แอรอน คาร์เตอร์ (Aaron Carter) นักร้องนักแสดงหนุ่มวัย 34 ปี ผู้มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยในยุค 90s และเป็นที่รู้จักในฐานะน้องชายของ ‘นิค คาร์เตอร์’ (Nick Carter) แห่งบอยแบนด์ชื่อดัง ‘Backstreet Boys’ ถูกพบว่าเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำในบ้านพักที่แลงแคสเตอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิต
ในปลายยุค 90s สู่ต้นยุค 2000 แอรอน คาร์เตอร์นั้นโด่งดังในฐานะนักร้องหนุ่มหน้าใสที่ขโมยหัวใจของใครหลาย ๆ คนตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ ซึ่งชวนให้คิดไปถึงความโด่งดังตั้งแต่ยังเยาว์วัยของศิลปินหนุ่มอย่าง จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) แต่ชีวิตของคาร์เตอร์ไม่ได้ราบรื่นสดใสอย่างที่ควรจะเป็น มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของเขา เกิดอะไรขึ้นกับศิลปินเด็กหน้าใสที่ทำยอดขายอัลบั้มเกิน 1 ล้านตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบคนนี้
แอรอน คาร์เตอร์ ป๊อปสตาร์ดาวรุ่ง
แอรอน คาร์เตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1987 ที่ฟลอริดา พ่อแม่ของแอรอนไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังและไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงเลย แต่ทำธุรกิจบ้านพักคนชรา แต่ถึงอย่างนั้นลูก ๆ ในครอบครัวนี้ส่วนใหญ่กลับมีชื่อเสียงอยู่ในวงการ ไม่ว่าจะเป็น นิค คาร์เตอร์ พี่ชายของแอร์รอนที่โด่งดังจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยด์แบนด์ชื่อดัง Backstreet Boys นอกจากนี้คาร์เตอร์ยังมีพี่สาวฝาแฝดชื่อ แองเจิล (Angel) ซึ่งเป็นนางแบบและมีพี่สาวอีก 2 คนคือ บี.เจ. (B.J.) หรือ บ็อบบี จีน (Bobbie Jean) และ เลสลี่ (Leslie)
แอรอน เริ่มร้องและเล่นดนตรีด้วยการเป็นนักร้องนำในวงโรงเรียนชื่อ ‘Dead End’ แต่ต่อมาได้ออกจากวงเพราะเพื่อน ๆ สนใจในดนตรีร็อกแต่เขานั้นสนใจในดนตรีป๊อป แอรอนได้เปิดตัวในฐานะนักร้องเป็นครั้งแรกจากการร้องคัฟเวอร์เพลง “Crush on You” ของวง The Jets ในการแสดงเปิดคอนเสิร์ตของ Backstreet Boys ที่เบอร์ลินในเดือนมีนาคมปี 1997 ซึ่งถือเป็นการแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเพราะในปลายปีนั้นทางค่ายก็ได้มาทาบทามและเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับแอรอน และได้ออกซิงเกิลแรกคือ “Crush on You” และได้ออกผลงานอัลบั้มเปิดตัวในชื่อ ‘Aaron Carter’ ในเดือนธันวาคมปี 1997 เมื่ออายุได้เพียง 9 ขวบ ซึ่งขายได้กว่าล้านชุดทั่วโลก อัลบั้มที่ 2 ของเขา ‘Aaron’s Party (Come Get It)’ (2000) ซึ่งเพลงฮิตอย่าง “I Want Candy”, “Aaron’s Party (Come Get It)”, “That’s How I Beat Shaq” และ “Bounce” ขายได้ 3 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกา จากนั้นแอรอนเริ่มเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘Nickelodeon’ และออกทัวร์กับ ‘Backstreet Boys’ ต่อมาอัลบั้ม ‘Oh Aaron’ (2001) อัลบั้มชุดต่อมาของแอรอน ซึ่งมีเพลงที่เขาร้องคู่กับนิคก็ได้รับการันตียอดขายระดับแพลตตินัม และตามติดมาด้วย ‘Another Earthquake!’ (2002) ที่มีเพลงฮิตอย่าง “America A.O.” และ “Do You Remember” ก่อนที่จะห่างหายจากการออกผลงานอัลบั้มไปเป็นเวลากว่า 16 ปี
หลังจากนั้นแอรอนเริ่มปรากฏตัวในฐานะนักแสดงจากในรายการ ‘Dancing with the Stars’, ละครเพลงบรอดเวย์ ‘Seussical’, ละครเพลงนอกบรอดเวย์เรื่อง ‘The Fantasticks’ และได้แสดงเดี่ยวหลายครั้ง ก่อนที่จะกลับมาปล่อยงานเพลงในปี 2014 ด้วยซิงเกิลที่มีแร็ปเปอร์ Pat SoLo มาร่วมแจมนั่นคือ “Ooh Wee” ต่อมาแอรอนปล่อยซิงเกิล “Fool’s Gold” ในปี 2016 และ EP ชื่อ ‘LøVë’ ในปี 2017 และสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 (และชุดสุดท้ายในชีวิตของเขา) ‘LøVë’ ก็ปล่อยออกมาในปี 2018
สู่การเผชิญหน้ากับหลุมดำ
แอรอนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นนักกับพี่น้องของเขา และความบาดหมางหลายอย่างของพวกเขาได้เปิดเผยออกมาบนโซเชียลมีเดีย ในเดือนกันยายน 2019 แอรอนได้กล่าวหาว่าเลสลี่ ได้เคยล่วงละเมิดทางเพศเขาตั้งแต่อายุ 10 ขวบถึง 13 ขวบ และเกิดขึ้นในเวลาที่เลสลี่ ไม่ยอมทานยาตามใบสั่งแพทย์เพื่อรักษาโรคอารมณ์สองขั้วหรือไบโพลาร์ของเธอ ต่อมาเลสลี่ได้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในปี 2012 สร้างความตกใจและเสียใจให้กับแอรอนที่เพิ่งพบเธอเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้าที่เลสลี่จะเสียชีวิตและตั้งใจว่าจะมอบเงิน 10,000 เหรียญให้กับเธอเพื่อใช้ในการรักษาอาการป่วย
นอกจากนี้แอรอนยังกล่าวหาว่านิคพี่ชายของเขาล่วงละเมิดเขาตลอดชีวิต และบอกเป็นนัยว่านิคยังทำร้ายสมาชิกหญิงคนอื่น ๆ ภายในครอบครัวอีกด้วย ทีมกฎหมายของนิคได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ภายหลังจากที่นิคและแองเจิล ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้แอรอนเข้าใกล้ เนื่องจากเขามีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว ทั้งยังเคยมีความคิดที่จะฆ่าลอเรน คาร์เตอร์ (Lauren Carter) ภรรยาของนิคในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
“หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว แองเจิลน้องสาวของผมและผมเสียใจที่เราต้องขอคำสั่งห้ามแอรอนน้องชายของเราในวันนี้” นิคโพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียของเขา นิคกล่าวว่าเขาและน้องสาวตัดสินใจขอคำสั่งห้ามเนื่องจากแอรอนมี ‘พฤติกรรมที่น่าตกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ’ “เราไม่มีทางเลือกอื่น แต่ต้องใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัวของเรา”
ในขณะที่แอรอนได้โพสต์ข้อความว่า “ผมรู้สึกประหลาดใจกับข้อกล่าวหาที่กล่าวหาผม และผมไม่ต้องการทำร้ายใคร โดยเฉพาะครอบครัวของฉัน”
ส่วนสมาชิกในครอบครัวอีกคนคือ บ็อบบี จีน หรือบี.เจ. พี่สาวอีกคนของแอรอน ก็โดนข้อกล่าวหาว่าทำร้ายผู้หญิง 2 คนโดยให้เหตุผลว่าพวกเธอจะมาทำร้ายแองเจิลพี่สาวของเธอนั่นเอง
นอกจากนี้แอรอนยังมีประเด็นกับเจน คุณแม่ของเขา ซึ่งเขาได้กล่าวหาว่าแม่ได้ยักยอกเงินกว่า 100,000 เหรียญออกจากบัญชีของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
อาชีพการเป็นนักร้องของแอรอนเริ่มมาสะดุดเมื่อมีปัญหาการฟ้องร้องในประเด็นด้านภาษี และประเด็นปัญหาเรื่องสัญญา ตามติดมาด้วยปัญหาอื่น ๆ ในเวลาต่อมา ในปี 2008 แอรอนถูกจับกุมในคิมเบิลเคาน์ตี้ รัฐเท็กซัส ในข้อหาครอบครองกัญชา
ในปี 2010 แอรอนได้ออกซิงเกิลใหม่ “Dance With Me” แต่ต่อมาก็ทำให้แฟน ๆ ช็อกเมื่อเขาเข้าไปอยู่ในสถานบำบัดเพื่อรักษาสุขภาพจิตและปัญหายาเสพติด และถูกปล่อยตัวในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
จากนั้นแอรอนจึงได้เข้าสู่โลกแห่งละคร โดยแสดงในรายการอย่าง ‘The Fantasticks’ ซึ่งทำให้แฟน ๆ ประหลาดใจ ในปี 2013 แอรอนได้กลับมาในเส้นทางสายดนตรีและออกทัวร์รอบโลก ‘After Party Tour’ แต่ในปีเดียวกันนี้แอรอนถูกฟ้องล้มละลายเนื่องจากปัญหาด้านภาษียังคงรบกวนเขามาตั้งแต่ปี 2003
ในปี 2017 เขาถูกจับในข้อหาขับรถเพราะมึนเมาและเสพกัญชาอีกครั้ง ในปี 2019 เขามีปัญหาทางกฎหมาย เนื่องจากเขาอ้างว่าแฟนสาวของเขา เมลานี มาร์ติน (Melanie Martin) พยายามแทงเขาและเขาต้องการคำสั่งห้ามซึ่งในที่สุดก็ได้รับอนุมัติ
ในเดือนมกราคม 2020 ศิลปินชาวเยอรมัน ‘โจนาส โจดิกก์ (Jonas Jödicke)’ ทวีตว่าแอรอนใช้งานศิลปะที่มีลิขสิทธิ์ของ เขาโดยไม่ได้รับอนุญาต สุดท้ายแอรอนได้ยอมจ่ายเงินให้โจดิกก์เป็นจำนวน 12,500 เหรียญสหรัฐฯ
ในเดือนมีนาคม 2020 ปัญหาด้านการเงินและอาชีพที่ยังไม่มั่นคงนักของแอรอน ทำให้เขาตัดสินใจเปิดบัญชี OnlyFans เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง โดยเก็บเงิน 50 ถึง 100 เหรียญหรือ 26 เหรียญต่อเดือนเพื่อเข้าไปดูภาพโป๊เปลือยของเขา OnlyFans ของแอรอนได้ถูกวิจารณ์ว่ามีราคาที่สูงและมีคอนเทนต์ที่แปลกประหลาด
และในปี 2021 แอรอนได้พลิกชีวิตใหม่ด้วยการเข้าสู่วงการมวยและได้ประกาศว่าจะมีการชกมวยนัดสำคัญระหว่างเขาและ โอมาร์ โอดอม (Lamar Odom) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายนของปีนั้น โอดอมชนะน็อกแอรอนในยกที่ 2 ในตอนนั้นแอรอนคิดว่าจะสามารถทำเงินได้จากการชกมวยแต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นไปดังที่ตั้งใจไว้
ต่อมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนี้ แอรอนได้รับการประกาศให้เป็นนักแสดงในโชว์ ‘Naked Boys Singing’ ที่ลาสเวกัส แต่ถูกยกเลิกก่อนที่โชว์จะเปิดตัวเพราะเขาปฏิเสธที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
และในเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเมลานีได้ให้กำเนิดลูกชายของเธอและแอรอนที่ชื่อว่า ‘พรินซ์ คาร์เตอร์ (Prince Carter)’ แต่ต่อมาได้มีประเด็นปัญหากันอีกครั้งในเดือนกันยายน 2022 เมื่อมีการฟ้องร้องสิทธิ์ในการดูแลลูก และแอรอนแพ้คดีเนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องการบำบัดรักษาอาการจากการใช้ยาเสพติด และเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกซึ่งมีอายุเพียง 10 เดือน
ทั้งคอนเทนต์ใน OnlyFans ที่แปลกประหลาด รวมถึงการกระทำที่เป็นปัญหาต่าง ๆ นานาในอดีต ล้วนแล้วแต่สร้างความสงสัยให้กับแฟน ๆ ของอดีตศิลปินเด็กผู้โด่งดังคนนี้ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามันจะต้องมีที่มาจากปัญหาสุขภาพทางจิตอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ในปี 2017 แอรอนเคยเปิดเผยในรายการเกี่ยวกับสุขภาพ ‘The Doctors’ เกี่ยวกับสุขภาพจิตของเขา และสารภาพในตอนล่าสุดของ Doctors ว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ความวิตกกังวล และโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว และได้รับการสั่งจ่ายยาจำนวนมากเพื่อจัดการกับความเจ็บป่วยของเขา
นอกจากปัญหาทางใจแล้วแอรอนยังมีปัญหาทางกายด้วย โดยเขาเป็นโรคขาดสารอาหารและมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติคือ 115 ปอนด์ (52 กก.) ในขณะที่มีส่วนสูงอยู่ที่ 6 ฟุต (1.8 ม.) โดยมีดัชนีมวลกาย 17 (ต้องมีค่า BMI อยู่ที่ 18.5 ถึง 25 ถึงจะอยู่ในช่วงปกติ) แอรอนได้รับคำแนะนำให้เข้าสู่โปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ สำหรับในตอนนี้สาเหตุการเสียชีวิตของแอรอนยังไม่ได้รับการเปิดเผย และกำลังมีการพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นและสาเหตุของการเสียชีวิตนี้คืออะไร
ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ แอรอน คาร์เตอร์ หนึ่งในศิลปินป๊อปของวงการดนตรีโลกที่ได้ฝากผลงานดี ๆ เอาไว้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย ผู้เป็นดวงดาราที่พยายามต่อสู้กับแรงดูดกลืนของหลุมดำในชีวิตตลอดมา
ที่มา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส