หากให้นึกถึงบทเพลงที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงน่าจะโปรดปราน หลายคนอาจจะพุ่งเป้าไปที่ผลงานของ เบโธเฟน (Beethoven) โมสาร์ท (Mozart) บาค (Bach) หรือเพลงฮิตยุค 40s ช่วงสมัยที่พระองค์ทรงพระเยาว์เป็นแน่ แต่อันที่จริงแล้วควีนเอลิซาเบธผู้ล่วงลับ ถือเป็นแฟนตัวยงของดนตรีหลากหลายแนวโดยเฉพาะเพลงจากมิวสิคัล
ในสารคดี BBC เรื่อง ‘Our Queen: 90 Musical Years’ ได้สะท้อนความหลงใหลในเสียงดนตรีของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ผ่านการให้ข้อมูลของคุณหญิงเอลิซาเบธ แอนสัน (Lady Elizabeth Anson) ผู้เป็นพระสหายและญาติของพระองค์
ซึ่งเลดี้แอนสันเปิดเผยว่า ควีนเป็นคนที่ชอบฟังจากละครเพลงอย่างมาก แถมยังเป็นนักเต้นที่เก่งอีกด้วย
“ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ชอบละครเพลงอย่าง ‘Showboat’, ‘Oklahoma!’ และ ‘Annie Get Your Gun’ ท่วงทำนองเหล่านี้ มักติดอยู่ในหัวเธอและชวนให้เธอได้เต้นอยู่บ่อย ๆ ควีนเป็นนักเต้นที่ยอดเยี่ยม เธอมีจังหวะในการเต้นที่ยอดเยี่ยมด้วย”
อีฟ พอลลาร์ด (Eve Pollard) นักข่าวและพิธีกรของรายการดังกล่าว ได้จำกัดความรสนิยมทางดนตรีของควีนว่า เป็นคนที่ชอบฟังเพลง ‘กระแสหลัก’ และนอกจากจะทรงโปรดเพลงจากมิวสิคัลแล้ว พระองค์ยังทรงโปรดเพลงสวดโบราณ เพลงบัลลาดของสกอตแลนด์ และที่น่าจะเซอร์ไพรส์หลาย ๆ คนก็คือ พระองค์ทรงโปรดเพลง “California Girls” ของ The Beach Boys รวมทั้งเพลงของ เอลตัน จอห์น (Elton John) ด้วย
เลดี้แอนสัน เสริมว่าควีนเอลิซาเบธเป็นคนที่มีดนตรีในหัวใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และในอดีตพวกเธอมักจะชอบร้องเพลงด้วยกันบ่อยครั้งที่พระราชวังเคนซิงตัน
“เราร้องเพลงด้วยกันที่พระราชวังเคนซิงตันกันบ่อยมาก ๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย พอช่วงหลังอาหารเย็นเรามักจะเปิดแผ่นเสียงและร้องเพลง “Doing the Lambeth Walk” ด้วยกัน ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพระองค์เสมอ”
ควีนเอลิซาเบธนั้นเติบโตมากับเพลงของวงโยธวาทิต และฝึกร้องประสานเสียงเพลงยุคมาดริกาล (Madrigal) มาตั้งแต่สมัยทรงพระเยาว์ นั่นจึงทำให้พระองค์มีความรู้เป็นพิเศษเกี่ยวกับดนตรีในลักษณะนี้ อีกทั้งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ควีนเอลิซาเบธทรงมีพระปรีชาสามารถในการแยกแยะโน้ตเสียงต่าง ๆ ได้ด้วย หรือที่เราเรียกกกันว่า ‘pitch-perfect’
ใน ’Our Queen: 90 Musical Years’ ยังได้เปิดเผย 10 เพลงที่พระองค์ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากช่วงยุค 1940s ไล่ยาวจนถึงปัจจุบัน มีตั้งแต่เพลง “The White Cliffs Of Dover” ของ วีรา ลินน์ (Vera Lynn) “Cheek to Cheek” เวอร์ชันของ เฟรด แอสแตร์ (Fred Astaire) “Regimental March Milanollo” ผลงานการประพันธ์ของ โยฮันน์ วาเลนติน แฮมม์ (Johann Valentin Hamm) คอมโพสเซอร์ชาวเยอรมัน “Anything You Can Do (Annie Get Your Gun)” ของ โดโลเรส เกรย์ (Dolores Gray) กับ บิล จอห์นสัน (Bill Johnson) “Sing” ของ แกร์รี บาร์โลว์ (Gary Barlow) อดีตนักร้องวง Take That ที่แสดงร่วมกับวง The Commonwealth Band Feat. The Military Wives
“Leaning on a Lamp-Post” ของ จอร์จ ฟรอมบี (George Formby) รวมถึง 2 เพลงฮิมอย่าง “The Lord is My Shepherd” และ “Praise, My Soul, The King Of Heaven” โดยผลงานหลังเป็นเพลงที่มีความสำคัญกับพระองค์มาก เพราะนอกจากจะเป็นเพลงที่กษัตริย์จอร์จที่ 4 พระบิดาของพระองค์จะทรงโปรดปรานมาก ๆ แล้ว เพลงนี้ยังถูกใช้ในงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระองค์กับเจ้าชายฟิลิป เมื่อปี 1947 ด้วย
เรื่องราวของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ถือเป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่า ดนตรีนั้นเป็นภาษาสากล ที่มีอำนาจในการทำลายกำแพงด้านเพศ วัย ภาษา หรือแม้กระทั่งผสานความแตกต่างด้านชนชั้นเข้าด้วยกัน เพราะจะเป็นราชวงศ์หรือชาวบ้านธรรมดา ดนตรีก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจของทุกคนได้เสมอ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส