นับเป็นอีกหนึ่งในอีเว้นต์ใหญ่ของกลุ่มไอดอล48ไทย ที่ต้องเลื่อนออกไปเป็นเวลาปีกว่าเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนในปีนี้ บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (iAM) ต้นสังกัดศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 + ศิลปินไอดอลหญิงวง CGM48 ได้กลับมาจัดกิจกรรมกีฬาสีประจำปี 2022 สไตล์ 48 GROUP THAILAND อีกครั้งหนึ่ง ณ ธันเดอร์โดม ฮอลล์ เมืองทองธานี ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา สมการรอคอยของทุกคน ในชื่องาน “กีฬาสีอนุบาลหนูน้อย48 2022” ที่มีจำนวนเมมเบอร์ลงแข่งขันกันทั้งหมด 77 คน ซึ่งมีสมาชิกหน้าใหม่ที่เข้าร่วมงานกีฬาสีนี้เป็นครั้งแรกอย่าง เมมเบอร์ BNK48 รุ่นที่ 3 และ CGM48 (ยกเว้นกัปตันออม และ ชิไฮนินรินะ ที่เคยร่วมงานครั้งก่อนหน้านี้ไปแล้ว)
“ประกาศจากห้องอำนวยการโรงเรียนอนุบาลกีฬาสีหนูน้อย48” เสียงสดใสของเฌอปราง กัปตันวงBNK48 กล่าวออกมาต้อนรับผู้ชมที่นั่งรออยู่ในสนามตามสีต่าง ๆ เป็นสัญญาณบอกว่างานกีฬาสีจะเริ่มขึ้นแล้ว
งานเริ่มจากการเปิดตัวพิธีกรหลัก คือ ดีเจบอย ฌาฆฤณ ชุมมิ่ง และ ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร รวมถึงนักพากย์กีฬารับเชิญจากช่อง NR SPORT อย่าง นิค นิกร วิศวะไชยพันธ์ และ กุ๊ก ณัฐสิทธิ์ พรหมวงษ์ ที่มากล่าวนำโชว์การแสดงเปิดงานโดย จะเป็นเพลงจากซิงเกิลที่12 เริ่มจาก Kinou Yori Motto Suki – ชอบเธอมากกว่าเมื่อวาน, Make Noise และปิดโชว์ด้วยเพลว Believers ในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนบล็อกกิ้งให้ผู้ชมเห็นได้จากทุกทิศเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แล้วก็ต่อด้วยขบวนพาเหรดของเมมเบอร์ประจำสีทั้ง 4 ได้แก่
ทีมสีฟ้า “ฮัมมิ่งเบิร์ด” Humming Bird
นำโดย หัวหน้าสี โมเน่ต์ วง BNK48 ร่วมด้วย เจ้าเข็ม, ขมิ้น, พาขวัญ, รตา, โยเกิร์ต, ปัญ, ปาเอญ่า, เจน, ปูเป้, นิว, ป๊อปเป้อ, เจนนิษฐ์, จีจี้, เคท จากวง BNK48และ นีน่า, ลาติน, ออม, รินะ, ฟ้าใส, มามิงค์ จากวง CGM48
ทีมสีเขียว “เต่า” Turtle
นำโดย หัวหน้าสี มิลค์ วง CGM48 ร่วมด้วย เอิร์น, อีฟ, แพนด้า, โมบายล์, พิม, เปี่ยม, ฮูพ, ก่อน, เกรซ, เอิร์ธ, ฟ้อนด์, อร, น้ำหนึ่ง จาก BNK48 และ แองเจิ้ล, คนิ้ง, มีน, พิม, แชมพู, เคียล่า จากวง CGM48
ทีมสีส้ม “หนูแฮมสเตอร์” Hamster
นำโดย หัวหน้าสี แก้ว วง BNK48 ร่วมด้วย มายด์, มายยู, นาย, มิโอริ, จ๋า, วี, มิวสิค, จิ๊บ, เนย, ตาหวาน จากวง BNK48 และเจย์ดา, เจเจ, นีนี่, พั้นช์, ไข่หวาน, เหมย จากวง CGM48 แถมยังมีเซอร์ไพร์สคือมีอดีตเมมเบอร์BNKรุ่น2อย่าง วิว ได้กลับเข้ามาร่วมการแข่งขันอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยทีมสีแดง “มด” ANT
นำโดย หัวหน้าสี ซัทจัง BNK48 ร่วมด้วย ยาหยี, มินมิน, เฟม, พีค, แพนเค้ก, ข้าวฟ่าง, เฌอปราง, น้ำใส, นิกี้,ผักขม, ไข่มุก, แพมแพม, มีน, สตางค์ จาก BNK48 และปิ๊ง, ฟอร์จูน, ปะริมะ, สิตา จากวงCGM48
ที่แต่ละสี แต่ละคนก็ไม่ยอมน้อยหน้า จัดเต็มอุปกรณ์ประกอบการเดินขบวนพาเหรดอย่างมีสีสัน เป็นนการเรียกรอยยิ้ม และเสียงกรี๊ดจากผู้ชมสนั่นไปทั้งฮอลล์
หลังจากทั้งหมดกล่าวคำปฎิญาณเรียบร้อย เพื่อเป็นเพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับเมมเบอร์และแฟนคลับเชียร์กันสนุกมาขึ้น ก็จะต้องมีการประกาศรางวัลสำหรับผู้ชนะ และบทลงโทษสำหรับผู้แพ้ด้วยเช่นกัน
ทีมที่ได้อันดับ 1 จะได้ไปพักที่พูลวิลล่า หัวหิน 3 วัน 2 คืน
อันดับที่ 2 จะได้ไปทานโอมากาเสะคอร์ส
อันดับที่ 3 จะต้องเก็บขยะในงาน
และอันดับสุดท้าย ก็จะต้องไปล่าท้าผีแบบจุใจเลยทีเดียว
เมื่อมีการอัดฉีดกันขนาดนี้ เมมเบอร์ทุกคนก็เข้าสู่โหมดเอาจริงกันทันที กับการเริ่มเข้าสู่เกมแรก นั่นก็คือ ” วิ่งวิ่งวิ่ง ซิง12 “ ที่เอาแรงบันดาลใจมาจาก โกโกวา ใน Squid Game แต่เกิดปํญหาขึ้นเพราะผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดเกิดความสับสนวุ่นวายจากการที่ไม่เข้าใจในกฎ จึงมีมติตัดสินให้ทุกสีได้คะแนนไปเท่า ๆ กัน
เกมที่สอง “เอี๊ยด! (Brake Noise!)” เป็นเกมขี่จักรยานผลัดแบบพิเศษ ที่แต่ละสีส่งตัวแทนมา 4 คนเพื่อแข่งกัน โดยสีส้ม ออกตัวคนแรกด้วยเหมยที่ขี่จักรยานอย่างฉิวนำทิ้งขาดไปตั้งแต่ต้นทำให้เพื่อน ๆ ไม้ต่อ ๆ มาเล่นได้ง่ายจนเข้าเส้นชัยแบบสบาย ๆ เป็นทีมแรก ต่อมาด้วยการขับเคี่ยวอันแสนดุเดือดระหว่างฟ้ากับแดง เริ่มจาก ป๊อบเป้อทีมสีฟ้าโดนแซงโดยยาหยีทีมสีแดงทำให้สีแดงนำเป็นอันดับ2อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ทว่ารอบสุดท้าย ปัญ ก็สามารถเร่งแซงทีมสีแดงกลับจนได้ ทำให้สีฟ้าเข้าเส้นชัยเป็นที่สอง ส่วนสีเขียวเนื่องจากช่วงออกตัวที่ขลุกขลักไปหน่อย ทำให้ฮูพซึ่งเป็นไม้สุดท้าย ถึงแม้พยายามเร่งสปีดแต่ก็ไม่สามารถแซงได้ทันอยู่ดี จึงเข้าเส้นชัยเป็นสีสุดท้าย ทำให้รอบนี้ สีส้มมีคะแนนรวมนำเป็นที่ 1 และสีเขียวเป็นอันดับสุดท้าย
เกมที่ 3 “แชร์บอล” แข่งเป็นระบบทัวร์นาเมนต์ ผู้ชนะจะได้เจอกันหาที่หนึ่ง ผู้แพ้จะมาเจอกันหาที่ 3
กีฬานี้ถือเป็นการแข่งขันที่ได้แสดงความสามารถทางด้านแชร์บอลของเมมเบอร์หลาย ๆ คนได้กันอย่างโดดเด่น และเรียกเสียงเชียร์จากแฟนคลับได้ดีที่สุดในงานนี้เลย
คู่เปิดสนามคือ แดง-ฟ้า สีแดงเลือกใช้วิธีกดดันตั้งแต่ในแดนของสีฟ้า ทำให้สามารถบุกได้อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าสีฟ้าก็ป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะการบล็อคลูกชูตของโยเกิร์ตที่ช่วยทีมสีฟ้าได้หลายครั้ง แต่สุดท้ายด้วยความเร็วของมือชู้ตลูกอย่างฟอร์จูน ข้าวฟ่าง เฟม ผสมกับทักษะของมือตะกร้าอย่างซัทจัง ทำให้ทีมสีแดงค่อย ๆ โกยคะแนนขึ้นมาได้เรื่อย ๆ แม้ว่าสีฟ้าจะเปลี่ยนตัวปัญลงมาร่วมมือกับเจนนิษฐ์เพื่อช่วยทำเกมส์รุก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ ทำให้สีแดงชนะไป 16-4 คะแนน
รอบที่สองเป็นการแข่งระหว่าง ส้ม-เขียว ซึ่งสีเขียวจะต้องชนะให้มีคะแนนรวมเพิ่มขึ้นมาเพื่อหนีจากอันดับสุดท้าย และถ้าสีส้มชนะก็จะทำให้ยังคงอันดับ1ต่อไปได้เลย ช่วงแรกมายยูเป็นแกนนำในการทำคะแนนโดยมีเจเจ เหมย และนายคอยวิ่งพล่านเป็นตัวเชื่อมเกมส์ทำให้ทีมสีส้มทำคะแนนนำไปห่าง จนเขียวแก้เกมส์เปลี่ยนคนิ้งมาเป็นมือตระกร้าซึ่งได้แสดงทักษะในการรับลูกที่เรียกเสีองฮือฮาจากองเชียร์ได้ตลอดแถมยังเล่นได้เข้าขากับอรที่เปลี่ยนลงมาเป็นตัวชู๊ตทำแต้ม เสริมด้วยอีฟกับเคียล่า ที่คอยตัดลูกส่งสีส้มส่งให้อรทำคะแนนจากจากการชู้ตไกลอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สีเขียวพลิกชนะเข้าชิงกับสีแดงไปด้วยคะแนน 14-10
ชิงที่ 3 ส้ม-ฟ้า เจนนิษฐ์กับปัญลงคู่กันตั้งแต่เริ่มเพื่อเป็นตัวทำเกมส์ของสีฟ้า เพื่อต่อสู้กับสีส้มที่นำทัพโดยมายยู นายและจ๋าที่เป็นตัวคอยทำคะแนน ในระหว่างเกมส์ โยเกิร์ตทีมสีฟ้าก็ยังโดดเด่นอยู่ในเรื่องการป้องกันเหมือนเดิม แต่มีจังหวะพลาดโดนบอลเข้าที่หน้าเลยต้องเปลี่ยนตัวกับเจ้าเข็มไปพักข้างสนาม แล้วกลับมาลงอีกครั้งนึง ในช่วงครึ่งหลังสีส้มเปลี่ยนวีเป็นมือตระกร้าแทนมาย เพื่อช่วยให้สามารถทำแต้มเพิ่ม ส่วนสีฟ้าก็คงโถมเข้าใส่อย่างต่อเนื่องเข้าใส่นีนี่มือปัดทีมสีส้มที่แม้จะสามารถป้องกันไว้ได้หลายลูกก็ตามแต่ก็ต้านทานการบุกของสีฟ้ามีรูปแบบเข้าทำที่หลากหลายมากกว่า สีฟ้าจึงชนะไป 16-10 คะแนน
รอบชิงชนะเลิศระหว่าง เขียว-แดง ช่วงแรกการรู้ใจกันระหว่างคู่หูมือตระกร้าคนิ้งกับชู้ตเตอร์อร ช่วยกันทำคะแนนให้สีเขียวนำไป 8-0 แต่พอเฟมทำคะแนนครั้งแรกให้สีแดงด้วยการนั่งชู้ตแบบคาดไม่ถึง ทำให้สีแดงเริ่มตั้งตัวและกลับมาในเกมส์ของตัวเองได้จากฝีมือของเฌอปรางที่เป็นคนคุมจังหวะของทีม คอยลำเลียงลูกมาส่งให้มือชูตอย่างฟอร์จูน ที่เริ่มเครื่องติดยิงต่อเนื่องเข้าใส่ตระกร้าในมือซัทจังได้อย่างสวยๆหลายลูก จบครึ่งแรก สีเขียวยังคงมีคะแนนนำสีแดง 8-6 เริ่มครึ่งหลังมาได้สักพัก สีแดงได้ฟาวล์ ข้าวฟ่างได้ส่งให้ฟอร์จูนยิงจากระยะไกล จนคะแนนทั้งสองทีมกลับมาเท่ากันทันที หลังจากนั้นเฌอปรางก็เป็นตัวทำเกมส์ให้ฟอร์จูนได้มีโอกาสยิงต่อเนื่องกันอีกหลายลูก ส่งผลให้สีแดงก็พลิกกลับมาชนะ 16-9 คะแนน
เกมที่ 4 “ชักเย่อ” ทีมที่ชนะ2รอบจากทั้งหมด3รอบจะเป็นผู้ชนะ
ฟ้า-แดง เริ่มแข่งขันเป็นคู่แรก โดยสีฟ้าชนะไป 2 รอบติด ทำให้เข้ารอบไปรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะจากคู่ต่อไป
คู่ที่ 2 เขียว-ส้ม สีส้มเปิดการแข่งขันด้วยการชนะ แต่หลังจากนั้นสีเขียวก็ฮึดกลับมาเอาชนะ2รอบต่อเนื่อง เข้ารอบตามสีฟ้าไปติด ๆ
รอบชิงที่ 3 แดง-ส้ม สีแดงชนะในการแข่งครั้งแรก ครั้งที่2 สีส้มเลือกใช้เทคนิคยันตัวยื้อรอจนสีแดงหมดแรงพลิกเอาชนะไปได้ แต่การแข่งครั้งสุดท้ายสีส้มก็ต้านทานพลังของสีแดงไม่ไหว จนสีแดงจึงชนะได้อันดับที่3ในการแข่งชักเย่อ
รอบชิงชนะเลิศ ฟ้า-เขียว สีเขียวชนะสีฟ้า 2 รอบติดไปรวดเดียว ด้วยเทคนิคให้จังหวะจากเสียงของเพื่อน ๆ ในทีมนั่นเองทำให้สีเขียวได้เป็นที่1ของการแข่งขันชักเย่อไปในที่สุด
เกมที่ 5 “ฟุตซอล” ใช้รูปแบบการแข่งขันแบบเดียวกับแชร์บอล ถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่ใส่กันนัวเนียสุด ๆ เพราะเมมเบอร์วิ่งกรูเข้าใส่ลูกบอลกันเป็นกลุ่มใหญ่เหมือนฝูงปลาสวายแย่งฮุบเหยื่อกันตลอดเวลา
คู่ระหว่างฟ้า-แดง ปัญทีมสีฟ้ามีโอกาสยิงจ่อ ๆ แต่เฌอปรางก็ป้องกันไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ทีมสีแดงกลับก็มาเสียฟรีคิกจากการเผลอจับลูกบอลนอกเขต โชคดีที่ปัญยิงไม่เข้า สีฟ้าสามารถลำเลียงบอลบุกได้ตลอดแต่เฌอปรางก็เซฟได้หมด ไปจนหมดเวลาการแข่งขัน และต้องยิงจุดโทษกัน รินะทีมสีฟ้ายิงไปอย่างสวยสุดที่เฌอปรางจะป้องกันไว้ได้ ตามด้วยโยเกิร์ตที่ยิงเข้าไปอีกลูกตอกย้ำชัยชนะของสีฟ้าที่เข้าไปชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 2-0
คู่ระหว่างส้ม-สีเขียว สีเขียวนำทีมโดยน้ำหนึ่งพยายามบุกตลอด ได้มีโอกาสส่อง 2-3 ครั้ง แต่เจเจโชว์ลูกล้มตัวเซฟไว้ได้อย่างสวยงาม หลังจากนี้เกมส์ส่วนใหญ่จะยันอยู่กันกลางสนาม ในที่สุดก็ต้องวัดกันด้วยการยิงจุดโทษ สุดท้ายจากฝีมือการเซฟลูกของเจเจทำให้สีฟ้าไม่สามารถทำสกอร์ได้เลย ส่งผลให้สีส้มชนะ 2-0 จากฝีเท้าของมายยู และ วี
การแข่งชิงอันดับที่ 3 ระหว่างเขียว-แดง เปิดเกมส์แบบเท่ ๆ จากการเขียบอลด้วยลูกส้นของคนิ้ง และหลังจากนั้นก็เป็นเกมส์ส่วนใหญ่จะเน้นการนัวเนียกันของทั้งสองฝั่ง สีเขียวมีจังหวะบุกแบบสวยๆแต่ว่าผักขมคอยก็สกัดลูกอันตรายไปได้หลายครั้ง เสมอกันในเวลาไปด้วยสกอร์0-0 และสุดท้าย ลูกยิงจุดโทษเพียงหนึ่งเดียวของคนิ้งที่เสียบมุมไปอย่างสวยงามก็ทำให้สีเขียวชนะไปด้วยสกอร์ 1-0
รอบชิงชนะเลิศ ช่วงแรกสีฟ้ากดดันสีส้มได้ตลอด ปิดเส้นทางจ่ายบอลทำให้ส้มหาช่องลำเลียงบอลยาก แถมสีฟ้าปัญโดดเด่นมากในการจ่ายทะลุทะลวง แต่ส้มก็มีโอกาสสวนได้สวยๆ จนหมดเวลาทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ จึงเป็นที่แน่นอนกับการหาผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษ รินะประเดิมด้วยการยิงผ่านมือเจเจสีส้มเข้าไปอย่างสวยงาม ไข่หวานฝั่งสีส้มยิงตรงกรอบแต่ว่าเจ้าเข็มสีฟ้าก็ยังเซฟไว้ได้ สีฟ้าทิ้งคะแนนห่างไปด้วยฝีมือยิงจากปัญ สุดท้ายมายยุตัวตึงนักกีฬาทีมสีส้มก็สามารถยิงเข้าไปปิดท้ายแต่ก็ตามไม่ทันเสียแล้ว จบเกมส์การแข่งขันสีฟ้าชนะไปด้วยสกอร์ 2-1
เกมสุดท้าย “Kinou Yori Dino Suki ชอบไดโนมากกว่าเมื่อวาน” ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสวมชุดไดโนเสาร์และวิ่งไปสู่เส้นชัยให้เร็วที่สุด เมื่อทุกคนสวมชุดเสร็จก็เกิดภาพฝูงไดโนเสาร์ที่น่าประทับใจปนสยดสยองกันเต็มสนาม และแน่นอนมิวสิคกับเจ้าเข็มผู้กลัวไดโนเสาร์ก็วิ่งหนีออกไปจากนอกสนามแข่งด้วยเช่นกัน เสียงนกหวีดดังขึ้น เหล่าไดโนเสาร์ในสภาพต่างๆทั้งคอพับ คออ่อนก็ออกตัววิ่งสับกันเต็มฝีเท้าไปจนถึงจุดหมาย ทีมสีเขียวนำโดย โมบาย แชมพู อีฟ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ1 ต่อด้วยสีแดง สีส้ม และสีฟ้าเข้าเป็นกลุ่มสุดท้าย
ในที่สุดสีเขียวก็สามารถค่อย ๆ พลิกสถานการณ์กลับจากรั้งอันดับสุดท้ายแซงกลับมาคว้าอันดับที่ 1 ในการทำคะแนนรวม ทั้งหมดถึง 48 แต้ม ได้ไปรางวัลใหญ่ไปครอง
ตามมาด้วยสีฟ้าอันดับที่ 2 กับคะแนนรวม 46 แต้ม ส่วนสีแดงอันดับที่3 ที่มีคะแนนรวม 44 แต้ม และอันดับสุดท้ายสีส้มกับคะแนนรวม 42 แต้มก็ต้องรับบทลงโทษไปตามระเบียบ
สุดท้ายมหกรรมการแข่งขันกีฬาสีอนุบาลหนูน้อย48 ก็จบลงไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งจากเมมเบอร์ที่แข่งกันแบบเต็มที่ไม่มีออมมือให้กันและจากเสียงเชียร์แฟนคลับสีต่าง ๆ ที่ตะโกนให้กำลังใจกันจนเสียงแหบเสียงแห้ง และแถมยังมีเมมเบอร์หน้าใหม่หลาย ๆ คนที่โดดเด่นและแจ้งเกิดในงานนี้ด้วยเช่นกัน ความประทับใจอีกมากมายหลายอย่างที่ผู้เข้ามาชมในสนามเท่านั้นถึงจะได้เห็นรายละเอียดหรือมุมต่างๆของไอดอลกลุ่ม48ไทยไม่ว่าจะมุมน่ารัก แสบซ่าแสนซน หรือมุมโก๊ะๆเรียกเสียงฮาได้ในแบบที่เก็บในความทรงจำกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่สวยงามที่สุดในกิจกรรมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขันหรือการแพ้ชนะกัน แต่มันคือคือมิตรภาพ ความสัมพันธ์ และความร่วมมือกันระหว่างเมมเบอร์จากทั้ง BNK48 และ CGM48 ที่ได้มาร่วมกันทำเป้าหมายให้ลุล่วงไปจากพลังของทุกคนนั่นเอง