงานไม่น้อยไปกว่านักแสดงคนอื่นเลย

แม้ว่าในภาคต่อมากรูทจะเปลี่ยนไปเป็นวัยเด็กและวัยรุ่นแล้ว แต่กรูทก็ยังพากย์โดยวิน ดีเซล อยู่เช่นเคย และเสียงเล็ก ๆ ที่เราเห็นกรูทพูดนั้นไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วย แต่เป็นการที่ดีเซลนั้นดัดเสียงตัวเองให้เล็กตามไปด้วย ซึ่งในแอนิเมชันเรื่อง I Am Groot นี้ ก็ยังได้เฮียแกกลับมาพากย์กรูทอยู่เหมือนเช่นเคย (ซึ่งแน่นอนก็ต้องบีบเสียงให้เล็กลงนั่นแหละ ฮาาา)

Groot ใน Guardians of the Galaxy ภาคแรกกับ I Am Groot เป็นคนละตัวกัน

หากใครได้ดูหนัง Guardians of the Galaxy ภาคแรกแล้วละก็ เราก็จะเห็นซีน We Are Groot ที่พี่เบิ้มกรูทนั้นสละชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัว และร็อคเก็ต แร็กคูนก็ได้เอาซากของกรูทมาปลูกในกระถางใหม่ ซึ่งเราจะเห็นเจ้ากรูทน้อยที่งอกออกมานี้มีชีวิตขึ้นมา แต่ทว่า เจมส์ กันน์ (James Gunn) ผู้กำกับก็ได้ยืนยันแล้วว่าเจ้ากรูทน้อยเป็นคนละตัวกับพี่เบิ้มที่ตายไป และเจ้ากรูทน้อยนี่แหละก็เป็นตัวเอกของเรื่องราวในมินิซีรีส์อย่าง I Am Groot ล่ะ

รอยต่อหลังจาก Guardians of the Galaxy ภาคแรก

ในช่วงเอนด์เครดิตของ Guardians of the Galaxy ภาคแรก เราจะเห็นว่าเจ้ากรูทน้อยหรือ Baby Groot นั้นได้ลุกออกมาเต้นในกระถางแล้ว ซึ่งเจ้ากรูทที่อยู่ในกระถางนี้ ก็เป็นที่มาของตอน Groot’s First Steps ซึ่งเนื้อหาในตอนนี้ก็จะเล่าว่ากรูทนั้น หลุดออกมาจากกระถางได้อย่างไร แต่ทว่าความน่าสนใจในตอนนี้ก็ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะในฉากเผยให้เราได้เห็นผล Yarrow Root วางไว้ข้าง ๆ ซึ่งเจ้านี่ก็คือผลไม้ที่เนบิลลานั้นอยากกินแต่กาโมล่ากับแดร็กก็เตือนว่ามันยังไม่สุก ทว่าท้ายที่สุดเนบิวลาก็กินอยู่ดี และเป็นที่มาของฉากคายทิ้งในตำนาน 

นก Vyloo ใน Guardians of the Galaxy Vol. 2

ในตอน The Little Guy เราจะเห็นได้ว่าเหล่าการ์เดียนไปทำภารกิจอยู่บนดาวดวงหนึ่ง ซึ่งพวกเขาจอดยาน Milano ทิ้งไว้ และเจ้ากรูทก็ออกไปสำรวจดวงดาว เล่นสนุกโดยการสร้างบ้านต้นไม้ อยู่ ๆ กรูทก็โดนนกตัวหนึ่งมาขัดจังหวะความสนุก และถ้าสังเกตดี ๆ เจ้านกตัวนี้คือนก Vyloo ที่เคยโผล่มาใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 นั่นแหละ

เอเลียน Grunts

TV show is connected to each other but at

เรายังคงอยู่กับตอน The Little Guy อยู่ และหากใครได้ดูก็จะเห็นเอเลียนตัวเล็กสีฟ้า ๆ ที่ปรากฏออกมา โดยเจ้าเอเลียนนี้ชื่อว่า Grunts เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ุขนาดเล็ก ที่หยิบยืมมาจากคอมิกชื่อว่า Giant-Size Defenders ซึ่งตีพิมพ์ในช่วงยุค 70s โดยสำนักพิมพ์มาร์เวลคอมิกส์

การมารับเชิญของผู้กำกับ

เจมส์ กันน์ ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy

ในตอน Groot’s Pursuit เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 โดยในตอนนั้นกรูทอยู่บนยาน Eclector ของยอนดูซึ่งถูกกลุ่ม Ravengers ยึดไว้ เหตุการณ์ในตอนนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่กรูทกำลังเดินสำรวจยาน โดยเอานาฬิกาข้อมือมาเป็นไฟฉายไว้บนหัว ขณะที่เขากำลังเดินสำรวจยานเรื่อย ๆ กรูทก็เหยียบเข้ากับกล้วยสีม่วง และในตอนนั้นก็มีเสียงเตือนจากนาฬิกาดังขึ้นมา ซึ่งเจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ เจมส์ กันน์ ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy นั่นเอง

Gangalorian Squirrel Bird

ในตอน Groot Takes A Bath นั้น เราจะเห็นยาน Milano ของเหล่าการ์เดี้ยนจอดที่ดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นป่าเขียวชอุ่ม ใดยในตอนนี้เจ้ากรูทก็เดินสำรวจในป่า และเขาก็พบเข้ากับโคลน พอกรูทพอกตัวด้วยโคลน เขาก็พบว่าเจ้าโคลนนี้ได้งอกใบอ่อนขึ้นมาบนร่างของเขา ทำให้ได้เราเห็นว่าโคลนช่วยให้ใบไม้ในตัวของกรูทงอกขึ้นมาได้ และเจ้านกที่หน้าตาคล้าย ๆ ม็อกกิ้งเบิร์ดนี้ก็เป็นตัวออริจินอลที่ไม่มีในคอมิก โดยทาง Marvel ตั้งชื่อให้มันว่า Gangalorian Squirrel Bird เพราะหน้าตามันเหมือนกับนกและกระรอกผสมกัน

ความทรงจำของพี่เบิ้ม

ในตอน Magnum Opus ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายนั้น ได้ปรากฏให้เราเห็นยาน Eclector ของยอนดูอีกครั้ง โดยภายในตอนเราจะเห็นกรูทกำลังแบกเป้อยู่ใบหนึ่ง และถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่าเป้ใบนี้คือเป้ที่ ปีเตอร์ ควิลล์ แบกไว้เมื่อสมัยยังเด็กในหนังภาคแรก ซึ่งใจความสำคัญของตอนนี้ก็เป็นตอนที่ทำให้เราได้เห็นตัวละครรับเชิญอย่าง ร็อคเก็ต แร็กคูน โผล่มาให้หายคิดถึง และตอนนี้ก็ยังเผยให้เราได้เห็นไอเทมที่อยู่บนยานอย่างแบตเตอรี่ Anulax Battery และรองเท้าบูตของควิลล์ด้วยล่ะ

ในตอนท้ายจะเผยให้เห็นรูปวาดของเจ้ากรูทน้อยที่กำลังวาดภาพกรูทยักษ์โอบกอดครอบครัวของเขา ซึ่งคล้ายคลึงกับฉาก We Are Groot ในหนัง Guardians of the Galaxy ภาคแรก โดยฉากนี้ก็แสดงให้เราเห็นว่าแม้พี่เบิ้มในภาคแรกจะตายไป แต่ความทรงจำของเขาก็ถูกส่งต่อมาถึงเจ้ากรูทน้อยตัวนี้ เป็นซีนที่ดูแล้วอบอุ่นเสียจริง

เนื้อหาภาคนี้อาจไม่ถูกจัดให้อยู่ในจักรวาลหลัก

ถึงแม้ว่าเรื่องราวในซีรีส์ I Am Groot จะผสานเข้ากับรอยต่อของเนื้อหา Guardians of the Galaxy ใน MCU ได้อย่างดี ซึ่งทางผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ของซีรีส์เรื่องนี้ก็พยายามให้มันอยู่ในรอยต่อของจักรวาล แต่ทว่าก่อนซีรีส์จะฉาย เจมส์ กันน์ ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy ก็ได้บอกเป็นนัย ๆ ว่า เนื้อหาในเรื่องนี้มันอาจจะไม่ใช่รอยต่อในเวอร์ชันของเขา ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าทาง MCU จะนำรอยต่อนี้เข้าสู่จักรวาลหลักหรือไม่ 

แต่ไม่ว่าซีรีส์ I Am Groot จะอยู่ในจักรวาลไหม เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้คือหนึ่งในการทดลองที่ดี ที่จะพาคนดูไปเห็นมุมมองของตัวละครอื่นใน MCU ที่นำเสนอออกมาในรูปแบบแอนิเมชัน ไม่แน่ว่าหากซีรีส์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับที่ดี เราอาจเห็นตัวละครอื่น ๆ โผล่มาเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันเล็ก ๆ แบบใน I Am Groot ก็เป็นได้

ที่มา: dmtalkies, startefact, sideshow

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส