โทรุ นากาฮามะ (Toru Nakahama) ผู้บริหารอาวุโสของ SEGA ได้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์ Pia ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการแปลงโดย Nintendo Everything โดยเขาได้มอย้อนไปถึงมรดกตกทอดจากแฟรนไชส์เกม ‘Sonic the Hedgehog’ ไปจนถึงเหตุผลที่ SEGA เปิดไฟเขียวให้สร้างภาพยนตร์ ‘Sonic the Hedgehog’ ซึ่งประสบความสำเร็จด้านรายได้ไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
“เหตุผลที่ทำให้เรามาคุยเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ Sonic นั้น ก็เพราะว่าเกม Sonic Mania ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 ซึ่งในตอนนั้นแม้ว่า Sonic จะยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในสหรัฐฯ โดยผู้ปกครองรู้ดีว่า Sonic เป็นใคร ในขณะที่เด็ก ๆ นั้นยังคงก้ำกึ่งอยู่ จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะสร้างภาพยนตร์ Sonic ออกมา ซึ่งจะไม่ใช่แค่ภาพยนตร์สำหรับทุกเพศทุกวัยเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จัก Sonic มากขึ้นด้วย โดยพิจารณาจากที่ภาพยนตร์ใช้งบโปรโมตมากกว่าวิดีโอเกมเสียอีก”
“ผมคิดว่าการลงทุนสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับบล็อกบัสเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า ผมยังจำตอนแรกที่ฟังความคิดเห็นอย่าง ‘มีภาพยนนตร์จากวิดีโอเกมมากมายที่ประสบความล้มเหลว’ แต่ SEGA Sammy Holding (บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ SEGA และ Sammy Holding เข้าด้วยกัน) ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการการท้าทายสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจิตวิญญาณของบริษัท”
‘Sonic the Hedgehog’ ได้การดัดแปลงจากวิดีโอเกมสุดฮิตในชื่อเดียวกันของ SEGA ซึ่งมีตัวละครหลักเป็นเม่นสายฟ้านามว่า Sonic ที่ต้องต่อสู้กับ Doctor Eggman Robotnik ที่หมายจะครองโลก โดยได้นักแสดงชื่อดังอย่าง จิม แคร์รีย์ (Jim Carrey) มารับบท Eggman ได้อย่างมีสีสัน และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์ ‘Sonic the Hedgehog’ ประสบความสำเร็จ
ในตอนนี้ ภาพยนตร์ ‘Sonic the Hedgehog’ ทั้ง 2 ภาค ทำรายได้ทั่วโลกรวมกันไปแล้วกว่า 720 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 27,400 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์จากวิดีโอเกมเพียงไม่กี่เรื่องที่ประสบคำความสำเร็จด้านรายได้ และทำให้ Paramount Pictures ตัดสินใจเปิดไฟเขียให้มีการสร้าง ‘Sonic the Hedgehog 3’ โดยมีกำหนดฉายในเดือนธันวาคม 2024 รวมถึงซีรีส์ ‘Knuckles the Echidna’ ที่แยกออกมาจากภาพยนตร์ ซึ่งยังคงได้ อิดริส เอลบา (Idris Elba) มาให้เสียงพากย์ Knuckles เช่นเดิม
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส