หลังจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Warner Bros. และ Discovery ควบรวมกิจการเป็น Warner Bros. Discovery ภายใต้การนำของ CEO ใหม่ เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) ล่าสุดได้มีการประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 100 คนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กันยายน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการลดขนาดแผนกโฆษณาของบริษัท
การปรับลดขนาดนี้คาดว่าจะลดพนักงานมากถึง 30% หรือประมาณ 1,000 ตำแหน่ง สำหรับแผนกโฆษณา เหตุเพราะว่าแผนกนี้หลังควบรวมกิจการมีความซ้ำซ้อนมากมายในการทำงานเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ที่รู้สถานการณ์ภายในบอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะโดนเลิกจ้าง และมีคนจำนวนหนึ่งสมัครใจลาออกด้วยการเจรจาข้อตกลง ส่วนคนที่เหลือก็เกษียณตามปกติ
การเลิกจ้างพนักงานล่าสุดนี้เป็นไปตามเป้าหมายในการประหยัดต้นทุน 3,000 ล้านเหรียญของทีมผู้บริหารในช่วง 2 ปีแรกหลังควบรวมกิจการ นอกจากจะมีการเลิกจ้างแล้ว ก่อนหน้านี้ได้ยกเลิกโปรเจกต์ ‘Batgirl’ มูลค่า 90 ล้านเหรียญไปเพราะมองว่าไม่คุ้มค่าในการลงทุน
รวมถึงสตรีมมิง HBO Max ที่ทาง Warner Bros. Discovery เป็นเจ้าของก็ได้มีการถอดภาพยนตร์บางเรื่องไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับ ซีรีส์ ‘Steam Street’ ที่หายไปกว่า 200 ตอน และซีรีส์อื่น ๆ บางเรื่องอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 2 ที่ Warner Bros. Discovery ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างซึ่งรวมถึงการด้อยค่าของเนื้อหาอยู่ที่ 496 ล้านเหรียญ และการตัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเนื้อหา 329 ล้านเหรียญ เป็นผลมาจากการทบทวนเชิงกลยุทธ์ของเนื้อหาหลังจากการควบรวมกิจการ
ที่มา: VARIETY , comicbook , sec.gov
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส