เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) มีอะไรมาให้เล่นกันอีกแล้ว เราเพิ่งเขียนถึง Easter Eggs ในเอ็มวีเพลง “Anti-Hero” เอ็มวีแรกจากอัลบั้มใหม่ ‘Midnights’ ไปหมาด ๆ ล่าสุดสวิฟต์ก็ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง “Bejeweled” บทเพลงที่พูดถึงการที่ใครสักคนถูกหมางเมินจากคนรักและรู้สึกว่าประกายชีวิตของตัวเองกำลังจะดับหายไป เพลงนี้จึงเป็นเพลงปลุกพลังใจและกระตุ้นเตือนให้สาว ๆ ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองและกลับมาเปล่งประกายเฉิดฉายด้วยตัวเองได้อีกครั้ง มิวสิกวิดีโอเพลงนี้มาในธีมซินเดอเรลล่าและมีศิลปิน นักร้อง นักแสดงมาร่วมแจมมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีรหัสลับหรือไข่อีสเตอร์อะไรให้แฟน ๆ ได้ถอดรหัสกันอีกอย่างแน่นอน งั้นเราไปดูกันซิว่าในเอ็มวีนี้สวิฟต์ได้ซ่อนอะไรไว้บ้าง
ลอร่า เดิร์น แม่เลี้ยงใจร้าย
Cameo คนสำคัญคนแรกคือนักแสดงสาว ลอร่า เดิร์น (Laura Dern) ที่มารับบทเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย ซึ่งสวิฟต์ได้กล่าวว่าการกำกับเอ็มวีเพลงนี้เป็นอะไรที่ง่ายดายที่สุดสำหรับเธอเพราะได้ร่วมงานกับ ‘นักแสดงรางวัลออสการ์ ลอร่า เดิร์น’ ! (เธอเคยเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปี 1992 จากภาพยนตร์เรื่อง “Rambling Rose” และเข้าชิงอีก 2 ครั้งในสาขานักแสดงสมบทหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “Wild” (2015) และ “Marriage Story” (2020))

ในเอ็มวี เดิร์นแม่เลี้ยงใจร้ายได้บอกว่าสวิฟต์นั้นถูก ‘exile’ (ขับไล่/เนรเทศ) เธอจึงยังไปไหนไม่ได้ ซึ่ง “Exile” นี้เป็นชื่อเพลงที่สวิฟต์ฟีเจอริ่งกับ Bon Iver ในอัลบั้ม ‘Folklore’ นอกจากนี้เธอยังตะคอกใส่นางซินสวิฟต์ว่า ‘Speak Not!’ ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงอัลบั้ม ‘Speak Now’ นั่นเอง นี่ก็ยิ่งเป็นสัญญาณบ่งชัดว่าอัลบั้มหน้าที่เธอจะปล่อย re-recording ออกมาน่าจะเป็น ‘Speak Now’ นี่ล่ะ (นอกจากนี้ถ้าฟังดี ๆ ในช่วงฉากแรกมีเสียงเพลง “Enchanted” จากอัลบั้ม ‘Speak Now’ กำลังบรรเลงอยู่เป็นแบ็กกราวนด์อีกด้วย)

ผมและชุดของสวิฟต์ชวนให้นึกไปถึงสไตล์ของเธอในเอ็มวีเพลงจากอัลบั้ม ‘Folklore’ และ ‘Evermore’ นั่นคือเพลง “Cardigan” และ “Willow”
3 สาว HAIM

Cameo ต่อมาก็คือ 3 สาว HAIM เพื่อนซี้ของสวิฟต์ที่มารับบทพี่ ๆ จอมแสบของนางซิน ซึ่งมีฉากที่พวกเธอเรียกสวิฟต์ว่า ‘งู’ ก่อนที่จะออกไปงานเลี้ยง ซึ่ง ‘งู’ นี้มีความเชื่อมโยงกับประเด็นความบาดหมางระหว่างสวิฟต์กับ คิม คาร์เดเชียน (Kim Kardashian) อดีตภรรยาของ คานเย เวสต์ (Kanye West) ซึ่งมีที่มาจากการที่สวิฟต์มีข้อขัดแย้งกับเวสต์ในเรื่องเนื้อเพลง “Famous” ของเขาที่มีเนื้อความไม่เหมาะสมต่อเธอ จนถึงจุดหนึ่งเธอได้ออกมาพูดกลางเวที Grammys 2016 ทำให้ คิม คาร์เดเชียน ออกมาคอมเมนต์ถึงสวิฟต์พร้อมอีโมจิงูที่สื่อว่าสวิฟต์นั้นคือนังงูพิษ ! นอกจากนี้ก่อนออกไปงานเลี้ยง 3 สาว HAIM ยังร้องเพลง “Hungover” ที่โด่งดังใน TikTok ซึ่งเป็นเพลงที่พวกเธอร้องกันเล่น ๆ ในระหว่างกำลังเดินทางไปร่วมงานออสการ์ครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย

ภาพเหมือนเจ้าชายแอนโทนอฟฟ์และหมู่แมว

และเมื่อบทเพลง “Bejeweled” เริ่มบรรเลง สวิฟต์ก็เริ่มร้องเพลงและหันไปมองที่รูปภาพด้านข้างซึ่งเป็นภาพของโปรดิวเซอร์ แจ็ก แอนโทนอฟฟ์ (Jack Antonoff) ซึ่งในเอ็มวีนี้รับบทเป็นเจ้าชาย ซึ่งในภาพนั้นรายล้อมไปด้วยบรรดาแมว ๆ ที่น่ารักซึ่งแมวเหล่านี้ก็คือ ‘เมเรดิธ เกรย์ สวิฟต์’ (Meredith Grey Swift)’,’ โอลิเวีย เบนสัน สวิฟต์’ (Olivia Benson Swift)’, และ ‘เบนจามิน บัตตัน สวิฟต์’ (Benjamin Button Swift)’ แมวน้อยแสนน่ารักของสวิฟต์นั่นเอง
นาฬิกาเปลือกหอย

นาฬิกาเปลือกหอย (อาจสื่อถึง Little Mermaid) ชิ้นนี้ พอเปิดออกมาแล้วมีข้อความบอกว่าการ ‘exile’ จะจบลงใน 3 วินาที ซึ่งเลข 3 นี้น่าจะเชื่อมโยงไปถึงอัลบั้มชุดที่ 3 ‘Speak Now’ อีกแล้ว
ชุดคลุม

ต่อมาสวิฟต์ได้แปลงโฉมและเข้าไปในลิฟต์ สวิฟต์โฉมใหม่มาพร้อมชุดคลุมสุดไฉไลชวนให้คิดไปถึงเอ็มวีเพลง “…Ready For It?” และ “Willow”
ชั้น 3

สวิฟต์กดลิฟต์ไปที่ชั้น 3 ซึ่งปุ่มกดเป็นสีม่วงยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ว่าสื่อถึงปกอัลบั้ม ‘Speak Now’ ซึ่งสวิฟต์มาในชุดเดรสสีม่วง
สร้อยคอเพชร 12 เม็ด

และในที่สุดเธอก็เปล่งประกายเฉิดฉายพร้อมด้วยสร้อยคอเพชร 12 เม็ด ซึ่งสร้อยคอนี้เป็นแบบเดียวกันกับที่ขายในเว็บไซต์ของเธอ นอกจากนี้หินบนสร้อยคอทั้ง 12 เม็ดยังเป็นตัวแทนแต่ละอัลบั้มของสวิฟต์ (ปัจจุบันเธอมีงานเพลงอยู่ทั้งหมด 12 อัลบั้มถ้ารวม Fearless (Taylor’s Version) และ Red (Taylor’s Version) เข้าไปด้วย) และหมายถึงเวลาในแต่ละชั่วโมงซึ่งเป็นธีมของอัลบั้ม ‘Midnights’ ด้วย
Dita Von Teese

ต่อมาสวิฟต์ได้พบกับนักเต้นสาว ดิตา ฟอน ธีส (Dita Von Teese) และเข้าไปอยู่ในแก้วแชมเปญยักษ์ด้วยกัน ซึ่งนั่นอาจอ้างอิงถึงแฮชแท็ก #DrunkTaylor ที่เคยเป็นไวรัลและติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในเดือนสิงหาคมปี 2019 จากคลิป “Drunk Taylor” ที่สวิฟต์อยู่ในปาร์ตี้กับผองเพื่อนและมีท่าทีคล้ายจะเมา (นิด ๆ หน่อย ๆ) ซึ่งเธอเคยพูดถึงคลิปนี้เอาไว้ในรายการ ‘Tonight Show’ ในเดือนตุลาคมปีนั้นว่า “ตอนนั้นฉันอยู่ในปาร์ตี้เมื่อ 2-3 เดือนก่อน และฉันก็ดื่มโมฮิโตไป 2 แก้วครึ่ง แล้วหลังจากนั้นในวันถัดมา #DrunkTaylor ก็ติดเทรนด์อันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ มันคล้ายกับว่าฉันเริ่มจากการไม่มีอะไรและได้กลายไปเป็นแม่มดหลังจากดื่มไปแค่ 2 แก้วเท่านั้นเอง”
Lucky Number

ต่อมาเราเห็นสวิฟต์กดขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 13 แน่นอนว่าเลขนี้คือ Lucky Number ของเธอ
ฉากนาฬิกาในโชว์สุดอลัง

งานเลี้ยงปีนี้ของเจ้าชาย ผู้ที่จะได้รางวัลไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องมีการแสดงสกิลความสามารถด้วย สวิฟต์ก็เลยเปิดแสดงโชว์สุดอลังโดยมีฉากหลังเป็นนาฬิกาซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับธีมของอัลบั้ม แถมเข็มนาฬิกายังชี้ไปที่เลข 3 ชวนให้คิดถึงอัลบั้มชุดที่ 3 ‘Speak Now’ อีกแล้ว
Queen Pat

การแสดงโชว์ของสวิฟต์สร้างความประทับใจให้กับ ‘Queen Pat’ รับบทโดยเมกอัปอาร์ตติส แพต แม็คแกรธ (Pat McGrath) ซึ่งยืนเด่นเป็นสง่าอยู่เคียงข้างภาพเหมือนของ โซอี้ คราวิทซ์ (Zoë Kravitz) และ แซม ดิว (Sam Dew) ที่ร่วมแต่งและร่วมโปรดิวซ์เพลง “Lavender Haze” ในอัลบั้ม ‘Midnights’
มารี อ็องตัวแน็ต

และในที่สุดซินเดอเรลล่าสวิฟต์ก็คว้าใจเจ้าชายแอนโทนอฟฟ์เอาไว้ได้ ซึ่งได้กุญแจปราสาทพร้อมแหวนหมั้นจากเจ้าชาย ลุคของสวิฟต์ในฉากนี้ชวนให้คิดไปถึง ‘มารี อ็องตัวแน็ต’ ในเวอร์ชันของ เคียร์สเต็น ดันสต์ (Kirsten Dunst) จากภาพยนตร์เรื่อง “Marie Antoinette” ของ โซเฟีย คอปโปลา (Sofia Coppola)

มังกร

มิวสิกวิดีโอจบลงด้วยภาพของปราสาทที่มีเหล่ามังกรพ่นไฟกำลังบินว่อนไปมาซึ่งเป็นการสื่อถึงเพลง “Long Live” จากอัลบั้ม ‘Speak Now’ ที่มีเนื้อร้องว่า “I had the time of my life, fighting dragons with you.” แถมยังบรรเลงบทเพลง “Long Live” นี้ในเอนด์ครดิตด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส