ซารา เฮสส์ (Sara Hess) โปรดิวเซอร์และนักเขียนบทของ ‘House of the Dragon’ เปิดเผยว่าทั้ง ๆ ที่มีลูกชายที่เกิดใหม่กับราชินีอลิเซนต์คือเจ้าชายเอกอน ซึ่งตรงกับคุณสมบัติรัชทายาททุกประการ แต่ทำไมกษัตริย์วิเซริสก็ยังคงสนับสนุนและยืนยันว่าเจ้าหญิงเรนีราคือรัชทายาทเบอร์ 1 เท่านั้น ไม่มีใครจะมาแทนที่ได้
ซีรีส์ ‘House of the Dragon’ เปิดฉาก EP 1 มาก็ถึงตอนกษัตริย์วิเซริส : แพดดี คอนซิดีน (Paddy Considine) ได้รับเลือกขึ้นสืบบัลลังก์ต่อจากกษัตริย์เจเอริส แทนที่จะเป็นเจ้าหญิงเรนีส : อีฟ เบสต์ (Eve Best) ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่างแต่ไม่ได้ถูกเลือกเพราะนางเป็นสตรีเท่านั้น พอเวลาผ่านไปสถานการณ์อันน่าปวดหัวนี้ได้กลับมาทำให้กษัตริย์วิเซริสต้องรีบเลือกรัชทายาทผู้สืบบัลลังก์ เพราะราชินีเอมมา : เซียน บรูก (Sian Brooke) และพระโอรสสิ้นพระชนม์ทั้งคู่ ตัวเลือกในตอนนั้นมีเพียงแค่เจ้าหญิงเรนีรา : มิลลี่ อัลค็อก (Milly Alcock) พระราชธิดา และเจ้าชายเดมอน : แมตต์ สมิธ (Matt Smith) พระอนุชาตัวแสบเท่านั้น และพระองค์ก็ฉีกขนบธรรมเนียมปฏิบัติเดิมด้วยการเลือกเจ้าหญิงเรนีรา ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทสืบทอดบัลลังก์เหล็กต่อจากพระองค์ เพราะเจ้าชายเดมอนนั้นพฤติกรรมเหี้ยมโหดและทำอะไรตามใจตัวเองตลอด จึงไม่น่าไว้วางใจให้ครองอาณาจักร
เมื่อเวลาผ่านไป กษัตริย์วิเซริสได้อภิเษกสมรสกับราชินีอลิเซนต์ ไฮทาวเวอร์ : เอมิลี แครีย์ (Emily Carey) โดยการสนับสนุนจากพ่อของนาง อ็อตโต ไฮทาวเวอร์ : รีส อีวันส์ (Rhys Ifans) ซึ่งใช้ความใกล้ชิดจากตำแหน่ง “หัตถ์ราชา” คอยหาเหตุผลให้รีบมีรัชทายาทตัวเลือกเพิ่มเติม จนให้กำเนิด เจ้าชายเอกอน ว่าที่รัชทายาทคนใหม่ แม้จะมีคำถามมากมายจากเหล่าขุนนาง และประชาชนผู้กังขาในการตัดสินใจครั้งนี้ ก็ไม่อาจทำให้พระองค์เปลี่ยนใจได้ ถึงขนาดว่าให้สิทธิ์ทายาทที่เกิดจากเจ้าหญิงเรนีราและเซอร์เลนอร์ ขึ้นเป็นผู้สืบบัลลังก์ ถ้าหากเจ้าหญิงเรนีราได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ ทำให้ราชินีอลิเซนต์เก็บความแค้นสุมอกไว้ตลอดมา
เฮสส์ จะมากล่าวถึงเหตุผลนี้เอาไว้ให้เราฟังกัน “กษัตริย์วิเซริสรักราชินีเอมมามาก ๆ รักแบบไม่อาจจะมีใครมาแทนที่เธอได้ ด้วยความรักที่มีให้อย่างสุดใจ พระองค์จึงรู้สึกผิดกับการต้องให้เธอตั้งครรภ์แล้วไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้อย่างปลอดภัย ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกผิดในใจของพระองค์ตลอดมา และเจ้าหญิงเรนีราคือสิ่งเดียวที่ราชินีเอมมาเหลือเอาไว้ให้พระองค์ เจ้าหญิงคือสิ่งเดียวที่พระองค์จะต้องปกป้องรักษา มอบความรักและดูแลอย่างดีที่สุด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะเปลี่ยนตัวองค์รัชทายาท และส่วนหนึ่งคือเป็นการไถ่บาปที่พระองค์เชื่อว่าได้ทำไว้กับราชินีเอมมานั่นเอง”
ถึงแม้ว่าในเนื้อเรื่อง กษัตริย์วิเซริสเองก็ได้ให้ความรัก เอาอกเอาใจในราชินีอลิเซนต์ และเจ้าชายเอกอน ลูกชายในฝันของพระองค์อยู่มากมายอย่างที่เราเห็นกัน แฟน ๆ บางคนอาจจะคิดไปว่ารัชทายาทอาจจะถึงเวลาเปลี่ยนมือเสียแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเจ้าหญิงเรนีราขึ้นครองราชย์เมื่อไหร่ ตระกูลไฮทาวเวอร์ของราชินีอลิเซนต์ก็จะหมดความสำคัญในอาณาจักรลงไปทันที เพราะรัชทายาทคนต่อไปที่จะสืบบัลลังก์ต่อจากเจ้าหญิงเรนีรา ก็จะต้องเป็นทายาทที่สืบเชื้อสายจากเจ้าหญิงเรนีรา และเซอร์เลนอร์เท่านั้น ทำให้ราชินีอลิเซนต์ต้องรีบทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะสายเกินการ นี่ยังไม่รวมเจ้าชายเดมอน ผู้กระหายในบัลลังก์เหล็กอีกคนหนึ่ง ที่มีแววว่าจะไม่ยอมให้ใครนั่งบัลลังก์ต่อจากพี่ชายนอกจากตัวเพระองค์เองเท่านั้น เค้าลางความวุ่นวายที่จะนำพาไปสู่สงครามใหญ่ในตำนานก็เริ่มประทุขึ้นเรื่อย ๆ รอวันระเบิดสร้างความหายนะ
เหตุการณ์ใน ‘House of the Dragon’ EP 6 จะข้ามช่วงเวลาไปอีก 10 ปี โดยจะมีการเปลี่ยนนักแสดงหลักเนื่องจากการเปลี่ยนช่วงวัยตามเวลาในเรื่อง คือ เอ็มมา ดาร์ซีย์ (Emma D’Arcy) จะรับบทเจ้าหญิงเรนีราต่อจากอัลค็อก และ โอลิเวีย คุก (Olivia Cooke) กับบทราชินีอลิเซนต์ ต่อจากแครีย์ เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากกษัตริย์วิเซริสจะต้องสวรรคตเพราะโรคร้ายในอนาคตอันใกล้ บัลลังก์เหล็กจะสั่นคลอน เพราะผู้แข็งแกร่งและเหมาะสมเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส