อิสซา แร (Issa Rae) นักแสดงวัย 37 ปี ได้ออกมาพูดถึงกรณีนักแสดงหนุ่ม เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) ที่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้างและค่าย Warner Bros. ว่า นี่คือผลการจากปกป้องนักแสดงแบบผิด ๆ ของฮอลลีวูด ผ่านบทสัมภาษณ์ของ ELLE ที่ตีพิมพ์ไปเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ตุลาคม) ที่ผ่านมา
อย่างที่รู้กันว่าแรมักจะออกมา call out ประเด็นต่าง ๆ ในสังคมมากมาย ทำให้ในครั้งนี้ทางนิตยาสาร ELLE จึงได้ตั้งคำถามกับแรว่า “ฮอลลีวูดมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างหลังจากการเกิดขบวนการ #MeToo”
แรจึงให้คำตอบว่า “ในขณะที่ฉันไม่สนับสนุนให้ผู้คนด่วนสรุปจนเกินไป และฉันก็คิดว่ามันคือสิ่งที่ยุติธรรมมาก ๆ ที่จะมีการสอบสวนเกิดขึ้น ฉันคิดว่ามันคือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เช่นเดียวกันกับคำพูดที่ว่า ‘จงฟังในสิ่งที่ผู้หญิงพูด’ “
แรได้ยกตัวอย่างสำหรับกรณีนี้ว่า “ฉันพูดตามตรงเลยนะ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เอซรา มิลเลอร์ สำหรับฉันแล้วเขาก็คือส่วนเล็ก ๆ ในฮอลลีวูด เขาคือคนที่กระทำความผิดซ้ำ ๆ มันแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่แสนเลวร้ายของเขา แล้วก็นะ แทนที่พวกเขาจะยกเลิกการผลิตไปซะ พวกเขากลับพยายามที่จะกอบกู้หนังและชื่อเสียงของพวกเขา นั่นเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความพยายามของฮอลลีวูดที่จะรักษาและปกป้องคนที่มีความผิด
“เพราะฉะนั้น อย่าทำแบบนั้น มันอาจจะทำให้ผู้หญิงสามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ ถ้าพวกเธอไม่ต้องเลือกที่จะเงียบและทนอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะกังวลว่ามันจะย้อนกลับมาทำลายหน้าที่การงานของเธอ นี่มันก็เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการละเมิดที่จะคงอยู่ไปอีกนานหากฮอลลีวูดยังคงยืนกรานที่จะทำเช่นนั้น”
แรได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่า “ผลกระทบที่จะตามมาจากการกระทำของฮอลลีวูดมันเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ๆ อุตสาหกรรมนี้คืออุตสาหกรรมที่เลวร้ายที่สุดในเรื่องการลงโทษคนที่มีความผิดและคนที่กระทำผิด แล้วก็นะ เพราะถ้ามีเงินก็จะมีอำนาจเสนอ มันคือสิ่งที่อุตสาหกรรมยังใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ มันก็เลยเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลง”
ในส่วนของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรเรื่อง ‘The Flash’ ของมิลเลอร์ก็ยังคงมีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 23 มิถุนายน 2023 เช่นเดิม แม้ว่าตัวนักแสดงนำจะยังอยู่ในระหว่างการเข้ารับการรักษาปัญหาสุขภาพจิตก็ตาม
ที่มา: People
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส