การมีบ้านพร้อมพื้นที่อันกว้างขว้างให้กับครอบครัวสักหลังคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน เช่นเดียวกันกับครอบครัวบรอดดัส (Broaddus) ที่วาดฝันเอาไว้ว่าอยากจะมีบ้านที่ตั้งอยู่ในย่านที่ห่างไกลจากความวุ่นวายสักหลัง พวกเขาตามหาบ้านในฝันมาหลายที่จนกระทั่งได้มาพบกับบ้าน ‘657 บูเลอวาร์ด’ (657 Boulevard) บ้านที่ในเวลาต่อมากลับมีจดหมายข่มขู่ลึกลับในนาม ‘The Watcher’ จ่าหน้าถึง ‘เจ้าของคนใหม่’ จนกลายเป็นอีกหนึ่งคดีปริศนาที่ยังปิดไม่ได้ (Cold case) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และถูก Netflix หยิบมาสร้างเป็นซีรีส์ในชื่อ ‘The Watcher’
ซึ่งเรื่องราวในซีรีส์จะถอดมาจากคดีจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยมีจุดเริ่มต้นที่ เดเร็ค (Derek) และ มาเรีย บรอดดัส (Maria Broaddus) สองสามีภรรยาที่มองหาบ้านหลังใหม่เพราะบ้านหลังเก่าเริ่มเล็กเกินไปสำหรับการรองรับสมาชิกในครอบครัวที่มีถึงห้าคน จนในปี 2014 ทั้งคู่ก็ได้มาเจอกับบ้านหลังหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่กำลังประกาศตามหาเจ้าของใหม่อยู่
657 บูเลอวาร์ด คือบ้านที่เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเวสต์ฟิลด์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ และมีพื้นที่กว่า 3,800 ตารางฟุต อยู่ใกล้กับเขตการศึกษา แถมยังห่างจากตัวเมืองแมนฮัตตันไม่ถึง 28 ไมล์ ซึ่งถือได้ว่าเหมาะแก่การศึกษาของเด็ก ๆ และการเดินทางไปทำงาน ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาตัดสินใจกู้เพื่อซื้อบ้านหลังนี้ในราคา 1.3 ล้านเหรียญ
แต่ด้วยความที่บ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 1905 ทำให้จะต้องมีการซ่อมแซมและต่อเติมบ้านในบางส่วนก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่จริง แต่หลังจากเริ่มรีโนเวตได้เพียงไม่กี่วัน พวกเขาก็ได้รับจดหมายประหลาดที่ระบุชื่อผู้ส่งว่า ‘The Watcher’ และมาพร้อมกับข้อความน่าขนลุกที่ระบุว่าบ้านหลังได้ถูก ‘ผู้เฝ้ามอง’ คอยจับตาดูมานานกว่า 100 ปี
เนื้อความในจดหมายระบุว่า “ครอบครัวของฉันมีหน้าที่เฝ้าดูบ้าน 657 บูเลอวาร์ดมาหลายชั่วอายุคนแล้ว คงใกล้จะครบรอบ 110 ปีแล้วมั้ง ปู่ของฉันเฝ้าดูบ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 1920 แล้ว ส่วนในปี 1960 คนที่เฝ้าดูก็คือพ่อของฉันเอง แล้วตอนนี้มันก็ถึงตาของฉันแล้ว คุณรู้ประวัติของบ้านหลังนี้ไหม? คุณรู้ไหมว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ในกำแพงของบ้าน 657 บูเลอวาร์ด? พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่? ฉันอยากรู้จริง ๆ “
ซึ่งจดหมายฉบับนี้ก็สร้างความกังวลให้กับครอบครัวบรอดดัสเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงคนรอบข้างตลอดเวลา และยิ่งทวีความวิตกขึ้นไปอีกเมื่อมันไม่ได้จบที่จดหมายฉบับเดียว เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีจดหมายส่งมาอีกหลายฉบับ แถมข้อความในจดหมายล้วนเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกถึงสมาชิกในครอบครัว กิจกรรมต่าง ๆ ที่พวกเขาทำ ชีวิตความเป็นอยู่ และเริ่มลามไปถึงคำต่อว่าด่าทอและการสาปแช่งสารพัดอย่าง
จนคุณพ่อบรอดดัสต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ และจ้างนักสืบเอกชนมาตามหาเจ้าของจดหมายอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายพวกเขาก็คว้าน้ำเหลว ไม่มีใครสืบพบว่าเจ้าของจดหมายคือใครกันแน่ แถมเพื่อนบ้านแถวนั้นก็ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมมีพิรุธออกมา
ทำให้ถึงแม้จะเสียเงินจากการตกแต่งบ้านไปแล้ว แต่ด้วยความจนปัญญาแถมห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูก ๆ พวกเขาจึงได้นำบ้านมาขายทอดตลาดในที่สุด และด้วยเหตุนี้เอง คดีปริศนาจดหมายขู่ลึกลับจากผู้เฝ้ามองจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งคดีที่ยังปิดไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
แต่ถึงอย่างนั้น ในอีกมุมมองหนึ่งก็ได้เกิดการตั้งข้อสงสัยขึ้นมาว่า หรือจะเป็นครอบครัวบรอดดัสเองนั่นแหละที่กุเรื่องจดหมายข่มขู่ขึ้นมา เพราะพวกเขาเริ่มที่จะผ่อนบ้านหลังนี้ไม่ไหวอีกต่อไป เพราะในปี 2019 บ้านหลังนี้ก็ได้ถูกส่งต่อให้กับอีกครอบครัว ๆ หนึ่ง และพวกเขาก็ยังได้ออกมายืนยันด้วยว่า ตั้งแต่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มา พวกเขาไม่เคยพบเจอหรือได้รับจดหมายแปลก ๆ เลยสักครั้ง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส