อย่างที่เราทราบกันดีว่า ไอดอลมีความสามารถในการร้อง และเต้นที่แสดงถึงความสดใสมาโดยตลอด
แต่ทว่า โปรเจกต์ INDY CAMP ได้ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเธอนั้นก็มีความสามารถอีกด้านนึงที่น่าสนใจอยู่ไม่แพ้กันเลย
เหล่าเมมเบอร์จากวง BNK48 และ CGM48 ก็ได้ถูกคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมโปรเจกต์ INDY CAMP ในการสร้างสรรค์เพลงในแบบของเธอเอง จากการโปรดิวซ์ของ รัฐ พิฆาตไพรี (รัฐ Tattoo Colour)
จนได้ 6 บทเพลงอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคนที่ปล่อยออกมาให้เหล่าผู้ฟังได้เสพกันเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว
แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาที่พวกเธอได้ออกมาแสดงบทเพลงทั้งหมดผ่านงาน INDY CAMP FESTIVAL CONCERT คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกที่แฟนคลับทุกคนรอคอยมาเนิ่นนาน ณ ช่างชุ่ย อาคารเอนกประสงค์ เพื่อส่งมอบความสุขให้ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
“Time has passed Look at the people around me The words I heard before What does it mean?”
เสียงเพลง Heard (เคยได้ยิน) จากฝีมือของปีโป้ อดีตสมาชิกของโปรเจกต์นี้ ที่ได้จบการศึกษาออกไปแล้ว ถูกเลือกเป็นเพลงเปิดการแสดง เพื่อเป็นข้อความระลึกถึงเธอจากเหล่าสมาชิกที่ยังเหลืออยู่ แนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ชมอย่างสุดเหวี่ยงไปพร้อมกับการเล่นดนตรีกันแบบสด ๆ ของ วี-วีรยา จาง (กลอง) , แพนด้า-จิดาภา แช่มช้อย (เบส) , สตางค์-ตริษา ปรีชาตั้งกิจ (คีย์บอร์ด), ฟอร์จูน-ปัณฑิตา คูณทวี (กีตาร์ไฟฟ้า), มามิ้งค์-มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์ (กีตาร์ไฟฟ้า)
ต่อด้วยการแสดงเดี่ยวของแต่ละคน เริ่มจากแพนด้ากับเพลง บีดี้บั๊บ (บิ๊บบีดี้บั๊บบีดี้บู)
“อยากเสกให้เธอหายไป บิ๊บบีดี้บั๊บบีดี้บู
เปลี่ยนเป็นสกู้บบี้ดู วิ่งไปอยู่อย่างนั้น
จะไม่ใกล้เธอไปกว่านี้ไม่มีวัน
เพราะฉันเป็นฉันแบบฉันอยู่อย่างนี้”
เพลง Hip Hop – Pop แนวรักแสนซนที่ทำให้ผู้ฟังได้ยิ้มกันด้วยความสนุกสนาน และต่อด้วยเพลง จันทร์เจ้า ของ Slot Machine ที่ได้แสดงเนื้อเสียงของเธออันเป็นจุดเด่น ออกมาได้อย่างทรงพลังเลยทีเดียว
“สุดท้าย…คงทำได้แค่รอใช่ไหม
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลิกรู้สึกกับเขา
ที่ทำได้เพียงแค่…รอ”
การแสดงชุดถัดมา จากฟอร์จูนที่ขับขานเพลง คงทำได้แค่รอ (last thing i can do) ออกมาอย่างรวดร้าว ทำให้บรรยากาศทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยความดำดิ่งและเศร้าโศกจากบทเพลงของเธอทันที
และขยี้อารมณ์กันต่อด้วย It’s me (เพลงประกอบภาพยนตร์สารคดี One Take)
ปิดท้ายการแสดงของเธอไปอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกโหยไห้เช่นเดียวกัน
“ต้องกดปุ่มไหน ปุ่มไหน ปุ่มไหน ให้เธอมารักกัน
บอกได้ไหม ได้ไหม ได้ไหม ถ้าเธอมีใจให้กัน
ฉันต้องทำอะไร บอกทีฉันต้องทำอย่างไรนะเธอ”
สตางค์ก้าวออกมาดึงอารมณ์ความเศร้าของผู้ชมทิ้งไป และกลับมาสู่ความสดในอีกครั้งจากบทเพลง สถานะห่วง และเธอก็ได้เปลี่ยนชุดเป็นสีขาวเพื่อเล่นบทเพลงพิเศษ ที่เธอพึ่งแต่งเสร็จใหม่ ๆ มาแสดงเป็นครั้งแรก กับเพลง ไปทะเล ให้ผู้ชมได้ล่องลอยไปกับเกลียวคลื่นจากเสียงร้องและฝีมือการเล่นอูคูเลเล่ของเธอ
พร่ำเพ้อ (Bubbles in the sky) บทเพลงของสาวอินดี้จากมาร์มิ้ง เล่นขึ้นพร้อมกับฟองสบู่ที่เธอเป่าก่อนจะขึ้นไปร้องเพลงนี้บนเวทีพร้อมสะกดผู้ชมไปการกับการเคลื่อนไหวที่ล่องลอยของเธอตลอดทั้งเพลงเลยทีเดียว
“ที่เธอเห็นอยู่ตรงนั้น มันคือแก้วชาร้อน
แต่รู้อะไรบ้างไหม สิ่งที่เธอคิดมันอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น”
เพลง It’s Life (เพลงประกอบภาพยนตร์สารคดี One Take) ถูกมาร์มิ้งเลือกมาสร้างจังหวะสนุก ๆ ให้ผู้ชมโยกหัวตามไปพร้อม ๆ กับเธอได้เป็นอย่างดี
“สายลมและแสงดาวช่วยพัดพาความลับข้างใน
ที่ฉันไม่เคยจะพูดออกไปให้เธอรู้
ขอเพียงแค่เธอหันมาและกุมมือฉันไว้
ฉันขอสัญญาว่าเธอจะไม่เสียใจ”
ดวงดาวจากไฟแฟลชของผู้ชมทั้งฮอลล์ถูกโบกไปมา คลอไปพร้อมกับเสียงร้องของวี กับเพลง Beg the Stars (อยากขอดาว) และต่อด้วยบทเพลง She likes spring, I prefer winter ของศิลปิน slchid เพิ่มบรรยากาศความคลั่งรักในสไตล์ของวีกับผู้ชมแบบ chill groove
และทุกคนกลับขึ้นมาบนเวที เพื่อร่วมส่งท้ายโชว์ด้วยเพลง Super Car Care ของTattoo Colour บทเพลงวสนุก ๆ ที่ถูกเลือกมาเพื่อแสดงความขอบคุณโปรดิวเซอร์รัฐที่คอยช่วยเหลือพวกเธอในการผลิตผลงานของแต่ละคนออกมา ทำให้ทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาก่อนจะปิดการแสดงไปอย่างแสนประทับใจผู้ชม
หลังจากจบการแสดง ทั้ง 5 สาว พร้อม ครูปิ๋ม-เสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ ชิไฮนิน (ผู้จัดการวง BNK48) ก็ได้มาบอกเล่าความรู้สึกถึงโชว์ที่พึ่งจบไปสดๆร้อนๆ
มามิ้งค์ พูดถึงแฟนคลับก็คงต้องขอบคุณมาก ๆ เพราะว่าอยู่ให้กำลังใจมาตั้งแต่แบบเริ่มทำโปรเจกต์มา บางทีเราก็มีเหนื่อย มีท้อ บางทีเราก็ไปเล่าให้เขาฟังในไลฟ์ เขาก็จะคอยให้กำลังใจ เชียร์อัพอยู่เสมอ แล้วพอเพลงออกมาทุกคนก็แบบว่าดีใจกับเรา แล้วก็ชื่นชอบก็รู้สึกขอบคุณแล้วก็ดีใจมาก ๆ
ฟอร์จูน พูดถึงแฟนคลับ ก็ขอบคุณมาก ๆ เพราะว่าเขาก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยังก๊อง ๆ แก๊ง ๆ จนวันนี้มีเพลงออกมาเป็นรูป เป็นชิ้น เป็นอันก็ต้องขอบคุณมาก ๆ ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นในตัวหนูแล้วกัน ว่าหนูจะสามารถเป็นศิลปินได้ก็วันนี้เต็มที่มาก ๆ แล้ว ขอบคุณที่เป็นแรงผลักดันให้หนูมาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณ
วี ขอบคุณเหมือนกัน จะบอกว่าหนูไม่ยอมเล่นเพลงอยากขอดาวในไลฟ์มานานมากแล้ว เพราะว่าอยากให้มาฟังที่นี้ วันนี้ก็ได้เล่นให้ทุกคนฟัง ก็หวังว่าทุกคนจะชอบ แล้วก็ขอบคุณที่อยู่เป็นกำลังใจ แล้วก็ให้กำลังใจกันมา ตั้งแต่หนูยังเป็นเด็กติดเกมคนนึง ที่ไม่สนใจด้านดนตรีอะไรขนาดนั้น ขอบคุณมาก ๆ ที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงวันนี้ ก็จริง ๆ สิ่งที่หนูทำอยากให้ทุกคนภูมิใจในตัวหนู ก็หวังว่าทุกคนจะชอบ
สตางค์ อยากจะบอกว่าถ้าไม่มีทุกคนที่เป็นแฟนคลับตรงนี้ ก็คงจะไม่มีหนูและทุก ๆ คนตรงนี้ ที่มายืนตรงนี้ ก็อยากขอบคุณจริง ๆ ที่ทำให้พวกเรา ได้ซัปพอร์ตเราทำให้พวกเราได้มีพื้นที่แบบนี้ แล้วก็ดีใจมากเลยวันนี้ได้รับการตอบรับดีมาก แล้วหนูดีใจมากจริง ๆ ที่ทุกคนมีความสุขไปกับเพลงของพวกเรา ขอบคุณมาก ๆ ขอบคุณที่สนับสนุนพวกเรา
แพนด้า ทั้งดีใจ ขอบคุณมาก ๆ เลย เพราะว่ามันเป็นส่วนที่ทุกคนไม่สามารถเห็นเราได้ง่าย ๆ ในพาร์ตแบบนี้ เนื่องจากทีแรกพวกเราก็คือไอดอล วงกรุ๊ป BNK 48 และ CGM 48 ถือว่าเป็นอีกด้านนึงที่รู้สึกภูมิใจที่ได้ให้แฟนคลับเห็นว่าพวกเรา BNK มีความสามารถมากกว่าที่การเป็นไอดอลจริง ๆ ทุกคนต่างมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง และมีความเป็นตัวเองที่ชัดเจนมาก ก็เลยอยากจะขอบคุณอีกครั้งนึง ที่คอยดูแลพวกเรามาตลอดของวง 48 ทั้ง 2 วง ซึ้งใจมาก ดีใจมาก ๆ ขอบคุณมากที่อยู่ด้วยกัน คอยเป็นกำลังใจให้กันตลอดตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์มาก็ฝากด้วย
ครูปิ๋ม จากผลงานของรุ่น 1 INDY CAMP รุ่น 1 ที่ทำเอาไว้อย่างดีเยี่ยม ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านน้ำตา ผ่านเสียงหัวเราะ จนออกมาเป็นชิ้นงาน ในวันนี้ครูก็อยากจะประกาศให้ทุกคนทราบว่าเราจะมี INDY CAMP 2 อย่างแน่นอน อย่างที่บอกรุ่น 1 ของเรา ที่เราเห็นเป็นชิ้นงานแล้ว อาจจะมีการต่อยอด ซึ่งในรูปแบบต่าง ๆ เดี๋ยวเรามารอดูกัน ก็ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นความที่คมชัดขึ้น แล้วก็เป็นการ support จากบริษัทที่ต้องการจะเห็นเด็ก ๆ ของเราเติบโตไปในรูปแบบต่าง ๆ แล้วก็ชัดเจนขึ้น แล้วก็ไปเป็นศิลปินมืออาชีพในวงการต่อ ๆ ไป
เสร็จสิ้นกันไปแล้วกับการแสดงความสามารถในอีกเส้นทางหนึ่งของเหล่าไอดอลสาว BNK48และCGM48 ที่เปิดมุมมองใหม่ให้กับผู้ชม ได้โลดแล่นไปกับความเป็นตัวตนจากข้างในของพวกเธอ ทำให้พวกเราคาดหวังและรอคอยที่จะได้ยินผลงานเพลงใหม่ ๆ จากพวกเธอ และ สมาชิกรุ่นที่2 ของโปรเจกต์ Indy Campกันต่อไปในอนาคต
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส