หลังจาก ‘Marvel Studio’ ได้ปล่อยตัวอย่างที่ 2 ของภาพยนตร์ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ ให้เราได้ชมกันในวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เผยเรื่องราวต่าง ๆ บางส่วนภายในภาคนี้ก่อนที่จะเข้าฉายอีกด้วย เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าตัวอย่างนี้มีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจให้เราวิเคราะห์กันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันได้เลย
Black Panther คนใหม่อาจได้พบกับ ที ชัลลา
เป็นที่ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า แบล็ค แพนเธอร์ (Black Panther) หญิงคนต่อไปคือ ชูริ รับบทโดย เลทิเทีย ไรท์ (Letitia Wright) มารับช่วงต่อจากพี่ชาย ที ชัลลา (แชดวิก โบสแมน – Chadwick Boseman) ผู้ล่วงลับ สังเกตได้จากตำแหน่งจุดแต้มขาวของชุดบนหน้ากาก ที่เหมือนกับจุดแต้มขาวบนหน้า ชูริ ยามออกศึกไม่มีผิด

แต่การที่ชูริจะได้รับพลังของ แบล็ค แพนเธอร์ นั้น ชูริจะต้องไปพบกับบรรพบุรุษผู้เคยได้รับพลังมาเสียก่อน ในดินแดนหลังความตายที่พวกเขาเรียกกันว่า ‘ลานแห่งบรรพชน’ ทำให้มีโอกาสที่ชูริ จะได้พบกับ ที ชัลลา ในสถานที่แห่งนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทีมงานจะวางบทให้ชูริพบกับใครใน ‘ลานแห่งบรรพชน’ และถ้าได้พบ ที ชัลลา จริงทีมงานจะใช้เทคนิคอะไรในการนำเขากลับมา คงต้องลุ้นกันต่อไป
ฉากไว้อาลัย ที ชัลลา ที่เพิ่มเข้ามา
ในเทรลเลอร์ตัวแรกมีการนำเสนอฉากไว้อาลัย ที ชัลชา ผู้ล่วงลับไปตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นพิธีไว้อาลัย ข้อความที่สลักบนกำแพงเป็นภาษาวาคานดัน (wakandan) แปลว่า “ขอให้กษัตริย์และแพนเธอร์อยู่กับเราตลอดไป” และในเทรลเลอร์ตัวที่ 2 ก็มีการนำฉากนี้มาเล่าซ้ำอีกครั้ง

แต่มีหนึ่งฉากที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ชูริ ในชุดสีขาวนั้น กำลังถือหมวกของ แบล็ค แพนเธอร์อยู่ ซึ่งเป็นชุดที่ ที ชัลลา สวมในภาค ‘Captain America: Civil War’ และช่วงต้นของภาค ‘Black Panther’ (เป็นชุดที่ต้องถอดหมวก) ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชุด นาโนเทคโนโลยีในภายหลัง
ชีวิต นามอร์ ในอาณาจักรใต้น้ำ
ในเทรลเลอร์ที่ 2 ได้มีการเปิดเผยชีวิตบางส่วนของ นามอร์ ตัวละครแอนตีัฮีโรคนใหม่ในจักรวาล MCU ราชาแห่งอาณาจักรใต้น้ำทาโลคาน ชื่นชอบการวาดภาพบนผนังซึ่งรูปบนผนังนั้น น่าจะเป็น ‘คุคุลคาน’ หรือที่เรียกเป็นไทยว่า ‘เทพนาคาขนนก’ เทพเจ้าที่ชาวทาโลคานนับถือ และนามอร์ก็ได้รับฉายานี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเท้าของนามอร์นั้นมีปีกบินได้ เฉกเช่นเทพเจ้าที่ชาวทาโลคานนับถือ ซึ่งเขานั้นเป็นลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งทาโลคาน จึงได้รับพรสวรรค์นี้

แถมหลังจากฉากวาดรูปก็มีการสลับฉากระหว่างนามอร์กับชูริ พร้อมคำพูดว่า “ผู้ที่เจ็บมาอย่างโชกโชนเท่านั้น ถึงสามารถเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้” เป็นการบ่งบอกถึงตัวละครทั้งสองที่ได้ผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดในอดีต จนกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้ในปัจจุบัน
วาคานดา น้ำท่วม จนต้องหนีขึ้นเหนือ

หนึ่งในฉากที่สะท้อนถึงผลกระทบของสงครามระหว่าง 2 อาณาจักร คือความเดือดร้อนของราษฎรชาววาคานดา ที่คาดว่าจะโดนนามอร์เรียกสึนามิเข้ามาถล่มภายในเมือง ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก จนต้องหนีขึ้นเหนือไปที่ดินแดนเผ่าจาบารี พร้อมด้วยของบางอย่างคาดว่าจะเป็น แร่ไวเบรเนียม

หัวหน้าเผ่าจาบารี เอ็ม บาคู ได้พูดกับหน่วยองครักษ์ของแบล็ค แพนเธอร์ว่า “คนของเขา ไม่เรียกเขาว่าแม่ทัพหรือกษัตริย์ แต่เรียกว่า คุคุลคาน เทพนาคาขนนก การฆ่าเขา เสี่ยงที่จะเกิดสงครามไปชั่วกาล” น่าจะมีความหมายว่า ต่อให้นามอร์จมเมืองของเจ้าไป ก็ไม่ควรที่จะฆ่าเขาทิ้ง จะทำให้เกิดสงครามที่ไม่รู้จบ เพราะนามอร์นั้นเปรียบเสมือนเทพเจ้าของชาวทาโลคาน
เจอกับ Iron Heart ในเมือง
ในฉากที่ โอโคเย่ แทงหอกทะลุรถสีแดงของนาง เราจะได้เห็นป้ายทะเบียนรถคือ ‘EE 0710’ คาดว่าจะเป็นทะเบียนรถของรัฐอิลลินอยส์ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาก็เป็นฉากที่ ไอรอน ฮาร์ท (Iron Heart) บินตามรถของโอโคเย่ ซึ่งบังเอิญ เนื้อเรื่องของตัวละคร ไอรอน ฮาร์ท ก็เกิดขึ้นในเมืองชิคาโก ของรัฐอิลินอยส์พอดี จึงขอสันนิษฐานว่า ด้วยเหตุบางอย่างทำให้โอโคเย่ต้องมาทำภารกิจที่รัฐนี้และได้พบเจอกับไอรอน ฮาร์ท

หรือไม่ ไอรอน ฮาร์ท ก็เพียงแค่กำลังทดสอบชุดของนาง แล้วบังเอิญพบเห็นโอโคเย่โดนไล่ล่าอยู่พอดี จึงอาสาเข้าไปช่วย หรือ ไอรอทฮาร์นี่แหล่ะกำลังโดนไล่ล่าอยู่ เพราะหนีจากการจับกุมโดยคนช่วยแหกคุกคือโอโคเย่เพื่อพาเธอกลับไปยัง วาคานดา
นามอร์คุยกับราชินีแห่ง วาคานดา
เหตุการณ์ในฉากนี้มีความเป็นไปได้ในเรื่องอยู่ 2 อย่างคือ ราชินี รามอนดา แห่งวาคานดา ถูกนามอร์ลักพาตัวมาริมทะเลเพื่อคุยบางอย่าง โดยเธอพูดในฉากนั้นว่า “เรารู้ว่าเจ้ากระซิบอะไรกัน” หรือไม่ก็เป็น ราชินีเองไปที่ริมทะเลเพื่อพูดคุยกับนามอร์ ซึ่งประเด็นที่พูดคุยอาจเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่าง 2 อาณาจักรที่นามอร์พึ่งทำน้ำท่วมไป

หรือไม่ก็อาจมาคุยปัญหาคลาสสิกของจักรวาล Marvel คือ แร่สุดหายากอย่างไวเบรเนียมก็อาจเป็นได้
นี่เป็นเพียงการวิเคราะห์และคาดการณ์จากมุมมองของผู้เขียนเท่านั้นอาจมีถูกหรือผิดบ้างขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย แต่ถ้าคุณอยากชมเรื่องราวเต็มของภาพยนตร์ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ ขอให้ทุกคนอดใจรอไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้จะเข้าฉายวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ในโรงภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส