เรียกว่านานจนแทบจะจำไม่ได้แล้ว สำหรับหนังคลาสสิกอีกเรื่องของยุค 90’s อย่าง ‘Sister Act’ (1992) หรือในชื่อไทยที่คุ้นหูว่า ‘น.ส.ชีเฉาก๊วย’ ภาพยนตร์แนวคอมมีดี้ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับที่งดงาม ส่งให้เพลง “I Will Follow Him” เพลงประกอบหนังโด่งดังเป็นพลุแตก และเป็นหนังที่ วูปปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) รับบทนำและทำรายได้สูงที่สุด
แต่ถ้านับจากภาคต่อ หรือ ‘Sister Act 2: Back in the Habit’ (1993) ภาค 2 ที่ถูกสร้างออกมาเพื่อสานต่อความสำเร็จจากภาคแรก กลับกลายเป็นว่าตัวหนังถูกปล่อยร้างมายาวนานตั้ง 29 ปี ถูกพะยี่ห้อเป็นหนังคัลต์ คือเป็นหนังที่มีกลุ่มแฟนเฉพาะ ไม่ได้แมสเหมือนภาคแรกอีกต่อไป ประกอบกับความล้มเหลวของภาค 2 ที่ทำรายได้ไม่ดีเท่าภาคแรก ตัวหนังก็เลยดูจะเงียบ ๆ จนคนรุ่นใหม่เองก็ดูจะเกิดไม่ทันหนังเรื่องนี้ไปแล้ว
ล่าสุด วูปปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) เจ้าของบทชีเฉาก๊วย เดลอริส ฟาน คาร์เทียร์ (Deloris Van Cartier) และ เจนนิเฟอร์ ลูอิส (Jenifer Lewis) เจ้าของบทมิเชลล์ (Michelle) จากหนังเรื่องชีเฉาก๊วย ก็ได้เปิดเผยผ่านรายการทอล์กโชว์ที่มีชื่อว่า ‘The View’ ของสถานีโทรทัศน์ ABC ที่โกลด์เบิร์กร่วมเป็นพิธีกร โดยทั้งคู่เผยว่า ยังคงมีความใฝ่ฝันที่ยังอยากจะสร้าง ‘Sister Act 3’ หนังภาคต่อของชีเฉาก๊วย แม้ว่าจะเคยมีประกาศออกมาว่าจะมีการสร้างตั้งแต่ปี 2020 แล้วก็ตาม อีกทั้งโกลด์เบิร์กเองก็ยังได้ย้ำเตือนไปถึงนักแสดงและทีมงานด้วยว่าพวกเขายังต้องทำโปรเจกต์นี้ต่อไป แม้โปรเจกต์จะดูเงียบ ๆ ไปแล้วในตอนนี้
โกลด์เบิร์ก: “คุณก็รู้นะว่าเรายังคงทำหนังเรื่องนั้นกันอยู่น่ะ และฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ร่วมงานกับเธอ (ลูอิส) ด้วย เพราะว่าเธอเป็นคนที่สนุกสนานมาก”
นอกจากนี้ ลูอิสในฐานะแขกรับเชิญของรายการ ยังเผยด้วยว่า เธอนี่แหละที่เป็นคนสอนให้โกลด์เบิร์กร้องเพลงในภาพยนตร์ภาคแรกที่ออกฉายเมื่อ 29 ปีที่แล้ว
ลูอิส: “ฉันอยากจะบอกว่าฉันนี่พร้อมมาก (สำหรับภาค 3) เชื่อไหมว่าภาคแรก ตอนแรกทีมงานจะใช้เสียงของฉันนะ ฉันก็เลยบอกกับวูปปีว่า ‘เนี่ย เธอก็แค่เดินเข้าไปในกระจกของเรานะ ทำเป็นจัดผมเผ้า แล้วก็ลองทำตัวเหมือนเด็กอายุ 15 ที่กำลังร้องเพลงของวง ‘Gladys Knight and the Pips’ ‘ แล้ววูปปีก็ทำจริง ๆ เธอนี่ร้องเพลงเป็นบ้าเป็นบอไปเลย”
‘Sister Act’ (1992) หรือในชื่อไทยว่า ‘น.ส.ชีเฉาก๊วย’ ผลิตโดยสตูดิโอ ทัชสโตน พิกเจอร์ส (Touchstone Pictures) ในเครือของ Disney เป็นภาพยนตร์แนวคอมมีดี้ที่ว่าด้วยของนักร้องสาวในเลานจ์ ที่บังเอิญเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมของอดีตแฟนหนุ่ม จนทำให้เธอต้องแปลงกายเป็นแม่ชี และใช้ชื่อใหม่ว่า ซิสเตอร์ มารี แคลร์เรนซ์ (Sister Mary Clarence) เพื่อเข้ารับการคุ้มครองในฐานะพยาน และเพื่อหลบหนีการปิดปากจากอดีตแฟนของเธอ จนกระทั่งเธอได้ใช้พรสวรรค์ในการฝีกร้องเพลงให้กับคณะประสานเสียงประจำโบสถ์
ตัวหนังภาคแรกประสบความสำเร็จสวยงาม ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกติดอันดับที่ 8 หรือติด 1 ใน 10 อันดับหนังที่ทำรายได้สูงสุดของปี 1992 ส่งให้ วูปปี โกลด์เบิร์ก เจ้าของบทแม่ชีจำเป็น ขึ้นแท่นนักแสดงหญิงสายคอมมีดี้อันดับ 1 ของฮอลลีวูดในขณะนั้น ก่อนจะมีการสร้างภาค 2 ออกมาในชื่อ ‘Sister Act 2: Back in the Habit’ (1993) ที่ล้มเหลวทางด้านรายได้และคำวิจารณ์ ตัวหนังก็เลยถูกทิ้งร้างมาโดยตลอด
จนกระทั่งในปี 2020 มีข่าวว่า Disney ได้มีการประกาศสร้าง ‘Sister Act 3’ ที่จะลงฉายสตรีมมิงบน Disney+ โดยโกลด์เบิร์กจะกลับมารับบทชีเฉาก๊วย หรือแม่ชีเดลอริสช่นเดิม พร้อมเข้ามาดูแลงานผลิตร่วมกับนักแสดงและโปรดิวเซอร์อย่าง ไทเลอร์ เพอร์รี (Tyler Perry) โดยได้ ทิม เฟอเดลี (Tim Federle) ที่เคยกำกับซีรีส์ ‘High School Musical: The Musical: The Series’ (2019) มากำกับให้ และได้ มาธุรี เชการ์ (Madhuri Shekar) ผู้เขียนบท ‘Evil Eye’ (2020) ภาพยนตร์ของ Prime Video มาเขียนบทให้
ซึ่ง ณ ขณะนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมว่าจะมีการถ่ายทำและมีกำหนดฉายเมื่อไร และก็ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องออกมาว่าจะมีเนื้อหาต่อจากหนังภาค 2 ด้วยหรือไม่
ที่มา: Screen Rant, Deadline, Deadline
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส